- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 24 July 2015 17:11
- Hits: 1104
บล.เคเคเทรด : บทวิเคราาะห์ตลาดหุ้นรายวัน
SET View
แนวโน้ม นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นต่อ SET โดยในช่วงเช้าวานนี้ SET ฟื้นตัวขึ้นไปถึงจุดสูงสุดระหว่างวันที่ 1453 จุด แต่ช่วงบ่าย กลับมีแรงขายจนทำให้ SET ถอยรูดลงมาปิดที่ 1444.66 จุด (-3.18 จุด) ใกล้จุดต่ำสุดของวัน มูลค่าการซื้อขายเงียบเหงา 2.92 หมื่นล้านบาท สัญญาณการฟื้นตัวของ SET ยังอ่อนแอ ทำให้เรามองว่า SET จะกลับมาแกว่งตัวออกข้างบริเวณ 1435-1450 จุด
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 40 ปี เหลือเพียง 2.55 แสนคน ต่ำกว่าคาดการณ์ของ Bloomberg survey ที่ระดับ 2.78 แสนคน ดัชนีชี้นำตลาดแรงงานสหรัฐฯที่ออกมาแข็งแกร่ง ยิ่งเพิ่มความเป็นไปได้ของการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในเดือน ก.ย.นี้ สอดคล้องกับผลสำรวจล่าสุดของ Bloomberg เมื่อ 20-22 ก.ค. กล่าวคือ ผู้ตอบแบบสอบถามมองว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือน ก.ย. ด้วยความน่าจะเป็น 50% รองลงมาคือเดือน ธ.ค. 20%
ธปท. ออกมาให้ความเห็นว่า การอ่อนค่าของเงินบาทอย่างรวดเร็วกว่า 2% ในสัปดาห์นี้ เนื่องจาก 1) ปัจจัยภายนอก คือ การคาดการณ์ว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ และนักลงทุนเข้าไปช้อนซื้อทองในช่วงที่ราคาร่วงแรง ทำให้ความต้องการแลกเงินเป็นดอลล่าร์สหรัฐฯมีสูงขึ้น 2) ปัจจัยภายใน คือ ความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทย เนื่องจากภัยแล้งและแผนลงทุนภาครัฐที่ล่าช้า อย่างไรก็ดี ไม่พบความผิดปกติของการเก็งกำไรค่าเงินบาท ทั้งนี้ เรามองว่า การอ่อนค่าของเงินบาทอย่างรวดเร็ว มีส่วนกดดันให้นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยในช่วง 4 วันทำการหลังสุดรวมกว่า 5 พันล้านบาท เพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน
ติดตามยอดส่งออกไทยเดือน มิ.ย.คาดประกาศต้นสัปดาห์หน้าว่าจะกลับมาขยายตัวได้หรือไม่ หลังจากเงินบาทเริ่มอ่อนค่า ขณะที่ส่งออก 5 เดือนแรกของปีนี้ ย่ำแย่ หดตัว 4% YoY ทำให้ รมว.พาณิชย์ ให้ความเห็นว่า กระทรวงพาณิชย์อาจต้องปรับลดเป้าส่งออกลงจากเดิมที่ทำไว้ค่อนข้างสูงคือ โต 1.2% YoY
กลยุทธ์การลงทุน : เลือกหุ้นที่ราคาผันผวนต่ำและปรับตัวลงน้อยกว่า SET
Top Daily Pick : AAV (มูลค่าเหมาะสม 6.7 บาท) ซื้อขายที่ P/E ratio ต่ำเพียง 10 เท่า, ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันขาลง, ในเชิงเทคนิค ราคาหุ้นที่ดีดตัวขึ้นมาวานนี้ สนับสนุนด้วยปริมาณการซื้อขายที่มากสุดในรอบ 5 วันทำการ และ CPALL (มูลค่าเหมาะสม 51 บาท) คาดผลประกอบการ 2Q58 เติบโตแข็งแกร่ง
Technical Pick : KKC AAV HYDRO FSMART ASIMAR (โปรดอ่านบทวิเคราะห์ Technical เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน)
Theme Plays : การประมูล 4G เริ่มนับหนึ่งในเดือนนี้ (ADVANC, INTUCH)/ หุ้นอสังหาฯที่ซื้อขายด้วย P/E ratio ค่อนข้างต่ำ (SPALI, QH) / หุ้นได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า (KCE, SVI, SAPPE)/ หุ้นที่คาดว่า งบ 2Q58 เติบโตโดดเด่น (CK, LPN, SPALI, PLANB, SAPPE, SYNTEC)
