WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

May copyบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 

 

กลยุทธ์วันนี้ Rebound

ตลาดหุ้นวานนี้:
        ตลาดหุ้นไทยวานนี้ แม้ว่าจะมีความพยายามในการฟื้นตัว แต่ก็เกิดแรงขายในหุ้นหลักกลุ่มธนาคารอย่าง KBANK/ BBL และหุ้นขนาดกลางและเล็ก กดดัน SET INDEX ปรับฐานลงมาทดสอบแนว 1,400-1,405 จุด เกือบตลอดชั่วโมงการซื้อขาย อย่างไรก็ตาม หุ้นขนาดใหญ่เริ่มทรงตัวดีขึ้น ช่วยประคองให้ SET INDEX ณ ระดับปิดของวันลบ 4.48 จุด มาอยู่ที่ 1,408.07 จุด แต่ SET50 Index ปิดบวก 0.73 จุด มาอยู่ที่ 926.83 จุด มูลค่าการซื้อขาย 39,339 ล้านบาท
       กระแสเงินทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 5 อีก 1,823 ล้านบาท แต่คงการ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 อีก 3,483 สัญญา แม้ว่ากลับมาขายสุทธิตลาดตราสารหนี้อีกครั้ง 727 ล้านบาทก็ตาม

ปัจจัยสำคัญวันนี้
สศค.ปรับลด GDP ปีนี้ลงเหลือ 3.0% จากเดิม 3.7% โดยปรับลดประมาณการส่งออกเป็นสำคัญ แต่อยู่สูงกว่าที่ตลาดประเมินไว้ราว 2.5% +/-
iShare MSCI Thailand ETF วานนี้ปิดบวก 0.70% dod ส่งสัญญาณการฟื้นตัวของหุ้นหลักในวันนี้
ติดตามผลการดำเนินงาน 2Q58 ของ SCC คาดว่าจะประกาศหลังปิดตลาดรอบเช้าวันนี้
ติดตามการประชุมเฟดคืนนี้

มุมมองต่อตลาด
เราคงน้ำหนักการลงทุนวันนี้เป็น "กลาง" วันที่ 17 พร้อมประเมิน SET INDEX ยังคงแกว่งกรอบระหว่าง 1,400-1,420 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นระดับ 4.0 หมื่นล้านบาท/วัน ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงคาบเกี่ยววันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทยในปลายสัปดาห์นี้ ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ต่างทยอยปรับพอร์ตระยะสั้น เพื่อปิดความเสี่ยงช่วงวันหยุดดังกล่าว
      อย่างไรก็ตาม สัญญาณเชิงบวกจากผลการดำเนินงาน 2Q58 ที่ทยอยประกาศออกมาวานนี้ SCCC / DCC ออกมาอยู่ในเกณฑ์ที่ดี จากการควบคุมต้นทุนการผลิต และการเปิดตลาดไปยัง CMLV ทำให้เราเชื่อว่าโอกาสที่จะมีการปรับประมาณการกำไรของปี 2558 อีกระลอกเป็นไปอย่างจำกัด ขณะที่หุ้นใหญ่วันนี้มีแนวโน้มการฟื้นตัว หลัง iShare MSCI Thailand ETF เริ่มฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี
ภาวะการลงทุนวานนี้เป็นจุดที่น่าสนใจอย่างยิ่ง SET50 Index ปิดบวกเล็กน้อย 0.73 จุด แต่ SET INDEX ปิดลบ 4.48 จุด สะท้อนหุ้นหลักของตลาดหุ้นไทยเริ่มทรงตัวหรือมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น หลังจากที่ SET50 Index ปรับฐาน -6.41% YTD สะท้อนถึงความเปราะบางของผลการดำเนินงานที่สอดรับกับภาพรวมเศรษฐกิจในปีนี้ที่เผชิญกับการชะลอตัวของภาคการส่งออก และการบริโภคภายในประเทศ อีกทั้ง Valuation ของ SET INDEX ณ ระดับปิดปัจจุบัน 1,408.07 จุด คิดเป็น 1Yr Forward PER เท่ากับ 14.63x และ 2Yr Forward PER เท่ากับ 12.74x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปีของกรอบ -1SD ของ 1Yr และ 2Yr Forward PER ที่ 14.90x และ 12.97x ตามลำดับ ทำให้เชื่อว่านักลงทุนระยะกลางถึงยาว เริ่มกลับมาเลือกหุ้นหลักที่มีความสามารถในการทำกำไรอย่างแข็งแกร่ง พร้อมผลตอบแทนจากเงินปันผล 3-4% เป็นทางเลือก
     ขณะที่นักลงทุนทั่วโลก ต่างรอดูผลการประชุมเฟดในค่ำคืนนี้ ต่อมุมมองของช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ณ ปัจจุบันตลาดประเมินโอกาสการประชุมเดือนก.ย. เฟดจะพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2551 หากเป็นไปตามที่ตลาดประเมิน ตลาดหุ้นทั่วโลกมีโอกาสฟื้นตัวช่วงสั้น หลังจากปรับฐาน เพื่อปิดความเสี่ยงต่อการประชุมเฟดในวันนี้
เราประเมินว่าปัจจัยที่จะกลับมาเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนได้ในภาวะเช่นนี้ ได้แก่ 1) ค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ทรงตัวหรือแกว่งในกรอบแคบลง และ/หรือ 2) การปรับครม. โดยเฉพาะอย่างยิ่งทีมเศรษฐกิจ แม้ว่าปัญหาต่างๆ ที่สะสมมาเป็นเวลานาน ทำให้การทำงานของครม.ต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหา แต่ ณ ปัจจุบัน เศรษฐกิจภายในประเทศที่เดินหน้าในระดับต่ำเพียงเพราะขาดความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ หากการปรับเปลี่ยน เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากภาคเอกชน ย่อมเป็นทางเลือกที่ดีในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้


กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนระยะกลาง ยังคงสามารถเลือกสะสมหุ้นในลักษณะ Bottom Fishing เน้นที่ประเด็นพื้นฐานการลงทุน และ/หรือ ผลตอบแทนปันผลทั้งปีไม่ต่ำกว่า 4.0% เป็นเกณฑ์การเลือกหุ้นลงทุน ภายใต้ภาวะการลงทุนที่อ่อนแอในปัจจุบัน"

Top Pick in 3Q15: BCP / BMCL/ IFEC / WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ WHA/ THAI/ BCP/ IFEC/ INTUCH


Accumulative Buy: SCC / TPIPL

Stock Pick of the Day

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "ทยอยสะสม" ได้แก่
1. SCC : ราคาปิด 510.00 บาท ราคาเหมาะสม 570.00 บาท
a) SCC จะรายงานงบ 2Q58 ในวันนี้ โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตสูง +31% yoy เป็น 1.12 หมื่นล้านบาท จากแรงหนุนของสเปรดธุรกิจปิโตรเคมีทั้ง HDPE และ PP ที่ปรับตัวขึ้น เนื่องจากได้ประโยชน์โดยตรงจากต้นทุนน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง
b) คงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการใน 2H58 เนื่องจากเชื่อว่ายอดขายปูนซีเมนต์ในประเทศจะเร่งตัวขึ้นจากงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐฯที่เริ่มเข้าสู่ระบบ และธุรกิจปิโตรเคมียังสดใสจากราคาน้ำมันดิบที่แกว่งตัวในระดับต่ำ
c) ผลักดันให้กำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +22.9% yoy เป็น 41,322 ล้านบาท และต่อเนื่อง +10.1% yoy ในปี 2559 เป็น 45,494 ล้านบาท
d) คาดการณ์เงินปันผล 1H58 หุ้นละ 6.00 บาท คิดเป็น Dividend Yield ราว 1.2% และทั้งปี 2558 หุ้นละ 16.53 บาท คิดเป็น Dividend Yield 3.2%
2. TPIPL : ราคาปิด 2.28 บาท ราคาเหมาะสม 3.40 บาท
a) MBKET เชื่อว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลง -26% ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ได้สะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว ทั้งประเด็นการถูกฟ้องร้องเรื่องการทำแร่นอกเขตประทานบัตร และผลประกอบการ 2Q58 ที่คาดว่าจะขาดทุนสุทธิจากรายการ FX loss ของค่าเงินยูโรราว 500-600 ล้านบาท
b) ราคาหุ้นมีแนวโน้มฟื้นตัว จากประเด็นบวกคือโรงไฟฟ้าขยะอีก 55MW คาดว่าจะเริ่มจ่ายไฟ (COD) ได้ในเดือน ส.ค. และเป็นปัจจัยผลักดันผลประกอบการใน 2H58 ให้เติบโตโดดเด่นจาก 1H58
c) Downside Risk ค่อนข้างจำกัด เนื่องจากซื้อขายที่ระดับ PBV2558 เพียง 0.77 เท่า ต่ำกว่า SCC และ SCCC ที่ 3.02 เท่า และ 3.72 เท่า ตามลำดับ

