- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 04 August 2015 17:19
- Hits: 1357
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ช่วงนี้คาดกรอบลบจำกัด และยังลุ้นกลับไปแกว่งบวกขึ้นต่อได้!
กลยุทธ์ : ถึงแม้ว่าช่วงนี้ SET จะมีจังหวะปรับพักตัวลงบ้าง แต่เรายังคาดว่ากรอบลบมีจำกัด และยังลุ้นโอกาสพลิกกลับไปแกว่งตัวด้านบวกต่อเนื่องได้อีก ขณะที่นักลงทุนยังมีความหวังกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ที่อาจหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงถัดไปได้บ้าง ดังนั้นซื้อลบแล้วยังเน้นถือไว้ก่อน เพื่อรอแบ่งส่วนทำกำไรช่วงบวกต่อไป
หุ้นเด่นทางเทคนิค : SMT, GFPT, BDMS(short)
แนวโน้ม : เมื่อวานนี้ SET มีจังหวะปรับพักตัวลงแกว่งด้านลบบ้าง แต่ก็มีกรอบการปรับลงจำกัด และยังมีแรงซื้อกลับเข้ามาช่วยหนุนให้ดัชนีพลิกกลับมาปิดบวกเล็กน้อยได้อีก ขณะที่เมื่อคืนนี้แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดปรับตัวลงต่อเนื่อง จากตัวเลขดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐที่ชะลอตัวลงในเดือน ก.ค. และการใช้จ่ายผู้บริโภคขยายตัวต่ำสุดในรอบ 4 เดือน รวมทั้งราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ยังไหลลงต่อเนื่องเป็นปัจจัยกดดัน แต่ในช่วงท้ายตลาด ดัชนีดาวโจนส์ก็เริ่มที่จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาให้เห็นบ้าง ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่มีกรอบลบจำกัดเช่นกัน และหลายแห่งก็พอที่จะมีแรงซื้อผลักดันให้แกว่งด้านบวกสลับได้บ้างด้วย ทำให้ FSS ยังคาดว่ากรอบการปรับพักตัวลงของ SET ช่วงนี้จะมีกรอบไม่ลึกมากนัก และยังลุ้นโอกาสที่จะอยู่ในช่วงรีบาวด์ขึ้นต่อเนื่องได้อีก โดยคาดว่านักลงทุนยังรอติดตามรายละเอียดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ที่ รมว.คลังจะนำเสนอเข้า ครม.ในวันนี้(4 ส.ค.) อีกครั้ง ดังนั้นยังน่าสนใจเลือกหุ้นทยอยซื้อช่วงลบได้ เพื่อถือไว้ลุ้นทำกำไรช่วงตลาดแกว่งบวกต่อไป
แนวรับ 1440-1436 , 1430-1425 จุด
แนวต้าน 1445-1448 , 1453-1456 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$228 นำโดยไต้หวัน US$147 ล้าน เกาหลีใต้ US$54 ล้าน และไทย US$41ล้าน ขณะที่ไหลเข้าอินโดนีเซีย US$24.3 ล้าน และเวียดนาม US$1.4 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนน่าจะยังไหลออกหลังจากสหรัฐรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ฉุดบรรยากาศการลงทุนในตลาดภูมิภาค
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดกนง.คงดอกเบี้ย แม้จะเป็นอีกครั้งที่ตัดสินใจยากว่าจะ “ลด” หรือ “คง” อัตราดอกเบี้ย เพราะเศรษฐกิจยังต้องการยากระตุ้น แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่รวมถึงเราเชื่อว่ากนง.จะคงดอกเบี้ยที่ 1.5% ในการประชุมพรุ่งนี้ เพราค่าเงินบาทอ่อนลงมากในช่วงที่ผ่านมา (1 เดือนที่ผ่านมา อ่อนค่ากว่าเงินสกุลเอเชีย 2%) และหากภาครัฐเร่งเบิกจ่ายและกระตุ้นเศรษฐกิจได้ กนง.จะได้เก็บกระสุนไว้ หากกนง.คงดอกเบี้ย ค่าเงินบาทจะกลับมาแข็งค่าชั่วคราว ส่วนกลุ่มแบงก์ยังน่าสนใจโดยเฉพาะ KBANK, SCB, KTB เพราะถูก short sales มากสุด
(+) ADVANC กำไรดีกว่าคาด หากตัดรายการพิเศษออก กำไรปกติ 2Q15 -2.6% Q-Q ตามฤดูกาลแต่ +12.4% Y-Y สูงกว่าคาดเล็กน้อยจาก Regulatory Cost ที่ลดเหลือเพียง 12.5% ของรายได้ จาก 14.2% ใน 1Q15 เราปรับกำไรปีนี้ลงเล็กน้อย 5% เป็น 3.9 หมื่นล้านบาท +7% Y-Y ปรับราคาเป้าหมายปีนี้ลงเล็กน้อยเป็น 290 บาทจาก 300 บาท ยังแนะนำซื้อ เพราะแนวโน้มปีหน้ายังแกร่งมาก เราปรับสมมติฐานให้ ADVANC ได้ใบอนุญาตคลื่น 1800 MHz และ 900 MHz อย่างละ 1 ใบ กำไรปีนี้หน้าจะโต 31% Y-Y
(-) VGI กำไรปกติต่ำกว่าคาด หากไม่รวมรายการโอนกลับค่าเสียหายเบื้องต้นจากการยกเลิกสัญญากับ Big-C จำนวน 44 ล้านบาท กำไรปกติ 1Q16 (เม.ย.-มิ.ย. 2015) เหลือ 196 ล้านบาท -15% Q-Q, -24% Y-Y ต่ำกว่าคาด 22% จากต้นทุนและรายจ่ายสูงกว่าคาด กำไรดังกล่าวคิดเป็นเพียง 17% ของประมาณการทั้งปีของเรา ซึ่งน่าจะมีการปรับลงอีก อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นปัจจุบันสูงกว่าเป้าหมายที่ 4.40 บาท จึงยังคงแนะนำขาย