Strategy Talk
ราคาน้ำมันดิบโลกปรับตัวลดลง กระทบ PTTEP ชัดเจนสุด
วานนี้ ราคาน้ำมันดิบโลกทั้ง Brent และ WTI ปรับตัวลดลงอีก 1.5% มาอยู่ที่ 55.27 เหรียญฯต่อบาร์เรล และ 48.45 เหรียญฯต่อบาร์เรล ตามลำดับ เนื่องจาก 2 ปัจจัยสำคัญคือ 1) ความกังวลต่อการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในการประชุมเดือน ก.ย.นี้ และ 2) ความเป็นไปได้ในการยกเลิกมาตรการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน หลังจากบรรลุข้อตกลงด้านนโยบายนิวเคลียร์กับประเทศมหาอำนาจ
ประเด็นการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรด้านน้ำมันต่ออิหร่าน ทางฝ่ายวิจัย Bank of America Merrill Lynch (BoAML) ประเมินว่า ในกรณีฐาน (Base case) อิหร่านจะเพิ่มปริมาณส่งออกจาก 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวันในปัจจุบัน เป็น 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในอีก 12 เดือนข้างหน้า หรือราวกลางปี 2559 และอุปทานใหม่จากอิหร่าน จะไม่เข้าสู่ตลาดน้ำมันโลกรวดเร็วนักเพราะสภา คองเกรสของสหรัฐฯต้องมีมติรับข้อตกลงดังกล่าวก่อน ซึ่งจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 2-3 เดือน โดยรวมแล้ว BoAML คาดมีผลกระทบเชิงลบต่อราคาน้ำมันดิบในช่วง 5-10 เหรียญฯต่อบาร์เรล และคาดราคาน้ำมันดิบ Brent เฉลี่ยทั้งปีนี้ เท่ากับ 58 เหรียญฯต่อบาร์เรล และ WTI เฉลี่ย 53 เหรียญฯต่อบาร์เรล
ด้านผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มพลังงานใน SET ในแง่ผลประกอบการ เรามองว่า PTTEP (เก็งกำไร, มูลค่าเหมาะสม 132 บาท) ได้รับผลกระทบเชิงลบชัดเจนสุด เพราะราคาขายขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันในตลาดโลก ขณะที่กลุ่มโรงกลั่น แม้อาจได้รับผลกระทบเชิงลบจากการขาดทุนสต๊อคน้ำมัน (Stock loss) แต่ฝั่งต้นทุนที่ลดลงจะเข้ามาชดเชยกัน เช่นเดียวกับ Holding company อย่าง PTT ซึ่งมีการถือหุ้นในหลากหลายธุรกิจ ช่วยกระจายความเสี่ยงขาลงจากราคาน้ำมันได้ หากราคาน้ำมันไม่ได้ปรับฐานรุนแรงและรวดเร็ว ดังเช่น ปลายปีที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์กลุ่มพลังงานของเรา ใช้สมมุติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยทั้งปีนี้ที่ 60 เหรียญฯต่อบาร์เรล จากการคำนวณ Sensitivity analysis พบว่า ราคาน้ำมันดิบดูไบที่ลดลงทุกๆ 1 เหรียญฯจากสมมุติฐานของเรา จะกระทบกำไรของ PTTEP ราว 3.9% และมูลค่าเหมาะสมจะลดลง 0.8% นอกจากนี้ เนื่องจากกำไรสุทธิใน 1H58 ที่ออกมาต่ำกว่าที่เราเคยประเมิน จึงมีความเสี่ยงในการปรับลดประมาณการกำไรปีนี้ของ PTTEP ลง และแนะนำเพียง “เก็งกำไร”
Smart Port Note
Beta ของพอร์ตลงทุนแสดงถึงความเสี่ยงของหุ้นในพอร์ตเทียบกับตลาด SET หากค่า Beta สูงกว่าหนึ่งเท่า แสดงถึงความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนที่สูงกว่า SET
Growth Port มีค่า Beta เท่ากับ 1.11
Trading Port มีค่า Beta เท่ากับ 1.05
Dividend Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.84
Quant Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.42