- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 22 July 2015 17:37
- Hits: 1733
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : ปัจจัยลบรุมเร้า
Stock of the town : PT HYDRO
หุ้นแนะนำพิเศษ : INTUCH
หุ้นเด่นรายวัน : BAY BBL KTB EE BCP
SET วานนี้ปรับตัวลงแรงจากความกังวลเศรษฐกิจไทยชะลอตัวหลังจากรัฐบาลเลื่อนการประมูล Mega project ราว 7 แสนล้านบาท ออกไปเป็นไปปีหน้า กดดันให้ SET ปิดที่ 1,447.44 (-19.27 จุด) Volume 4 หมื่นลบ. ทั้งนี้ Foreign Net Sell 353 ลบ. , Net Short TFEX 2,510 สัญญา
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+ ปัญหาหนี้กรีซมีความคืบหน้ามาก โดยล่าสุดกรีซได้ชำระหนี้แก่ IMF และ ECB จำนวน 6.25 พันล้านยูโรแล้ว โดยวันนี้รัฐบาลกรีซยื่นร่างกฎหมายปฏิรูปต่อรัฐสภาตามข้อกำหนดของเจ้าหนี้ต่างประเทศเพื่อให้มีการเจรจาโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินเป็นจำนวนหลายพันล้านยูโร
+/- งบกำไร Q2/58 ของกลุ่มธนาคารประกาศครบแล้ว โดยกำไรดีกว่าคาด ได้แก่ KTB KBANK SCB BAY ส่วนกำไรแย่กว่าคาด ได้แก่ BBL
- FED ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ตามภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
- แผนลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ล่าช้า โดยโครงการที่เหลือกว่า 7.3 แสนลบ.ยกยอดประมูลปี59 เผยถึงสิ้นปี58 มีแค่รถไฟทางคู่ 3 เส้นทาง มอเตอร์เวย์พัทยา-มาบตาพุด และรถไฟไทย-จีนช่วง "กทม.-แก่งคอย" เม็ดเงินลงทุนกว่า 9.5 หมื่นล้าน
- ภาวะเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังคาดขยายตัวแค่ 2.6% เพราะแรงกดดันการส่งออก และปัญหาภัยแล้ง ซึ่งลดทอน GDP ราว 0.5% อีกทั้งข่าวการปรับครม.ของรัฐบาลยิ่งเป็นแรงกดดันต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจมากขึ้น
- Foreign เป็น Net sell 353 ลบ และ Short TFEX
ปัจจัยลบมีน้ำหนักมากขึ้นทั้งเศรษฐกิจภายในประเทศที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงจากแผนลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ล่าช้า การส่งออก และภัยแล้ง อีกทั้งความกังวลการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ดังนั้นคาดว่า SET จะปรับตัวลงโดยมีโซนแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1,425 จุด
**วันนี้ 22 ก.ค. ติดตามรัฐบาลกรีซยื่นร่างกฎหมายปฏิรูปต่อรัฐสภาเพื่อให้มีการเจรจาโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน
กลยุทธ์การลงทุน
SET มีแนวโน้มปรับตัวลง ดังนั้นแนะนำ Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยบวกสนับสนุน เช่น
TTA PSL ค่าระวางเรือขึ้นสูงสุดในรอบ 8 เดือน ล่าสุดปิดที่ 1,113 จุด
กลุ่มส่งออก (อาหาร อิเล็กทรอนิกส์) ได้อานิสงส์ค่าเงินบาทอ่อนค่า (ล่าสุด 34.44 Bath/USD)
กลุ่มสื่อสาร ( ADVANC INTUCH ) ความคืบหน้าการประมูล 4G และเป็นหุ้นปันผลครึ่งปีเด่น
Earning Q2/58 เด่น PTTGC BCP TOP THCOM STPI FSMART MTLS AAV SYNEX
***หุ้นที่มีประเด็นข่าวลบ
กลุ่มรับเหมา แผนลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ล่าช้าโดยโครงการที่เหลือกว่า 7.3 แสนล้านยกยอดประมูลปี59
หุ้นแนะนำพิเศษ
INTUCH : ราคาปิด 81.00 บาท ราคาพื้นฐาน 88 บาท
คาดกำไรปี 2015 ที่ 1.6 หมื่นลบ. (+9%YoY) ตามส่วนแบ่งรายได้และกำไรของบ.ลูกที่ขยายตัวขึ้น ได้แก่ ADVANC การใช้งาน data เติบโตขึ้นและได้ประโยชน์จากการประมูลคลื่น 4G ในช่วง 4Q58 , THCOM กำไรแกร่งจากการรับรู้รายได้ TC6 และ TC7 เต็มปี โดย TC7 คาดว่าอัตราการใช้งานจะเพิ่มขึ้นเป็น 100% (ปัจจุบัน 50%) ใน Q3/15
