- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 23 July 2015 16:58
- Hits: 2077
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
"ซื้อใหม่เน้นค่าบวก...ค่าลบ Wait & See"
Stock Picks-Jul 2015 : Fundamental : CENTEL, CK, CPN, IVL, TUF ส่วน Dark Horse คือ MCS, SYNEX
Fundamental Pick -Today: MINT
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, INTUCH, BTS, DCC, DELTA, DTAC, AP, QH, SPALI, SRICHA, MODERN, TISCO, TMT, BTSGIF, JASIF, CPNRF, TRUEIF
Shot Sell-Prev : GLOBAL 19%, THAI 16%, LH&AOT 14%,ESSO&TRUE 13%
Technical View ภาพตลาดเป็นลบ แต่ซื้อค่าบวก
Support Resistance Stop loss
SET 1430-1420 1460,1470 ค่าลบ
SET50 940,920 960-970 ค่าลบ
Technical Picks- Today : KTB, PTTEP, INTUCH, BCP, TVO, SPF, AOT, BH
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : SET Index รีบาวด์หลังลงแรง โดยปิดทรงตัวที่ 1447.84 หลังจากที่ลดลงไปต่ำสุดที่ 1432.58 จุด โดยมีแรงซื้อกลับหุ้น Market Cap ใหญ่ที่ร่วงแรง เช่น แบงค์ใหญ่ และเก็งกำไรผลประกอบการ SCC ซึ่งเป็นลักษณะเลือกซื้อรายตัว แตหุ้นกลุ่มพลังงานยังอ่อนลงต่อเพราะกังวลอุปทานสูง นักลงทุนต่างชาตินำขายสุทธิ 2.3 พันล้านบาท พอร์ตบล.ขายสุทธิเช่นกัน ส่วนสถาบันในประเทศและรายย่อยซื้อสุทธิ
ระยะสั้นมากหุ้นกลุ่มพลังงานยังถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงแรง (WTI ปิดต่ำกว่า 50 ดอลลาร์/บาร์เรลไปแล้ว) เนื่องจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐสูง และกลุ่มโอเปกยืนยันไม่ลดปริมาณการผลิตเพราะมองว่าการลดลงเป็นแค่ชั่วคราว กลยุทธ์ลงทุนกลุ่มพลังงาน เน้นซื้อเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัว ส่วนกลุ่มที่คาดว่าจะยังไปได้ดีคือ ท่องเที่ยว โดยจำนวนนักท่องเที่ยวยังคงเติบโตแข็งแกร่ง และมาร์จิ้นธุรกิจอาหารที่สูงมาก สามารถชดเชยกับธุรกิจอาหารที่ฟื้นตัวช้าได้ คาดการณ์กำไรของหุ้น AOT, CENTEL, MINT เติบโตเป็นเลขสองหลักได้ในปี 58 และขยายตัวต่อในปี 59 ส่วน Real Sectors อื่นๆ ต้องเลือกซื้อเป็นรายบริษัท (Selective Buy) หุ้นพื้นฐานแนะนำซื้อเก็งกำไรวันนี้เป็น MINT
การวิเคราะห์ทางเทคนิค ภาพตลาดโดยรวมเป็นลบ ตลาดมีแนวรับระยะสั้น 1430-1420 จุด ส่วนการรีบาวด์จะมีแนวต้าน 1460, 1470 จุด โดยยังต้องระวังการเด้งสั้นแล้วลงต่อ เพราะยังขาดปัจจัยบวกใหม่สนับสนุน สำหรับการ SCAN หาหุ้นที่มีโอกาสทำ New High พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่เป็น ADVANC, TVO, BH ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ CK, BCP, BTS หุ้นที่หลุด List เป็น MIDA
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
- ยูโรโซน : อัตราหนี้รัฐบาล/จีดีพีของกลุ่มยูโรโซนเพิ่มเป็น 92.9% ในสิ้น 2Q58 เพิ่มขึ้นจาก 92% ในสิ้น 1Q58 ส่วนของสหภาพยุโรปปรับขึ้นเป็น 88.2% จาก 86.9% ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ของยุโรปที่ตั้งไว้ไม่เกิน 60%
+ สหรัฐ : รายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นแกร่ง 3.2%YoY เป็น 5.49 ล้านยูนิต สูงสุดนับตั้งแต่ก.พ.50
+ กรีซ : S&P ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือกรีซขึ้น 2 ขั้นเป็น CCC+ (เดิม CCC-) สะท้อนปัญหาหนี้สินที่คลี่คลายลง และการได้รับเงินกู้ระยะ 3 ปีจากกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) โอกาสที่กรีซจะออกจากยูโรโซนต่ำลงกว่าระดับ 50%
- สหรัฐ : คาดการณ์กำไร 2Q58 บจ.ใน S&P500 ลดลง 1.5%YoY โดยเป็นการสำรวจล่าสุดจากรอยเตอร์
- ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงต่อ ปิดตลาดดัชนี DJIA ลดลง 0.38% ดัชนี Nasdaq อ่อนลง 0.7% และดัชนี S&P500 ต่ำลง 0.24% โดยนักลงทุนขายทำกำไรหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลัง Apple, Microsoft และ Yahoo รายงานกำไรที่แย่กว่าคาด อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารที่ปรับขึ้นช่วยพยุงไม่ให้ตลาดลงแรง
กลุ่มโอเปกไม่ลดปริมาณการผลิต มองว่าการลดลงของราคาน้ำมันดิบเดือนก.ค.เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว
- สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น ทางสถาบันปิโตรเลียมอแมริกัน (API) รายงานว่าสัปดาห์ก่อนสหรัฐมีปริมาณสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล ด้าน EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ สิ้นสุด 17 ก.ค.58 เพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรลเป็น 463.9 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล
- ราคาน้ำมันดิบร่วงต่อ โดย WTI ต่ำกว่า 50 ดอลลาร์/บาร์เรลแล้ว...กดดันหุ้นกลุ่มพลังงานในระยะสั้นต่อ ทั้งนี้สัญญาน้ำมันดิบ WTI และ BRENT ลดลง 1.67 และ 1.04 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.19 และ 56.00 ดอลลาร์/บาร์เรล เพราะวิตกกับอุปทานน้ำมันดิบที่สูงและมีโอกาสเพิ่มอีกถ้าอิหร่านส่งออกน้ำมันดิบสู่ตลาดมากขึ้น
- ราคาทองคำดิ่งลงต่อ โดยสัญญาทองคำ COMEX ปิดลดลง 12 ดอลลาร์ (-1.09%) เป็น 1091.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ปัจจัยกดดันคือ การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมาจากกระแสคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้ หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดี และเฟดมีนโยบายที่จะค่อยๆลดการการใช้นโยบายการเงินผ่อนคลาย เพื่อไม่ให้ระดับของการขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในแต่ละรอบมากเกินไป
ปัจจัยในประเทศและหุ้นเด่น
- กลุ่มพลังงาน : ราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงต่อเนื่องในเดือนก.ค.58 กดดันราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะธุรกิจต้นน้ำของ PTTEP นอกเหนือจากการคาดการณ์ว่าผลประกอบการ 2Q58 ของบริษัทจะไม่สดใสเพราะขาดทุนในอัตราแลกเปลี่ยนและขาดทุนจากการทำประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน แนวโน้ม 3Q58 มีโอกาสแย่กว่าที่คาดไว้อีก หากราคาน้ำมันดิบในช่วงที่เหลือของไตรมาสอ่อนแอในระดับปัจจุบัน กลยุทธ์การลงทุน เน้นซื้ออ่อนตัว
ราคาน้ำมันดิบระยะยาว ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
(ดอลลาร์/บาร์เรล) PTTEP PTT
60 90 323
75 100 333
82 (Base Case) 130 360
100 140 369
Source : DBS Vickers
+ กลุ่มท่องเที่ยวยังไปได้ดี แม้ว่จะเข้าสู่ช่วง Low season ในไตรมาส 2 แต่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และคาดว่าจะดีต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ สำหรับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและการทรุดตัวลงของตลาดหุ้นจีนคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อภาคท่องเที่ยวของไทยไม่มาก เนื่องจากค่าเงินบาทยังอ่อนเมื่อเทียบกับหยวน (ล่าสุดอยู่ที่ 5.5758 บาท/หยวน จาก 5.2882 บาท/หยวนในสิ้นปี 57) เราแนะนำซื้อลงทุนใน AOT, CENTEL และ MINT ทั้งนี้ธุรกิจอาหารยังฟื้นตัวช้า แต่การเติบโตที่แข็งแกร่งของธุรกิจโรงแรม และมาร์จิ้นที่ดีของธุรกิจอาหารช่วยหนุนให้ผลประกอบการโดยรวมขยายตัวได้ แต่อาจจะน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิมเล็กน้อย
ฝ่ายวิจัยฯ DBSV และนักวิเคราะห์ใน Consensus คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิปี 58 ของ CENTEL จะเติบโตแกร่งประมาณ 50%YoY และขยายตัวต่อ 18-19% ในปี 59 ส่วน AOT นักวิเคราะห์คาดว่ากำไรสุทธิปี 58-59 จะเติบโต 25% และ 15% โดยของ DBSV จะสูงกว่า Consensus ราว 2-3% ด้าน MINT ทาง DBSV คาดว่ากำไรสุทธิปี 58-59 เติบโต 13% และ 23% ซึ่งในปี 58 ของเราจะต่ำกว่า Consensus ที่ 15% แต่ปี 59 สูงกว่า
Price Target % EPS
(Bt) Price Upside Rcmd (Bt)
(Bt) 15F 16F
AOT 292.00 366.00 25% Buy 10.98 12.98
CENTEL 35.75 43.00 20% Buy 1.31 1.56
MINT 28.50 37.50 32% Buy 1.27 1.54
EPS P/E P/BV Div ROE
Gwth (%) (x) (x) Yield (%) (%)
15F 16F 15F 16F 15F 15F 14A
AOT 28.0 18.2 26.6 22.5 3.8 1.1 13.0
CENTEL 48.9 19.1 27.3 22.9 3.9 1.1 11.1
MINT 15.5 21.3 22.4 18.5 3.9 1.3 16.6
Source : DBS Vickers
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]