- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 31 July 2015 15:57
- Hits: 1103
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Today’s Report : MINT, KKP, SCC
Our Portfolio Jul 2015 : ADVANC, CK, LPN, MTLS, ROBINS
SET ยังลุ้นบวกต่อได้ ดังนั้นซื้อแล้วเน้นถือรอทำกำไรช่วงบวก
กลยุทธ์ : FSS คาดว่า SET ยังมีลุ้นแรงซื้อกลับเข้ามาช่วยหนุนให้ดัชนีแกว่งบวกต่อเนื่องได้ หลังจากช่วงที่ผ่านมาตลาดปรับตัวลงลึกมากแล้ว ขณะที่เฟดยังไม่มีกำหนดเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ย และนักลงทุนยังหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ รมว.คลังไทย ดังนั้นยังเลือกหุ้นทยอยซื้อช่วงลบทั้งเทรดดิ้งและถือลงทุนระยะกลางแล้วเน้นถือ เพื่อรอรีบาวด์ต่อไปได้
หุ้นเด่นทางเทคนิค : BEAUTY, SIAM, SGP(short)
แนวโน้ม : เมื่อวานนี้(30 ก.ค.) SET ปิดทำการ 1 วัน ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียยังมีทั้งที่เคลื่อนไหวเป็นบวกและลบคละกันไป ถึงแม้ว่าค่ำวันพุธที่ 29 ก.ค. ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปจะปิดกันค่อนข้างดี หลังผลประชุมเฟดยังไม่มีการส่งสัญญาณชัดเจนถึงกำหนดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐก็ตาม แต่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาอ่อนแอกว่าคาดก็ยังสร้างความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจโลกอยู่ด้วย ทำให้เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นยุโรปปิดเป็นบวกไม่มาก และดัชนีดาวโจนส์ย้อนลบเล็กน้อย และตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ก็ยังแกว่งตัวค่อนข้างไร้ทิศทางอยู่เช่นเดิม แต่เนื่องจาก SET ปรับตัวลงมารับข่าวลบไปพอควรแล้วในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับนักลงทุนยังมีความหวังกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 6 เรื่องที่ รมว.คลัง ประกาศว่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม ครม.ในวันที่ 4 ส.ค. ด้วย จึงทำให้ FSS ยังคาดหมายว่า SET มีโอกาสที่จะยังอยู่ในช่วงรีบาวด์ขึ้นต่อเนื่องได้ตามคาด ถึงแม้ว่าในช่วงดีดขึ้น ดัชนีอาจจะยังมีจังหวะแกว่งตัวผันผวนและย้อนลบให้เห็นเป็นระยะด้วยก็ตาม
แนวรับ 1416-1413 , 1410-1408 จุด
แนวต้าน 1422-1426 , 1430-1434 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคแต่เบาบาง US$20 ล& 63243;าน โดยไหลเข้าจากไต้หวัน อินโดนีเซีย และเวียดนาม ที่ US$34 ล้าน US$ 21 ล้าน และ US$1.3 ล้าน ตามลำดับ แต่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$26 ล้าน และ ฟิลิปปินส์ US$10 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนน่าจะยังอยู่ในทิศทางไหลออกแม้ว่า GDP สหรัฐจะออกมาดีเกินคาดซึ่งหนุนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง แต่แค่ชั่วคราวเพราะตลาดยังกังวลต่อผลประกอบการ 2Q15
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) สัญญาณ Fed ขึ้นดอกเบี้ยปลายปีนี้ชัดเจนขึ้น GDP 2Q15 (คาดการณ์ครั้งแรก) +2.3% Q-Q annualized และมีการ revised GDP 1Q15 ขึ้นจากเดิมที่ประกาศ -0.2% เป็น 0.6% จากการใช้จ่ายของประชาชนที่ดีขึ้น (การจ้างงานและค่าจ้างดีขึ้น) ตลาดส่วนใหญ่คาดว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรก ก.ย. นี้แต่จะปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป การขึ้นดอกเบี้ย Fed จะทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าและกดดัน Commodity
(+) คลังชง 6 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (ช่วยเหลือรากหญ้า ปลุกกำลังซื้อ เร่งเบิกจ่ายงบฯ) เสนอครม. 4 ส.ค. ก.คลังคาดว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจโต 3.2% มาตรการส่วนใหญ่แม้ไม่ใช่ของใหม่แต่หากทำได้ตามเป้าย่อมช่วยเศรษฐกิจได้ เพราะเศรษฐกิจไทยควรขับเคลื่อนด้วยการลงทุนมากกว่าการส่งออกหรือการบริโภค แต่ผ่านมา 9 เดือนของงบประมาณปี 2015 งบลงทุน (17% ของเงินงบประมาณ) ถูกเบิกจ่ายไปเพียง 43% หรือ 1.95 แสนล้านบาท หากรัฐเร่งเบิกจ่ายน่าจะดึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศกลับมาได้ โดยเฉพาะต่างชาติที่ขายหุ้นไทยมา 2 ปีครึ่งเป็นเม็ดเงินกว่า 2 แสนล้านบาท ทั้งนี้ มีการพูดถึงการกระตุ้นงบของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท จะเป็นประโยชน์ต่อ TASCO การปล่อยสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ เป็นประโยชน์ต่อ MTLS และช่วยเหลือเกษตรกร เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มค้าปลีก
(+) SCC กำไรดีกว่าเราและตลาดคาดถึง 20-25% จากธุรกิจปิโตรเคมีที่ดีกว่าคาด และกำไรจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือมากกว่าคาด หักล้างกำไรของธุรกิจปูนซีเมนต์และกระดาษที่แย่ลงได้หมด โดยกำไรสุทธิ 2Q15 เพิ่มถึง 25% Q-Q และ 63% Y-Y แนวโน้มข้างหน้ายังสดใส วัฏจักรของธุรกิจปิโตรเคมีจะอยู่ในทิศทางขาขึ้นไปอีก 4 ปีจาก Supply ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาน้อย และราคาน้ำมันดิบทรงตัวในระดับต่ำ และขยายกำลังการผลิตปูนซีเมนต์ในประเทศเพื่อนบ้าน รับการขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐาน เราปรับกำไรปีนี้ขึ้น 5% เป็นโต 33% Y-Y ปรับเป้าหมายขึ้นเป็น 580 บาทจาก 550 บาท เพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ จากเดิมถือ SCC ประกาศจ่ายปันผล 7.50 บาท/หุ้น (Yield 1.5%) XD 10 ส.ค.
