- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 24 July 2015 17:19
- Hits: 2197
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index : รีบาวน์ในกรอบจำกัด
SET Index : 1440.94 การซื้อขายในช่วงเช้า ดัชนีเปิดปรับตัวลง แต่มีแรงซื้อกลับบริเวณ 1433 จุด แต่การฟื้นตัวยังอยู่แค่ 1440 จุด คาดว่า SET ยังมีแนวต้านระยะสั้นบริเวณ 1445-1450 จุด และแนวต้านถัดไป 1460 จุด อย่างไรก็ตามหากดัชนีหลุด 1440 จะเป็นสัญญาณการปรับตัวลงต่อโดยมีแนวรับระยะสั้น 1430-1426 และมีแนวรับสำคัญ 1400 จุด
TASCO = 24.00 / 25.00 ADVANC = 245 / 249 KTB = 16.60 / 17.50 PTTGC = 62.00 / 63.00 PTT = 314 / 320
Inter Fareast Engineering (IFEC TB; THB 11.20) - ซื้อ
แนวต้าน : 11.50 และ 11.80
แนวรับ : 11.20 และ 11.00
ราคาหุ้นปรับขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าราคาหุ้นมีโอกาสทดสอบแนวต้านระยะสั้น 11.50 บาท และ 11.80 บาท หากราคายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 11.10 บาทได้
RSI ฟื้นตัว
แนะนำซื้อ IFEC โดยมีแนวรับระยะสั้น 11.20 และ 11.00 บาท และมีแนวต้าน 11.50 และ 11.80 บาท เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 11.00 ลงไป
Unique Engineering (UNIQ TB; THB 18.10) - ซื้อ
แนวต้าน : 18.50 และ 19.10
แนวรับ : 17.90 และ 17.60
ราคาหุ้นปรับขึ้น คาดราคาหุ้นมีแนวโน้มทดสอบแนวต้านเดิม 18.50 บาท และ 19.10 บาท หากราคายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นที่ 17.90 บาทได้
RSI สัญญาณบวก
แนะนำซื้อ UNIQ โดยมีแนวรับระยะสั้น 17.90 และ 17.60 บาท และมีแนวต้าน 18.50 และ 19.10 บาท เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 17.60 ลงไป
Analysts :
Pornvilai Santusatharom +662 657-9230 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...เลือกรายตัว
หลังงบกลุ่มธนาคารออกมาหมดแล้ว โดยธนาคารใหญ่งบที่ออกมาชะลอตัวแต่ไม่มากเมื่อเทียบกับที่นักวิเคาระห์คาดกัน ส่วนธนาคารเล็กที่เน้นการปล่อยสินเชื่อขนาดเล็ก งบออกมาตามที่ตลาดคาด อย่างไรก็ตามแม้งบของธนาคารใหญ่จะออกมาไม่เลวร้ายอย่างที่คาด แต่กลับมีแรงขายออกมาค่อนข้างมาก จากนักลงทุนยังกังวลถึงภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจจะยาวนานกว่าคาดและผลของภัยแล้ง ซึ่งจะส่งผลให้คุณภาพสินเชื่อแย่ลง รวมทั้งการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้นจากการเกิด NPL ดังนั้นการเข้าเล่นหุ้นในกลุ่มนี้ คงจะยังเป็นแบบเก็งกำไรในช่วงสั้น จนกว่าจะเห็นปัจจัยที่เข้ามาหนุนตลาดรวม
หากมาดูราคาของหุ้นกลุ่มธนาคาร ที่ถูกเทขายออกมา ผ่านค่า P/E 12 ในรอบ 10 ปี เพื่อดูว่าค่า P/E ในปัจจุบันอยู่ตรงไหน เราจะพบว่าในส่วนของธนาคารใหญ่ ค่า P/E ที่เล่นกันในปัจจุบัน จะต่ำกว่าค่าเฉลี่ย P/E 10 ปี ส่วนธนาคารขนาดเล็ก เล่นกันที่ค่าเฉลี่ย ตรงนี้พอที่จะประเมินได้ว่าหุ้นธนาคารใหญ่ยังมีแรงกด ส่วนธนาคารเล็กผลการดำเนินงานที่ออกมายังพอประคับประคองตัว เพราะในส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อยังพอขยายตัวและเปิดความเสี่ยงกับธุรกิจขนาดใหญ่และ SME น้อยกว่าขนาดใหญ่ ปัจจัยเสี่ยงของหุ้นใหญ่อย่าง KTB SCB ยังคงเป็นการตั้งสำรองหนี้ของ SSI หากมองเฉพาะค่า P/E จะพบว่าหุ้น SCB น่าสนใจมากที่สุด เนื่องจากเทรดกันต่ำกว่าค่า P/E เฉลี่ยค่อนข้างมาก
