WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

RHB-OSK-บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) : Market Comment

 

ตลาดรับรู้ปัจจัยลบต่าง ๆ แบบเต็มที่แล้ว
       ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบ กังวลการดิ่งของตลาดหุ้นจีนและยุโรป และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด -0.73%, -0.96%, -0.58%
      ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ กังวลการดิ่งของตลาดหุ้นจีนและยุโรป และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด -2.56%, -1.13%, -2.57%, -2.97%
       สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 0.75 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.39 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 1.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 53.47 ดอลลาร์/บาร์เรล กังวลอุปทานน้ำมันที่มากเกินไป หลังมีรายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น

 

   ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ปรับตัวลงแรงพอสมควร ทั้งจากปัจจัยภายในหลังการส่งออกเดือนมิ.ย. หดตัวถึง 7.87% YoY. คิดเป็นมูลค่า 18,162 ล้านดอลลาร์ ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ส่วนการนำเข้าหดตัว 0.21% YoY. คิดเป็นมูลค่า 18,012 ล้านดอลลาร์ เกินดุลการค้า 150 ล้านดอลลาร์ ปัจจัยหลักเกิดจากการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมที่หดตัวลง 7.7% YoY. ผลจากสินค้าส่งออกอันดับหนึ่งของไทยที่มีสัดส่วนการส่งออกถึง 11% คือ รถยนต์และส่วนประกอบหดตัว 19.1% YoY. จากการหดตัวของการส่งออกรถกระบะที่หดตัว 48.3% YoY. จากการเปลี่ยนรุ่น ขณะที่การส่งออกรถยนต์นั่ง และส่วนประกอบยังขยายตัว สินค้าเกษตรและอุตฯ การเกษตรลดลง4.1% จากการส่งออกข้าวลดลง 21.1% อาหารทะเลแช่แข็งลดลง 10.5% กุ้งสดแช่แข็งและแปรรูปลดลง 22.1% น้ำตาลทรายลดลง 12.3%

 

       แต่ในส่วนของยางพาราเพิ่มขึ้น 4.4% เป็นบวกครั้งแรกในรอบ 18 เดือน ทั้งนี้หากไม่รวมสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและทองคำ มูลค่าการส่งออกรวมของไทยในเดือนมิ.ย. หดตัว 5.8% ใกล้เคียงกับสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ที่คาดการณ์ว่าจะหดตัว 5-6% สำหรับตลาดส่งออกหลังของไทยยังคงหดตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก การส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ หดตัว 0.1% หดตัวครั้งแรกในรอบ 9 เดือน ตลาดญี่ปุ่นและยุโรปหดตัว 4.2% และ 7.1% ตามลำดับ ส่วนตลาดจีนหดตัว 0.8% แต่ตลาด CLMV ขยายตัวต่อเนื่อง 10.8% ซึ่งเป็นการค้าชายแดนเป็นหลัก ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศนั้นตลาดหุ้นจีนร่วงลงอย่างหนัก 8.48% จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของภาคการผลิตในประเทศ สำนักสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) ระบุว่า บริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่ของจีนมีผลกำไรในเดือนมิ.ย. ลดลง 0.3% YoY. หลังจากที่ขยายตัว 0.6% ในเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา และตลาดกังวลรัฐบาลจีนจะเริ่มชะลอการใช้มาตรการพยุงตลาดหุ้นที่ประกาศใช้เมื่อไม่นานมานี้

 

       บลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าวในรัฐบาลจีนที่ระบุว่า IMF ได้แจ้งต่อรัฐบาลจีนว่า การแทรกแซงในตลาดหุ้นนั้นเหมาะสมที่จะใช้ในการป้องกันความวุ่นวาย แต่สำหรับตลาดหุ้นนั้นควรที่จะเคลื่อนไหวไปตามกลไกตลาด และได้ร้องขอให้จีนยกเลิกใช้มาตรการพยุงตลาดหุ้น แต่ทางการจีนได้ระบุว่า มาตรการเหล่านี้เป็นมาตรการชั่วคราวเท่านั้น ทั้งนี้ความเห็นของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในตลาดมองว่าจีนยังจำเป็นที่จะต้องคงมาตรการสนับสนุนตลาดหุ้นต่อไป และนักวิเคราะห์บางส่วนเห็นว่าทางการจีนจะออกมาตรการเพิ่มเติมในเร็ววันนี้ เพื่อพยุงตลาดหุ้นเอาไว้ ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่า น่าจะคงความผันผวนต่อเนื่อง

 

กลยุทธ์การลงทุน
  Trading : รอซื้อบางส่วนที่แนวรับแถว ๆ 1,400 จุด

Saravut Tachochavalit, Analyst
TEL : +66 (0) 2682 9754 Ext. 9754
EMAIL : [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!