- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 03 August 2015 16:48
- Hits: 2302
บล.ธนชาต : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Outlook
Technical Rebound ต่อ เป้าหมาย 1,456/1,490 จุด…เสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม 4 ส.ค.นี้: PTT และธนาคารขนาดใหญ่ หนุน SET ปิด +1.60% ที่ 1,440.12 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.9 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นสุทธิ 2.9 พันล้านบาท...การฟื้นตัวยืนเหนือ 1,425 จุด เป็นสัญญาณ “บวก” ทางเทคนิค และจาก 1) การเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวันที่ 4 ส.ค.นี้ 2) แนวโน้มผลการดำเนินงานหุ้นกลุ่มสื่อสารอย่าง ADVANC INTUCH ออกมาดี 3) ความคืบหน้าในการปรับ ครม. ในช่วง ส.ค.-ก.ย.นี้ จะเป็นปัจจัยหนุนการฟื้นตัวต่อเนื่องเป้าหมาย 1,456/1,490 จุด ขณะที่การประชุม กนง.วันที่ 5 ส.ค.นี้ เราคาดว่า ธปท.คงดอกเบี้ยที่ 1.50% หลังค่าเงินบาทอ่อนค่าแล้ว ~7% ตั้งแต่ มี.ค.ที่ผ่านมา
“ซื้อ” KBANK SCC และ CENTEL: กลยุทธ์หลักแนะนำ “Selective” กลุ่มหุ้น Yield Plays และรับเหมาฯ อย่าง INTUCH ADVANC TRUEIF STEC CK SEAFCO รวมไปถึง EA ต่อ รวมไปถึง แนะนำ 1)“ซื้อ” SCC Olefin Spread สูง กำไร 2Q15 ดีกว่าคาด มีโอกาสปรับประมาณการกำไร 2) “ซื้อ” KBANK ราคาสะท้อนเศรษฐกิจฟื้นตัวช้าไปแล้ว PBV ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต 18% และ 3) “ซื้อ” CENTEL คาดกำไร 2Q15 เติบโตสูง +500% y-y ที่ 252 ล้านบาท (ดูรายงาน CENTEL วันนี้เพิ่ม)
Tactical Portfolio (1-3 months)
TNS แนะนำ BDMS BLA CK INTUCH EA SAMART SIRI SEAFCO STEC และ TTCL เป็นหุ้นสำหรับลงทุนระยะ 1-3 เดือน
Tactical Portfolio: Tactical Portfolio ให้อัตราผลตอบแทน -1.2% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (27-31 ก.ค. 2015) ขณะที่ SET ให้อัตราผลตอบแทน +0.1% หรือมีอัตราผลตอบแทนต่ำกว่า SET อยู่ 1.3% เนื่องจากการฟื้นตัวช่วงปลายสัปดาห์ของ SET นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคารเป็นหลัก ซึ่ง Tactical Portfolio ได้ให้น้ำหนักลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคารทำให้ผลตอบแทนออกมาต่ำกว่าตลาดมาก ทั้งนี้ SIRI และ INTUCH ให้อัตราผลตอบแทนสูงที่สุดในพอร์ต หรือ +1.8% และ +1.2% w-w ขณะที่ SEAFCO ให้อัตราผลตอบแทนต่ำที่สุดในพอร์ต หรือ -6.5% เนื่องจากคาดการณ์ผลการดำเนินงาน 2Q15 อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม อย่างไรก็ตามเราคาดว่าการเปิดประมูลโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลตั้งแต่ 2H15 เป็นต้นไป จะเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มรับเหมาฯ จึงยังเป็นหุ้นกลุ่มหลักอยู่ใน Tactical Portfolio ได้แก่ STEC, CK และ SEAFCO...ทั้งนี้ Tactical Portfolio ให้อัตราผลตอบแทน -2.68% ตั้งแต่ต้นปี 2015 และ 56.0% ตั้งแต่เริ่มจัดตั้งขึ้นมาเมื่อวันที่ 13 ม.ค.14 ขณะที่ SET ให้อัตราผลตอบแทน -3.84% และ 13.9% ตามลำดับ
Technical
ลุ้นรีบาวด์ต่อระยะสั้น แต่ระยะกลางยังดูเสี่ยง:
SET รีบาวด์กลับได้แรงปิดที่ระดับสูงสุดของวันได้ที่ 1,440 จุด ระยะสั้นมีลุ้นแกว่งขึ้นต่อไปที่ 1,450 และ/หรือ 1,480-1,500 จุด ขณะที่ความเสี่ยงระยะกลางยังคงอยู่ กรณีแกว่งลงหลุด 1,433 จุดอาจถอยลงไปที่แนวรับ 1,430-28 และ 1,423 จุดตามลำดับ
หุ้นแนะนำ:
CPALL เข้าส่วนหนึ่งที่ 47.50 และเข้าเพิ่มเมื่อทะลุ 48.50 ระหว่างวัน เล็งทำกำไรที่ 54 บาท
PT เข้าเล็งแบ่งทำกำไรที่ 13.40 บาท
BEAUTY เข้าเมื่อทะลุ 4.28 บาท ระหว่างวัน
CPF ซื้อคืน เพื่อ Stop Loss ที่ Short ไป
รายละเอียดติดตามเพิ่มเติมได้ในรายงาน The Technical Story
TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ “เปิด”/“ถือ” สถานะ Long หลังทะลุ 924 จุด ขึ้นมาส่งผลให้สถานะ Long กลับมาได้เปรียบ ด้วยเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 940-943 จุด ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 924 จุด
Gold Futures: แนะนำ “Trading” ในกรอบ 18,000-18,400 บาท รอยืนยันการเปิดสถานะใหม่อีกครั้ง ล่าสุดราคาทองคำปรับสูงขึ้น US$6.4/ออนซ์ จากความคาดหวังต่อการขึ้นดอกเบี้ย Fed ชะลอออกไป โดยตัวเลขที่ต้องติดตามได้แก่การจ้างงานนอกภาคเกษตรวันที่ 7 ส.ค.นี้
Oil Futures: แนะนำ “Trading” ในกรอบ 1800-1950 สัญญา BRQ15 ล่าสุดราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง US$1.1/bbl เนื่องจากรายงานจำนวนแทนขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้มีความกังวลต่อภาวะอุปทานส่วนเกินต่อเนื่อง
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล
วิชนันท์ ธรรมบำรุง