กลุ่มพลังงาน เป็นอีกกลุ่มที่มีแรงขายหุ้นออกมา หลังราคาน้ำมันปรับตัวลงมา แต่เรามองว่าเป็นแค่ช่วงสั้นมากกว่า หุ้นในกลุ่มนี้เกือบทุกตัวกำลังขึ้นไปเล่นสูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปี จากการเก็งกันว่าผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก ในกลุ่มนี้หุ้นที่น่าสนใจคือ IRPC เพราะกำลังมีแรงหนุนจากผลดำเนินงานที่คาดว่าจะออกมาดีจากการได้รับประโยชน์จากสายปิโตรเคมีและการ Integration ส่วนในกลุ่มโรงกลั่น ใน Q3 คาดกันว่าจะมีแรงกดดันจากภาวะ Oversupply ของน้ำมัน ค่าการกลั่นถูกดดันจากกำลังผลิตใหม่และการชะลอตัวของการใช้น้ำมันดีเซลในเอเชีย ดังนั้นหุ้นในกลุ่มนี้ยังคงเป็นแบบ เลือกเล่นรายตัว อย่าง กลุ่มที่อิงกับปิโตรเคมีในสายของ โอเลฟินส์ ส่วนสายอะโรเมติกส์ คาดยังกดดันจากภาวะ Oversupply ราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานที่น่าสนใจ มองผ่านค่า P/E คือ IRPC และ PTTEP (ราคาหุ้นลงมาต่ำกว่าพื้นฐาน ขณะที่ค่า EV/EBITDA ต่ำสุด ราคาหุ้นสะท้อนดำเนินงาน Q2/15 ที่ออกมาแค่ 1,312 ล้านบาทลดลงจาก Q2/14 ที่18,186 ล้านบาท)
สภาพตลาดหุ้นหากจะพลิกกลับมาขึ้นใหม่เหนือ 1450 จุดแล้วยืน จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของ 2 กลุ่มคือ หุ้นน้ำมันโดยเฉพาะแรงซื้อ PTT และ PTTEP (ราคาหุ้นลงไปต่ำกว่าพื้นฐาน) ส่วนธนาคารพาณิชย์ จากราคาเริ่มน่าสนใจ หากราคาน้ำมันไม่ลงต่อ ราคาหุ้นน้ำมันพร้อมที่จะขึ้นกลับ โดยมีปัจจัยหนุนระยะสั้นคือ การประกาศงบ Q2/15 ส่วนกลุ่มอื่นๆ คือ กลุ่มรับเหมา(STEC CK) และวัสดุก่อสร้างใหญ่ (SCC)
วันนี้คาดดัชนี SET จะเริ่มค่อยๆดีดตัวขึ้นกลับ แต่ยังอยู่ในกรอบแคบทั้งแดนบวกและลบ โดยจะมีกลุ่มพลังงานช่วยหนุนอย่าง PTTEP หลังประกาศงบ Q2 โดยวันนี้แนวรับอยู่ที่ 1440-1436 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1452-1456 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร JAS
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary...
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,440.94 จุด ลดลง 3.72 จุด (-0.26%) มูลค่าการซื้อขาย 14,874.78 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงตามตลาดต่างประเทศ เนื่องจากนักลงทุนกังวลแนวโน้มการชะลอตัวของภาคธุรกิจ หลังจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐลดลง รวมถึงเศรษฐกิจของจีน หลังดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องตันในเดือนก.ค.หดตัว บ้านเราเช้านี้ยังมีแรงกดดันจากกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันปรับลง รวมถึงงบ Q2/58 ที่ออกมาลดลง อย่าง PTTEP ติดตามการแถลงแผนการลงทุนโครงการพื้นฐานของรมว.คมนาคม (บ่ายนี้) การรายงานผลประกอบการ Q2/58 และผลการประชุมเฟด (30 กค.)
Afternoon Perspective...
แนวโน้มตลาดภาคบ่าย ซึมลงต่อ โดยภาพรวมตลาดยังไม่มีสัญญาการฟื้นตัวที่แข็งแรงพอ โดยจะเป็นแค่เพียงการดีดตัวขึ้นในระหว่างวันตามสัญญาณเทคนิเคลรีบาวน์ เรายังมองว่าตลาดจะยังคงมีแนวโน้มแกว่งตัวลงต่อเนื่อง ตามภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังดูอ่อนแอ ในขณะที่การทรุดตัวลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆโดยเฉพาะราคาน้ำมันก็กดดันหุ้นกลุ่มดังกล่าว เรามองว่า หากค่าเงินบาทยังคงมีแนวโน้มอ่อนค่าลงต่อ การฟื้นตัวของตลาดหุ้นที่แข็งแรงก็จะยังไม่เกิดขึ้น ระยะสั้นมองแนวรับที่ 1430 จุด หากหลุด ก็จะมีแนวรับถัดไปที่ 1410 จุด ส่วนแนวต้านยังอยู่ที่ระดับ 1450 จุด ยังแนะนำให้ชะลอการลงทุนออกไปก่อน
Fundamental Picks & Technic (PM) ...
Inter Fareast Engineering (IFEC TB; THB 11.20) - ซื้อ
Unique Engineering (UNIQ TB; THB 18.10) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]