Fund Flow Analysis

Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียขายสุทธิวันที่ 5 อีก US$317 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$203 ล้าน
เป็นการขายสุทธิทุกตลาดวันที่ 2

 

Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติทยอยปิด Short ใน SET50 Index Futures ต่อเนื่อง
นักลงทุนต่างชาติคงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 7 อีก 1,823 ล้านบาท รวม 7 วันทำการ ขายสุทธิ 10,496 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ ขายสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 43,643 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติคงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 3,483 สัญญา รวม 2 วันทำการ Long สุทธิ 8,677 สัญญา เทียบกับ 7 วันทำการก่อนหน้า short สุทธิ 17,213 สัญญา คาดเป็นการทยอยปิดสถานะ short ส่งผลให้ S50U15 ปิดต่ำกว่า Set50 Index แคบลงเป็น 11.63 จุด จากวันก่อนหน้า Discount กว้างถึง 16.10 จุด ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิเท่ากับ 49,612 สัญญา
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาขายสุทธิอีกครั้ง 727 ล้านบาท เป็นการปรับพอร์ตตลาดตราสารหนี้ช่วงสั้นๆ เท่านั้น ขณะที่ราคาพันธบัตรไทยทรงตัวต่อเนื่อง ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลง 0.29bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 0.09bps ปิดที่ 2.816%

Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงเล็กน้อยเป็น 1,066 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 1,459 ล้านบาท

NVDR Movement
NVDR กลับมาขายสุทธิ เน้นกลุ่มธนาคารอีกครั้ง
การซื้อขายผ่าน NVDR กลับมาขายสุทธิ 1,068 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 574 ล้านบาท กลับมาเน้นลดน้ำหนักกลุ่มธนาคารอีกครั้ง

สรุปภาพรวมได้ดังนี้
1. กลุ่มธนาคารกลับมาถูกขายสุทธิหนาแน่นอีกครั้ง 935 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 68 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มขนส่ง ขายสุทธิ 126 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 462 ล้านบาท และกลุ่ม ICT ขายสุทธิ 106 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 233 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ถูกซื้อสุทธิสูงสุด แต่ก็เพียง 61 ล้านบาทเท่านั้น

ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค

 

สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมากลางถึงลบ
ดัชนีราคาบ้าน S&P CS เดือนพ.ค. หดตัว 0.2% mom สวนทางกับที่ Bloomberg consensus คาด 0.3% mom และเดือนก่อนหน้าที่ 0.0% mom การชะลอตัวของราคาบ้านเป็นไปในวงกว้าง 12 ใน 20 เมืองหลักที่ใช้ในการคำนวณ และเป็นการชะลอตัวเดือนที่ 2 ติดต่อกัน
ดัชนี Flash PMI ภาคบริการ เดือนก.ค. เท่ากับ 55.2 จุด ดีกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 54.8 จุด คำสั่งซื้อใหม่ทำระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 3 เดือน จากการเร่งการใช้จ่ายเพื่อการบริโภค และลูกค้าภาคธุรกิจ
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือนก.ค. เท่ากับ 90.9 จุด ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 99.6 จุด และเดือนก่อนหน้าที่ 99.8 จุด

ยุโรป
เศรษฐกิจอังกฤษขยายตัวดีกว่าคาด: GDP ใน 2Q58 เติบโต 0.7% qoq เป็นการเติบโตไตรมาสที่ 10 และเร่งตัวขึ้นจาก 1Q58 ที่เติบโต 0.4% qoq แต่สอดคล้องกับที่ Bloomberg consensus คาดการณ์ โดยภาคบริการเติบโต 0.7% qoq ขณะที่อุตฯ น้ำมันและก๊าซ ช่วยทำให้ผลผลิตภาคอุตฯ เติบโต 1.0% qoq เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 4Q53 แต่ภาคการผลิตลดลง 0.3% qoq ส่วนการก่อสร้างทรงตัว

จีน
ไม่มี

 

เอเชียแปซิฟิก
เกาหลีใต้ประกาศปลอดโรค "เมอร์ส": นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ ฮวาง เคียวอัน ประกาศว่า ประชาชนไม่ต้องกังวลกับการระบาดของโรคเมอร์สอีกต่อไป และขอให้ทุกคนกลับไปดำเนินกิจกรรมต่างๆ ตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ, วัฒนธรรม, การพักผ่อนและการศึกษา

 

ไทย
สศค.ปรับลด GDP ปีนี้ลงเหลือ 3.0%: สศค. ได้ปรับประมาณการไทยในปี 2558 เหลือ 3.0% จากเดิมที่คาดการณ์ว่า ขยายตัว 3.7% เนื่องจากการส่งออกของไทยคาด -4% ปีนี้ จากเดิมคาด +0.2% จากผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก ที่ชะลอตัวลง และได้รวมปัจจัยที่ทางสหรัฐฯ คงสถานการณ์การค้ามนุษย์ไว้ที่ระดับเทียร์ 3 ของไทยแล้ว ทั้งนี้ปรับประมาณการการลงทุนจากภาครัฐเพิ่มขึ้น 19.6% จากเดิม +9.5% ส่วนรายการอื่นๆ ได้ปรับประมาณการลง เช่นเดิมกับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาด -0.6% จากเดิม +0.2%
เคาะรถไฟฟ้าบางหว้า-ตลิ่งชันใช้แนวราชพฤกษ์ไม่มีเวนคืน: ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.)กรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวว่า จากการเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนทั้ง 2 ครั้ง ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้มีการก่อสร้างโดยเร็วที่สุดและได้มีข้อสรุปจะดำเนินการก่อสร้างในแนวเส้นทางที่ 1 จากการศึกษาไว้ทั้งหมด 3 เส้นทางคือ เริ่มต้นจากรถไฟฟ้าสถานีบางหว้าที่โรงจอดรถบริเวณบางหว้าวิ่งตามแนวถนนราชพฤกษ์โดยใช้พื้นที่เกาะกลางถนนผ่านแยกตัดบางแวกบริเวณซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 ผ่านทางแยกถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 จากนั้นยกระดับข้ามทางแยกตัดถนนบรมราชชนนีและยกระดับข้ามทางวงแหวนกาญจนาภิเษกและสิ้นสุดบริเวณทางลาดลงของสะพานข้ามรถไฟสายสีแดงอ่อนช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน และรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงตลิ่งชัน-มีนบุรี ระยะทางรวม 7.5 กิโลเมตร มี 6 สถานี ซึ่งเป็นเส้นทางที่ไม่ต้องเวนคืนที่ดิน

ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวเป็นเดือนที่ 4: ลดลง 8.0% yoy ในเดือน มิ.ย. ซึ่งเป็นการลดลงเป็น เดือนที่ 4 ติดต่อกัน และหดตัวแรงกว่าที่ตลาดคาดหดตัว 5.15% เป็นผลจากการผลิตที่ลดลงในอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ, โทรทัศน์, รถยนต์, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และ เบียร์ ขณะที่ดัชนี MPI ใน 2Q58 ลดลง 7.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และช่วง 6M58 หดตัวลง 3.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!