โดดเด่นด้านเงินปันผล คาด div yield ปี 2015 ที่ 6.6%
หุ้นเด่นรายวัน
BAY : (ราคาปิด 32.25 ซื้อ เป้าหมายอยู่ระหว่างทบทวน)
แจ้งกำไร Q2/58 เท่ากับ 4,408 ลบ. +26%YoY +0.7%QoQ ในช่วง 1H58 มีกำไร 8.8 พันลบ. +29% การเปรียบเทียบ YoY มีการเติบโตสูงเนื่องจากการควบรวมกิจการและการรับโอน BTMU สาขากรุงเทพในเดือนม.ค.58 ตัวเลขสำรองหนี้สงสัยจะสูญใน Q2/58 อยู่ที่ 5.2 พันลบ.ลดลง 0.7%QoQ แต่เพิ่มขึ้น 23%YoY รวมครึ่งปีมีคชจ.สำรองหนี้สงสัยจะสูญรวม 1.05 หมื่นลบ.เพิ่มขึ้น 26%YoY
BBL : (ราคาปิด 173 อยู่ระหว่างทบทวนคำแนะนำและราคาเป้าหมาย)
แจ้งกำไร Q2/58 ที่ 8,035 ลบ. –11%YoY -15%QoQ ในช่วง 1Q58 มีกำไร 1.74 หมื่นลบ. -3%YoY เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิหดตัวหลังจากสินเชื่อปลายเดือนมิ.ย.ขยายตัวเพียง 0.4%YTD และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ลดเหลือ 2% ต่ำที่สุดในกลุ่มแบงก์ใหญ่ โดยมีคชจ.สำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้น 33% และสินเชื่อเติบโตเพียง 0.4%YTD
KTB : (ราคาปิด 16.8 ซื้อ เป้าหมายอยู่ระหว่างทบทวน)
แจ้งกำไร 2Q58 เท่ากับ 8,449 ลบ.เพิ่มขึ้น 11%YoY และ 7%QoQ ดีกว่า consensus 30% (ค่าเฉลี่ย 6,500 ลบ.) ในช่วง 1H58 มีกำไร 1.64 หมื่นลบ.เพิ่มขึ้น 3% โดยมีคชจ.สำรองหนี้สูญ 7.5 พันลบ.เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากไตรมาสแรก จากการตั้งสำรองเพิ่ม 3,600 ลบ.และมีสำรองปกติ 2,100 ลบ. อย่างไรก็ดี อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อ NPL (Coverage Ratio)ลดลงเหลือ 125%
EE : (ราคาปิด 1.30 ซื้อเก็งกำไร)
ส่งซิก Q2/2558 ผลงานพลิกเป็นกำไรจากช่วง Q1/2558 ที่ขาดทุนราว 10.93 ล้านบาท หลังราคามันสำปะหลังพุ่ง พร้อมซุ่มดีลพลังงานล็อตใหม่ ขยายฐานโกยเงินเพิ่ม คาดชัดเจนเร็วๆ นี้ ส่วนโรงไฟฟ้า SSUT ขนาด 240 เมกะวัตต์ คาดรับทรัพย์ต้นปีหน้า
BCP : (ราคาปิด 35.25 แนะนำซื้อราคา 37.80 บาท)
คาดว่า 2Q58 ทาง BCP จะประกาศงบกำไร 2,446 ล้านบาท เติบโต 132YoY, 95%QoQ โดยได้รับแรงหนุนจากธุรกิจโรงกลั่นที่ค่าการกลั่นทรงตัวในระดับสูงอีกทั้งมีกำไรจากสต๊อกสินค้าคงคลัง นอกจากนี้ธุรกิจโรงไไฟฟ้าแสงอาทิตย์รับรู้รายได้ที่ 118 MW เต็มปียังสร้างรายได้มากกว่าในไตรสมาสที่แล้วเนื่องจากมีค่าความเข้มแสงเพิ่มขึ้นจากระดับ 5.5 สู่ระดับ 6 (ที่มาGBS Research)
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : -181.12 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,919.29 จุด ร่วงลง 181.12 จุด หรือ -1.00% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,208.12 จุด ลดลง 10.74 จุด หรือ -0.21% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,119.21 จุด ลดลง 9.07 จุด หรือ -0.43%
เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐ รวมถึงอินเตอร์เนชันแนล บิสิเนส แมชีนส์ (IBM) นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนี NASDAQ ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในช่วงก่อนหน้านี้
ตลาดน้ำมัน NYMEX : +0.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 21 เซนต์ ปิดที่ 50.36 ดอลลาร์/บาร์เรล เพราะได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันนี้
Analyst : วิลาสินี บุญมาสูงทรง
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์
ชัยยศ จิวางกูร
บุญฤทธิ์ เบญจธนารักษ์