WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

May copyบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

กลยุทธ์วันนี้ Bottom Fishing

ตลาดหุ้นวานนี้:
        ตลาดหุ้นไทยวานนี้ เปิดย่อตัวสู่แนว 1,435 จุด +/- กดดันด้วย PTT และ BBL ที่รายงานกำไรสุทธิใน 2Q58 ออกมาต่ำกว่าคาด พร้อมส่งสัญญาณหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น แต่การปรับฐานลงแรงของตลาดหุ้นไทยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เกิด Technical Rebound ได้บางส่วน ปิด ณ สิ้นวันที่ 1,447.84 จุด บวก 0.40 จุด มูลค่าการซื้อขาย 39,970 ล้านบาท
       กระแสเงินทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยหนาแน่นอีกครั้ง 2,303 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 5 อีก 3,115 สัญญา แม้ว่าจะคงการซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 4 เพียง 296 ล้านบาท ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าหลุดแนว 34.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายวานนี้

ปัจจัยสำคัญวันนี้
ติดตามการรายงานงบ 2Q58 ของ PTTEP วันนี้
เงินบาทอ่อนค่าหลุดแนว 34.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ แนวโน้มจะไปทดสอบ 35.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ
สภากรีซ เตรียมโหวตวันนี้ ต่อร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฎิรูปเศรษฐกิจรอบที่ 2

มุมมองต่อตลาด
      เราคงน้ำหนักการลงทุนวันนี้เป็น "กลาง" วันที่ 14 พร้อมให้น้ำหนักกับการเกิด Technical Rebound สู่ด่าน 1,450 จุดหรือสูงกว่า แม้ว่าแรงขายจากต่างชาติกลับมาหนาแน่นในตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง แต่เราเชื่อว่านักลงทุนต่างชาติเลือกลดการลงทุนเป็นรายหุ้นมากกว่า การลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทย อีกทั้งในแง่ของ Valuation ของตลาดหุ้นไทยในอยู่แนวด้านล่างของค่าเฉลี่ย 1Yr และ 2Yr Forward PE ratio ย้อนหลัง 1 ปี แม้ว่าจะมีประเด็นเสี่ยงที่เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้เพียง 2.5% +/- ก็ตาม แต่แนวดังกล่าวย่อมมี downside risk ที่จำกัดในเชิงปัจจัยพื้นฐาน
ขณะที่สถานการณ์น้ำเริ่มคลายตัวลง หลังมีรายงานข่าวน้ำฝนที่ตกเหนือเขื่อนในหลายๆ แห่ง เริ่มมีน้ำไหลเข้าเขื่อนมากขึ้น เราเชื่อว่าหากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อเนื่อง ความกังวลต่อภัยแล้งที่จะมีผลกระทบต่อกำลังซื้อภายในประเทศจะคลายตัวลงได้เช่นกัน
และ กระแสการปรับคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ เริ่มถี่ขึ้นและมากขึ้นเป็นลำดับ เราให้น้ำหนักกับประเด็นนี้ต่อการเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ หากมีการปรับเปลี่ยน หลังบริหารครบ 1 ปี ก็ดูมีความเหมาะสม เพื่อปรับเปลี่ยนให้นโยบายต่างๆ ที่ยังติดขัดให้สามารถเดินหน้าได้ตามโรดแม็พที่วางไว้
      อย่างไรก็ตาม ภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังมีความเปราะบาง และอ่อนแอ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในประเทศอยู่ในระดับต่ำ แต่ภายใต้วิกฤติหรือบรรยากาศการลงทุนที่เต็มไปด้วยปัจจัยเชิงลบ ย่อมมีโอกาสของการลงทุนเช่นกัน หุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง แนวโน้มผลการดำเนินงานใน 2Q58 ยังเห็นการเติบโตโดดเด่น และ/หรือ ปันผลระหว่างกาลไม่ต่ำกว่า 2% หากราคาหุ้นเหล่านี้ปรับฐานลงตามภาพตลาด ย่อมกลายเป็นโอกาสของการเข้าสะสมเช่นกัน
      พร้อมแนะนำให้ติดตามการเคลื่อนไหว การปรับครม.ทีมเศรษฐกิจที่มีเสียงเรียกร้อยจากฝั่งเอกชน มากขึ้น ณ ขณะนี้ หากได้ผู้เข้าร่วมทีมที่เป็นที่ยอมรับในเวทีเศรษฐกิจโลก เชื่อว่าจะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะกลับมาเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศได้เช่นกัน