(0) TVO แนวโน้ม 2Q15 จะดีกว่าที่เคยคาด กำไรสุทธิน่าจะโต 9% Q-Q และ 11% Y-Y ถ้าไม่รวมกำไรอัตราแลกเปลี่ยน คาดกำไรปกติ +13% Q-Q, +5% Y-Y เป็น 517 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 5 เดือน เพราะอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นมากจากต้นทุนถั่วเหลืองของบริษัทที่ลดลง ชดเชยราคาขายกากถั่วเหลืองและน้ำมันถั่วเหลืองที่อ่อนตัวลงได้ เราคาดปันผล 0.90 บาท/หุ้นสำหรับ 1H15 (yield 3.7%) คงราคาเป้าหมาย 26 บาท ลดคำแนะนำจากซื้อ เป็นถือ เพราะราคาหุ้นปรับขึ้นตั้งแต่เราแนะนำให้ซื้อจน upside แคบลง
(-) TTA เราประเมินราคาเป้าหมายใหม่ได้ 13.30 บาท ลดลงจากเดิมที่ 20 บาท แต่ราคาหุ้นที่ปรับลงมาต่ำกว่าทำให้เราแนะนำถือ การปรับราคาเป้าหมายเกิดจากธุรกิจเกือบทั้งหมดยังมีปัจจัยกดดัน เรือเทกองยังมีปัญหาที่ค่าระวางฟื้นตัวจำกัด ธุรกิจของเมอร์เมดไม่สดใสเหมือนก่อนเพราะราคาน้ำมันที่ตกต่ำ ทำให้งบประมาณการสำรวจน้ำมันใต้ทะเลของผู้ประกอบการถูกตัดออกไป และยังมีเรือที่ว่างงานอยู่ ยังไม่ได้ลูกค้า ส่วนธุรกิจปุ๋ยในเวียดนาม (PMTA) ยังทำกำไรได้ เราคาดกำไรปกติปีนี้หดตัว 53% Y-Y
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อที่ผ่านมาปิดในแดนลบหลังตัวเลขเศรษฐกิจออกมาย่ำแย่ ขณะที่หุ้นในกลุ่มพลังงานยังร่วงลงกดดันตลาดจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลง
(+) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาส่วนใหญ่ปิดในแดนบวกได้ หลังผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนใหญ่ๆหลายแห่งออกมาแข็งแกร่ง ซึ่งบดบังปัจจัยลบจากการดิ่งลงของตลาดหุ้นกรีซ
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในกรอบแคบโดยจับตาดูนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลายๆแห่งในภูมิภาค
(0) ค่าเงินบาทแกว่งตัว Sideway ในกรอบ 35.00-35.15 บาท/ดอลลาร์หลังจากที่แข็งค่าแรงเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. ปิดที่ 45.17 เหรียญ/บาร์เรล ร่วงลงอีก 1.95 ดอลลาร์/บาร์เรล ต่ำที่สุดในรอบ 6 เดือนโดยนักลงทุนผิดหวังกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯและจีน ขณะที่กลุ่ม OPEC ยืนยันว่าจะไม่ลดกำลังการผลิตแม้อุปทานจะล้นตลาด
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดที่ 1,089.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 5.70 เหรียญ/ออนซ์ จากดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้น ขณะที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ในช่วงปลายปีนี้ยังกดดันราคาทองคำ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
4-ส.ค. - ออสเตรเลีย: ธนาคารกลาง (RBA)ประชุม
- อินเดีย: ธนาคารกลาง (RBI)ประชุม
5 ส.ค. - ไทย: กนง.ประชุม, ASEFA เข้าเทรด (ราคา IPO 3.70 บาท)
- อินโดนีเซีย: 2Q15 GDP
- สหรัฐ:การจ้างงานภาคเอกชน (ADP Report) (ก.ค.)
- ยูโรโซน:Markit Eurozone Composite PMI (ก.ค.),ยอดค้าปลีก (มิ.ย.)
6 ส.ค. - ไทย:ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ค.)
ญี่ปุ่น: ธนาคารกลาง (BOJ)ประชุม
- สหรัฐ: ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์
10-ส.ค. - ไทย: COM7 เข้าเทรด (ราคา IPO 3.35 บาท)
13 ส.ค. - ไทย: PIMO เข้าเทรด (ราคา IPO 1.30 บาท),กพช.ประกาศการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (ไม่รวมแสงอาทิตย์) (เลื่อนมาจาก 29 ก.ค.)
- จีน:ดุลการค้า (มิ.ย.)
14-ส.ค. - ฮ่องกง: 2Q15 GDP
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
- สิงคโปร์: 2Q15 GDP
- ยูโรโซน: 2Q15 GDP, เงินเฟ้อ (ก.ค.), ZEW Survey Expectations (ก.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research