(-) MINT เราคาดกำไรปกติ 2Q15 หดตัว 1.5% Y-Y ลดลง Y-Y เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 5 ปี และลดลง 64% Q-Q ตามฤดูกาล เหลือ 539 ล้านบาท โดยมีธุรกิจอาหารกดดันเพราะ Same store sales ที่กลับมาติดลบ 1.6% Y-Y ตามการบริโภคในประเทศที่ยังไม่ฟื้น ส่วนร้านอาหารที่สิงคโปร์มีปิดปรับปรุง ส่วนธุรกิจโรงแรมโตน้อยกว่าที่ควรจะเป็น โดยโรงแรมในต่างประเทศเป็นตัวฉุด (น่าจะกระทบต่อเนื่องใน 2H15) แม้โรงแรมในกรุงเทพจะฟื้นโดดเด่นแต่ชดเชยไมได้ เราปรับกำไรปกติปีนี้ลง 17% เหลือโตเพียง 8% Y-Y ลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 32.50 บาทจาก 38.20 บาท แม้ราคาหุ้นจะมี upside กว่า 10% ซึ่งทำให้เรายังคงแนะนำซื้อ แต่ยังคงชอบ CENTEL มากที่สุดในกลุ่ม
(0) KKP เราปรับลดกำไรสุทธิปี 2015 ลง 12% เหลือ 2.3 พันล้านบาท หดตัว 10.4% Y-Y โดยเพิ่มการตั้งสำรองฯ สะท้อนความเสี่ยงจากสินเชื่อโครงการอสังหาฯที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปีและน่าจะต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง ลดราคาเป้าหมายเหลือ 35 บาท จาก 38 บาทราคาหุ้นล่าสุดสะท้อนคุณภาพหนี้และตอบรับ Coverage ratio ที่ 130% ซึ่งเป็นระดับเท่ากับกลุ่มแล้ว (ปัจจุบันอยู่ที่ 73%) จึงคาดว่า Downside เริ่มจำกัด แต่ยังขาดปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้น ยังแนะนำถือ คาดเงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.50 บาท (Yield 1.6%)
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดทรงตัวหลังตัวเลข GDP 2Q15 ของสหรัฐฯขยายตัวน้อยกว่าที่ตลาดคาด ขณะที่ FED ยังคงอัตราดอกเบี้ยที่น้อยกว่า 0.25%
(+) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนบวกได้ต่อเนื่องจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาสดใส
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในกรอบแคบหลังตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดทรงตัว ขณะที่ราคา Commodity ที่ปรับลงรวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่อ่อนแอยังเป็นปัจจัยกดดัน
(-) ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าลงแรงอีกครั้งวานนี้หลังแกว่งออกข้างในช่วงก่อนหน้า ล่าสุดแกว่งตัวในกรอบ 35.05-35.20 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. ปิดที่ 48.52 เหรียญ/บาร์เรล ขยับลง 0.27 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นรวมถึง EIA ที่รายงานว่าสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯร่วงลงเกินคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ระยะยาวยังถูกกดดันจากภาวะ Oversupply
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดที่ 1,088.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 4.60 เหรียญ/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ขณะที่ GDP 2Q15 มีการขยายตัวดีขึ้น Q-Q ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนยังกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ในปลายปีนี้
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
31-ก.ค. - ไทย:ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน มิ.ย.
- ไต้หวัน: 2Q15 GDP
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ก.ค.)
1-ส.ค. - จีน: Manufacturing & Non-manufacturing PMI(ก.ค.)
3-ส.ค. - ไทย:อัตราเงินเฟ้อ (ก.ค.)
- สหรัฐ:Personal Income, Personal Spending (มิ.ย.)
4-ส.ค. - ออสเตรเลีย: ธนาคารกลาง (RBA)ประชุม
- อินเดีย: ธนาคารกลาง (RBI)ประชุม
5 ส.ค. - ไทย: กนง.ประชุม, ASEFA เข้าเทรด (ราคา IPO 3.70 บาท)
- อินโดนีเซีย: 2Q15 GDP
- สหรัฐ:การจ้างงานภาคเอกชน (ADP Report) (ก.ค.)
- ยูโรโซน:Markit Eurozone Composite PMI (ก.ค.),ยอดค้าปลีก (มิ.ย.)
6 ส.ค. - ไทย:ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ค.)
- สหรัฐ: ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์
10-ส.ค. - ไทย: COM7 เข้าเทรด (ราคา IPO 3.35 บาท)
13 ส.ค. - ไทย: PIMO เข้าเทรด (ราคา IPO 1.30 บาท)
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch