WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

GBX copyบล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

Market View : ปัจจัยลบรุมเร้า
Stock of the town : KASET BGT
Analyst Meeting : PYLON
หุ้นเด่นรายวัน : CHOW TRC HMPRO

  SET วานนี้ทรุดตัวลงแรงจากความกังวล FED ขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวมถึง sentiment เชิงลบจากตลาดหุ้นจีนที่ปรับตัวลงแรงจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,412.55 (-25.53 จุด) Volume 4 หมื่นลบ. ทั้งนี้ Foreign Net Sell 1,505 ลบ. , Net Long TFEX 5,194 สัญญา

 

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
  + กรีซและเจ้าหนี้กลุ่มทรอยก้า (IMF ECB EC) เปิดฉากเจรจารายละเอียดข้อตกลงเงินกู้รอบใหม่ โดยหวังว่าจะได้ข้อสรุปภายในวันที่ 20 ส.ค. เพื่อได้รับเงินช่วยเหลือ 8.6 หมื่นล้านยูโรเป็นเวลา 3 ปี
  - คาด FED ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 0.35% ในช่วงระหว่างเดือนต.ค.-ธ.ค. ทั้งนี้ FED จะมีการประชุมในวันที่ 28 -29 ก.ค.นี้
  - CHINA ตลาดหุ้นจีนดิ่งลงกว่า 8% เมื่อวานนี้ จากความกังวลการชะลอตัวของเศรษฐกิจ โดยล่าสุดรัฐบาลจีนเตรียมซื้อหุ้นกระตุ้นตลาด ขณะจับตาขาใหญ่ซุ่มทุบหุ้น
  - THAI ยอดส่งออก เดือน มิ.ย. -7.9% YoY แย่กว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ -4.6% แต่ทั้งปียังคาดส่งออก -2.8%YoY เนื่องจาก เงินบาทที่อ่นค่า, ราคาน้ำมันที่เริ่มทรงตัว และการต่อสัญญา GSP กับ US ทำให้แนวโน้มครึ่งปีหลังจะดีขึ้น
  - THAI สหรัฐคงอันดับไทยอยู่เทียร์ 3 ต่ำสุดในการแก้ปัญหาค้ามนุษย์
  - Foreign เป็น Net sell 5 วันติดต่อกันราว 8.7 พันลบ
  - ราคาน้ำมันดิบโลก -0.75 USD ปิดที่ 47.39 USD/Barrel
  หลากหลายปัจจัยลบเช่น คาดการณ์ FED ขึ้นดอกเบี้ยเป็น 0.35%ในปีนี้ ,ตลาดหุ้นจีนทรุดตัวลงแรง การส่งออกไทย -7.9% YoY และยังคงอยู่ใน Tier3 รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นแรงกดดันต่อภาวะตลาดหุ้น ดังนั้นคาดว่า SET จะปรับตัวลงทดสอบโซนแนวรับ 1,400 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน
  SET มีแนวโน้มปรับตัวลง จึงแนะนำรอซื้อช่วงอ่อนตัว โดย Selective buy กลุ่มที่มีปัจจัยบวก เช่น

CHO ขสมก.นัดเซ็นงานเมล์NGV 489คันวันที่ 17ส.ค.
กลุ่มสื่อสาร ( ADVANC INTUCH ) ความคืบหน้าการประมูล 4G (คาดประมูลคลื่นในวันที่ 11- 12 พ.ย.) และเป็นหุ้นปันผลครึ่งปีเด่น
กลุ่มส่งออก (อาหาร อิเล็กทรอนิกส์) ได้อานิสงส์ค่าเงินบาทอ่อนค่า (ล่าสุด 34.84 Bath/USD)
Earning Q2/58 เด่น PTTGC BCP IRPC TOP THCOM STPI FSMART MTLS AAV SYNEX
กลุ่มรับเหมา รฟท.คาดคลอด TOR รถไฟทางคู่ฉะเชิงเทรา-แก่งคอยสัปดาห์หน้า ได้ผู้รับเหมาก.ย.นี้


Analyst Meeting
PYLON : (ราคาปิด 10.60 บาท )
  คาดรายได้ 2Q58 เติบโต + 13-16% QoQ แต่กำไรขั้นต้นอาจปรับตัวลงเนื่องจากในไตรมาส2 มีการรับรู้งานที่มีกำไรสูงในสัดส่วนที่ลดลง อย่างไรก็ตามทางบริษัทสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้นทำให้กำไร Q2 มีแนวโน้มใกล้เคียงกำไรใน Q1
  แนวโน้มครึ่งปีหลังกำไรขั้นต้นอาจอ่อนตัวลงเนื่องจากอุปทานงานฐานรากยังมากกว่าความต้องการ แต่หากมีการประมูลรถไฟฟ้าหลากสีจากทางรัฐบาล ทางผู้บริหารคาดว่าทั้งปริมาณงานฐานรากและกำไรขั้นต้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากแรงหนุนของงานภาครัฐ
  ปัจจุบันบริษัทมีเงินสดในมือกว่า500ล้านบาทหรือคิดเป็น 1.3 บาทต่อหุ้น มีความเป็นไปได้ที่ในปี 2558 จะสามารถจ่ายปันผลในอัตรา 0.5 บาทเท่ากับในปี 2557
ย้ายเข้า SET ต้นเดือนส.ค. (คาดว่าวันที่6/8/58)

หุ้นเด่นรายวัน
CHOW : (ราคาปิด 6.00 ซื้อเก็งกำไร)
  จ่อคว้าโซลาร์ญี่ปุ่นเพิ่ม 42 เมกะวัตต์ ส่วนโซลาร์ในประเทศหวังกวาดใบอนุญาตให้ได้ 15 เมกะวัตต์ หลังคว้าได้แล้ว 6 เมกะวัตต์ คาด COD สิ้นปี 2558 คาดปี 2559 โกยรายได้พลังงานเต็มเม็ดเต็มหน่วย (ที่มา...ทันหุ้น)

TRC : (ราคาปิด 2.22 ซื้อเก็งกำไร)
  บอร์ดไฟเขียวขายหุ้นเพิ่มทุน PP จำนวน 330 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 2.20 บาท ให้นักลงทุน 16 ราย นำโดย “อานนท์ชัย วีระประวัติ” เพื่อระดมทุน 726 ล้านบาทไปใช้ลงทุนในเหมืองแร่โปแตชฯ เพิ่มสัดส่วนถือหุ้นเป็น 20-24% จากปัจจุบันถืออยู่ 4.27% (ที่มา:ทันหุ้น)

HMPRO : (ราคาปิด 6 อยู่ระหว่างทบทวนประมาณการและเป้าหมาย)
  แจ้งกำไร 2Q58 เท่ากับ 820 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 3.5%YoY 1H58 มีกำไร 1,554 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 2%YoY โดยมียอดขายเติบโต 10.5% แต่อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเนื่องจากยอดขายเมกาโฮมที่มีมาร์จิ้นต่ำกว่ามีสัดส่วนสูงขึ้น ส่วนค่าใช้จ่ายขายและบริหารสูงขึ้น

 

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : -127.94 จุด
  ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,440.59 จุด ร่วงลง 127.94 จุด หรือ -0.73% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,039.78 จุด ลดลง 48.85 จุด หรือ -0.96% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,067.64 จุด ลดลง 12.01 จุด หรือ -0.58%
  เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นจีนและยุโรป โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนที่ปิดตลาดดิ่งลงกว่า 8% เมื่อวานนี้ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศ

ตลาดน้ำมัน NYMEX : -0.75 ดอลลาร์/บาร์เรล
  สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 75 เซนต์ ปิดที่ 47.39 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงเกินไป หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า อิหร่านอาจจะผลิตและส่งออกน้ำมันได้มากขึ้น เมื่อการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านมีผลบังคับใช้

 

Analyst : วิลาสินี บุญมาสูงทรง
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์
ชัยยศ จิวางกูร
บุญฤทธิ์ เบญจธนารักษ์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!