- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 21 July 2015 17:02
- Hits: 1334
บล.กรุงศรี : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Daily Strategy
ตลาดหุ้นวานนี้: SET ปรับลง 12.60 จุด (-0.85%) ปิดที่ 1,466 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบางมาก จากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังคงชะลอตัวต่อเนื่อง กองทุนในประเทศขายสุทธิ 1 พันล้านบาทในหุ้นกลุ่มหลัก นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 16 ล้านบาท และยังซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 165.4 ล้านบาท เป็นวันที่ 2 และ Net Short TFEX 4,842 สัญญา ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : จะยังซบเซาต่อเนื่อง และผันผวนอยู่ในกรอบ 1,460-1,470 จุด เพราะขาดปัจจัยบวกกระตุ้น หุ้นในกลุ่มแบงก์อาจปรับไม่มากจากรายงานกำไร 2Q15 ที่ส่วนใหญ่จะชะลอน้อยกว่าคาดและได้ปรับลงมาแรงก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็พบว่าการตั้งสำรองฯ และ NPL ของกลุ่มแบงก์ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 ทำให้มองว่าแนวโน้มเศรษฐกิจ 2H15 จะยังชะลอต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้หุ้นในกลุ่มที่ไม่ใช่สถาบันการเงินมีกำไรชะลอตามไปด้วยและเกิดแรงขายในหุ้นกลุ่มเหล่านี้มากขึ้น โดยเฉพาะหุ้นขนาดเล็กที่มี PE สูง ขณะที่กำไรยังมาไม่ทัน
กลยุทธ์วันนี้ : Selective BUY/ เน้นหุ้น Defensive และปันผลสูง
Speculative BUY :
§ SCN – (ราคาหุ้นที่ปรับลงแรง ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยน เป็นโอกาสเข้าซื้อสะสม)
Accumulative BUY : SCN EPG TPCH และ GUNKUL
กลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มดี : พลังงานทดแทน ท่องเที่ยว Healthcare และสื่อสาร
High Div. Stock: ADVANC / TVO /INTUCH / BTS KSS report วันนี้: TCAP (Outperform/เป้า 38 บาท), SCB (HOLD/เป้า 165 บาท)
หุ้น/ข่าว/ประเด็นสำคัญวันนี้:-
(-) ค่าเงินบาทอ่อนค่ามากสุดในรอบ 6 ปี และอ่อนค่ามากกว่าเมื่อเทียบกับการอ่อนค่าของค่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาค: ค่าเงินบาทอ่อนค่าเมื่อเทียบกับ US$ กว่า 1.2% ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา และ 2.3% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เทียบกับค่าเงินอินโดนีเชียและฟิลิปปินส์อ่อนค่าเพียง 0.2%-0.4% ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา และ 0.1%-0.5% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามค่าเงินบาทที่อ่อนค่าค่อนข้างเร็วและมากกว่าสกุลเงินภูมิภาคในช่วงนี้อาจทำให้ธปท. ตัดสินใจแทรกแซงค่าเงินเพื่อให้เกิดเสถียรภาพ หุ้นกลุ่มส่งออกเหมือนจะได้รับประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า แต่เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวจึงทำให้มีปริมาณการส่งออกลดลง นอกจากนี้ค่าเงินที่อ่อนค่าจะกระทบเชิงลบต่อตลาดหุ้นจาก Fund Flow ที่มีโอกาสไหลออก
(+) TCAP (BUY/เป้า 38 บาท) – กำไร 2Q15 เพิ่มขึ้น 13%Y-Y และ 5%Q-Q ตามคาด
§ TCAP รายงาน 2Q15 มีกำไรสุทธิ 1.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 13%Y-Y และ 5%Q-Q ตามเราและตลาดคาด จาก NIM ที่เพิ่มขึ้น มากกว่ายอดสินเชื่อที่ชะลอตัว ประกอกกับมีรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 9%Y-Y จากรายได้ของธุรกิจประกันที่เพิ่มขึ้นและกำไรจากการขาย NPA
§ TCAP มี NPL ลดลง และมีงบดุลยังคงแข็งแกร่ง เรายังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 38 บาท คิดเป็น P/E ปี 2558 ที่ 8.2x และ P/BV ที่ 0.85x
(+) SCN (BUY/เป้า 17.50 บาท) – ราคาหุ้นที่ปรับลงเป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสม
§ ปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายที่ PE ต่ำเพียง 10.6 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ซื้อขายเฉลี่ย 20-25 เท่าหรือ คิดเป็น PEG เพียง 0.7x โดยมีอัตราการเติบโตของกำไรที่ 53% CAGR (2015-18F)
§ คาดว่ากำไร 2Q15 จะปรับลงเล็กน้อย Q-Q เนื่องจากมีการบันทึกค่าเสื่อมจาก iCNG เข้ามา
§ อย่างไรก็ตาม กำไรจะเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 3Q15 หลังจากขายก๊าซ NGV จาก iCNG ได้เพิ่มขึ้น ซึ่ง Singha Beverage เพิ่มอีก 500 mmbtu/day ในต้นเดือนส.ค และ Kimberly-Clark เพิ่มอีก 500 mmbtu/day ในกลางเดือนส.ค. จากปัจจุบันที่ขาย iCNG ราว 1,500 mmbtu/day
§ ยังแนะนำ “ซื้อ” SCN จากการได้รับประโยชน์เป็นธุรกิจกึ่งผูกขาดและโครงการ iCNG จะสร้างการเติบโตของกำไรในอนาคต