กลยุทธ์การลงทุน
      ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนระยะกลาง กลับมาเลือกสะสมหุ้นในลักษณะ Bottom Fishing เน้นที่ประเด็นพื้นฐานการลงทุน และ/หรือ ผลตอบแทนปันผลทั้งปีไม่ต่ำกว่า 4.0% เป็นเกณฑ์การเลือกหุ้นลงทุน ภายใต้ภาวะการลงทุนที่อ่อนแอในปัจจุบัน"

Top Pick in 3Q15: BCP / BMCL/ IFEC / WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ WHA/ THAI/ BCP/ IFEC/ INTUCH


Speculative buy: PTTGC

 

Stock Pick of the Day

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" ได้แก่
1. PTTGC : ราคาปิด 66.75 บาท ราคาเหมาะสม 71.50 บาท
a) วานนี้เราได้เข้าร่วมประชุมกับผู้บริหาร PTTGC และคงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการ 2Q58 ที่คาดว่าจะดีกว่าที่เคยประเมินไว้ก่อนหน้าราว 12% โดยคาดกำไรสุทธิ 2Q58 ที่ 8,901 ล้านบาท เติบโตถึง +46% yoy และ +58% qoq
b) จากแรงหนุนของกำไรสต็อกน้ำมันราว 2,255 ล้านบาท และ HDPE Spread เร่งตัวขึ้น หลังราคา HDPE เพิ่มขึ้น +15.7% qoq เป็น US$1,375 ต่อตัน
c) PTTGC จะรายงานงบ 2Q58 ในวันที่ 7 ส.ค. จึงคาดว่าจะเห็นแรงเก็งกำไรต่อเนื่องจนถึงวันรายงานผลประกอบการ
d) คงประมาณการกำไรปี 2558 เติบโต +88.7% yoy เป็น 28,376 ล้านบาท และ Valuation น่าสนใจ โดยซื้อขายระดับ PER2558 ที่ 10.6 เท่า รวมทั้งคาดการณ์เงินปันผล 1H58 หุ้นละ 1.25 บาท คิดเป็น Dividend Yield 1.9%

 

Fund Flow Analysis

Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียกลับมาขายสุทธิวันแรกในรอบ 3 วันทำการ US$511 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$195 ล้าน
ขายสุทธิแทบทุกตลาดยกเว้น JSE

 

Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติกลับมาเร่งลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง
นักลงทุนต่างชาติคงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 เร่งขึ้นเป็น 2,303 ล้านบาท รวม 3 วันทำการ ขายสุทธิ 2,672 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ ขายสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 35,820 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติคงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 5 อีก 3,115 สัญญา รวม 5 วันทำการ short สุทธิ 13,405 สัญญา คาดเป็นการเปิดสถานะ short ต่อเนื่อง กดดันให้ S50U15 ปิดต่ำกว่า Set50 Index แคบลงเล็กน้อยเป็น 16.40 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 17.95 จุด ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิเท่ากับ 54,481 สัญญา
แต่ตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 อีกเล็กน้อย 296 ล้านบาท รวม 4 วันทำการซื้อสุทธิ 1,199 ล้านบาท เมื่อราคาพันธบัตรไทยลดลงอีกครั้ง ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้น 0.21bps จากวันก่อนหน้าลดลง 0.32bps ปิดที่ 2.823%

 

Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงเล็กน้อยเป็น 1,070 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 1,196 ล้านบาท

 

NVDR Movement
NVDR กลับมาขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ เน้น KBANK / PTT
การซื้อขายผ่าน NVDR ขายสุทธิ 829 ล้านบาท จาก 5 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 3,401 ล้านบาท กลับมาเน้นลดน้ำหนักใน KBANK / PTT สรุปภาพรวมได้ดังนี้
1. กลุ่มธนาคารถูกขายสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 2 อีก 764 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 656 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มพลังงาน ขายสุทธิ 535 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 138 ล้านบาท
2. ขณะที่กลุ่มปิโตรเคมี ถูกซื้อสุทธิสูงสุด แต่ก็เพียง 160 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 104 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ซื้อสุทธิ 127 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 226 ล้านบาท

ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค

 

สหรัฐอเมริกา
ยอดขายบ้านมือสองขยายตัวแข็งแกร่ง: เดือนมิ.ย. ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 3.2% mom เป็น 5.49 ล้านหลัง สูงกว่า Bloomberg consensus คาดเล็กน้อยที่ 5.40 ล้านหลัง และเป็นระดับการเติบโตที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2550 ส่งผลให้ราคาบ้านมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ยุโรป
พัฒนาการในกรีซ
ECB เตรียมส่งทีมงานเข้าดูแลระบบสถาบันการเงินในกรีซ เพื่อให้แน่ใจว่าการควบคุมการเคลื่อนย้ายเงินทุนยังเป็นไปตามข้อตกลงการช่วยเหลือ หากรัฐบาลกรีซล้มเหลวในการปฎิรูป ECB จะต้องเข้าดูแล เนื่องจากแผนการช่วยเหลือของเจ้าหนี้จะต้องล้มเลิกไป
S&P ขยับอันดับความน่าเชื่อถือให้กรีซ เป็น CCC+ จากเดิม CCC - และเพิ่มแนวโน้มเป็น "คงที่" จากเดิม "ลบ" เนื่องจากโอกาสที่กรีซจะต้องออกจากยูโรโซนภายในปี 25561 ลดลงต่ำกว่า 50% แต่ความเสี่ยงดังกล่าวยังอยู่ในระดับสูง แต่ด้วยสภาพคล่องที่ดีขึ้น หลังกรีซสามารถตกลงกับเจ้าหนี้ได้
รัฐสภากรีซ อยู่ระหว่างการพิจารณาร่างกฎหมายที่ต้องเร่งการพิจารณาด้วยศาล และการกำหนดหลักเกณฑ์ในการดูแลธนาคารที่อาจต้องล้มละลาย ซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่ตกลงกับเจ้าหนี้
รายงานประชุม BoE ส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ย: หลังแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในระยะกลางจะวิ่งเข้าหาเป้าหมายที่ 2.0% ขณะที่ความเสี่ยงของกรีซ ไม่ได้นับรวมในการพิจารณาถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย การขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นสิ่งที่สร้างความสมดุลย์ และถือเป็นการพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 8 ปี

จีน
ไม่มี

เอเชียแปซิฟิก
สิงคโปร์คงเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อปีนี้: ระหว่าง -0.5 ถึง 0.5% แม้ว่าเศรษฐกิจโลกและภูมิภาคจะฟื้นตัวอย่างจำกัด แต่เศรษฐกิจสิงคโปร์น่าจะเติบโตในระดับปานกลาง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 7 ในเดือนพ.ค. แต่คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวในปี 2559 ส่วนอัตราเงินเฟ้อที่แท้จริงน่าจะเริ่มฟื้นตัวใน 4Q58
ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2: ภายใน 6 สัปดาห์ อัตราดอกเบี้ยเงินสดลดลง 25bps เป็น 3.0% สอดคล้องกับ Bloomberg consensus คาด พร้อมส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้อีกในอนาคต หากอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ
เศรษฐกิจเกาหลีใต้ใน 2Q58 โตน้อยกว่าคาด: เติบโตเพียง 0.3% qoq เป็นการเติบโตที่ต่ำสุดในรอบ 2 ไตรมาส ขณะที่ 1Q58 เติบโต 0.8% qoq และต่ำกว่า Reuters poll ที่ 0.4% qoq โดยการบริโภคภายในประเทศลดลง 0.3% qoq หลังเติบโต 0.6% qoq
ดุลการค้าของญี่ปุ่นขาดดุลลดลง: ขาดดุลอยู่ที่ระดับ 6.9 หมื่นล้านเยนในเดือน มิ.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่ขาดดุลที่ 2.17 แสนล้านเยน โดยยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 9.5% yoy ต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดเล็กน้อยที่ 10.0% yoy ด้านการนำเข้าลดลง 2.9% yoy

 

ไทย
ไม่มี

Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!