- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 23 June 2014 17:24
- Hits: 2944
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
งจับตาผลประมูลรถไฟทางคู่'
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : SCB (จากถือเป็นซื้อ)
• ภาพตลาดวันก่อน : SET Index ปรับขึ้น 5.38 จุด(+0.37%) มูลค่าการซื้อขายประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท โดยนักลงทุนสถาบันในประเทศยังเป็นกลุ่มที่นำซื้อสุทธิ 2.6 พันล้านบาท ส่วนอีก 3 กลุ่มที่เหลือขายสุทธิ โดยกลุ่มที่นำตลาดขึ้นเป็นพวก Market Cap ใหญ่ คือ ธนาคารพาณิชย์, พลังงาน &ปิโตรเคมี, นิคมอุตสาหกรรม, การบิน เป็นต้น
• ปัจจัยและกลยุทธ์ : ปัจจัยที่จับตาในสัปดาห์นี้ คือ ตัวเลข GDP Growth ไตรมาส 1/57 ประมาณการครั้งสุดท้ายของสหรัฐ, ดัช นีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย. และยอดขายบ้านใหม่ & มือสองของสหรัฐ, สถานการณ์ในอิรัก และความคืบหน้าของโครงการต่างๆ ในประเทศ ซึ่งวันนี้จะมีการประมูลอี-ออคชั่นโครงการถไฟทางคู่สัญญาที่ 1 มูลค่า 1.02 หมื่นล้านบาท
บจ.ที่มีคุณสมบัติเข้าประมูล คือ CK, ITD, STEC และ UNIQ คาดว่าหุ้นกลุ่มรับเหมาจะคึกคัก รวมทั้งกลุ่มที่ได้ประโยชน์ต่อเนื่อง เช่น วัสดุก่อสร้าง (SCC, SCCC, TASCO ฯลฯ) และแบงค์ใหญ่ (KTB, BBL, KBANK, SCB) จะดีตามไปด้วย ซึ่งหุ้น Top Picks ของเราในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับโครงการลงทุนภาครัฐเป็น CK, STEC, SCC, KTB นอกจากนั้นยังมีประเด็นจิตวิทยาเกี่ยวกับ Window Dressing เข้ามาด้วย (แต่จากการศึกษาของเราพบว่าโอกาสที่ดัชนีจะปรับขึ้นในสัปดาห์สุดท้ายสิ้นไตรมาสนั้นไม่ได้สูงมาก คือ 67%และอัตราการบวกของครั้งที่ปรับขึ้นนั้นน้อยกว่าอัตราการลบของครั้งที่ปรับลง - ดูรายละเอียดเพิ่มเติมด้านใน)
กลยุทธ์ทางเทคนิค : ซื้อใหม่เน้นซื้อตามค่าบวก (ค่าลบควรหยุดรอหรือขายโดยเฉพาะพอร์ตที่มีเงินสดเหลืออยู่น้อย) การอ่อนตัวต่อมีแนวเด้ง 1440,1430 จุด ส่วนการรีบาวด์มีแนวต้านระยะสั้น 1460, 1470 จุด หุ้นพื้นฐานแนะนำซื้อลงทุนระยะยาววันนี้เป็น STEC
Fundamental Pick
STEC แนะนำซื้อปิด 23.80 บาท ราคาเป้าหมาย 25.20 บาท*
Note : *เป็นราคาเป้าหมาย SAAConsensus ที่ Update ในเดือนมิ.ย.57
• ปัจจุบันมีงานก่อสร้างในมือ (Confirmed backlog) จำนวนมากที่ 51.1 พันล้านบาท ล่าสุดเมื่อเดือนพ.ค.57 ได้ลงนามในสัญญาก่อสร้างอีก 657 ล้านบาท เป็นงานก่อสร้างถนนที่ประเทศลาว สำหรับนโยบายของบริษัท คือ การสร้างสมดุลระหว่างงานภาครัฐและเอกชน เช่นโรงไฟฟ้า, โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อให้มีการกระจายความเสี่ยงที่ดี สำหรับงานโครงการรัฐที่จะเปิดประมูลในวันนี้ คือ โครงการรถไฟทางคู่มูลค่า 1.02 หมื่นล้านบาท บริษัทก็อยู่ในคุณสมบัติที่จะเข้าประมูลได้ด้วย แนวโน้มธุรกิจรับเหมาก่อสร้างยังสดใส โดยโครงการลงทุนภาครัฐและเอกชนคาดว่าจะเข้ามาอย่างต่อเนื่องในระยะยาว ซึ่งเป็นไปตามแผนงานการลงทุนโครงสร้างขั้นพื้นฐานของรัฐและการขยายธุรกิจของภาคเอกชน โดยเฉพาะเมื่อเปิด AEC เราชอบ STEC ที่มีงานในมือมั่นคง มีความสามารถในการทำกำไรดี (ใน 1Q57 ทำอัตรากำไรขั้นต้นได้ 10.4% และมีกำไรสุทธิ 415 ล้าบาท) ฐานะการเงินดีมาก โดยเป็นเงินสดสุทธิ แนะนำซื้อราคาพื้นฐานอยู่ระหว่างปรับปรุง ส่วนใน SAA Consensus ที่นักวิเคราะห์ Update ใหม่ในเดือนมิ.ย.57 เฉลี่ยอยู่ที่ 25.20 บาท
ปัจจัยต่างประเทศและโภคภัณฑ์
• ตลาดหุ้นสหรัฐขยับขึ้นต่อ
• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,947.08 จุด เพิ่มขึ้น 25.62 จุด หรือ +0.15% ดัชนีNASDAQ ปิดที่ 4,368.04 จุด เพิ่มขึ้น 8.71 จุด หรือ +0.20% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,962.87 จุดเพิ่มขึ้น 3.39 จุด หรือ +0.17% ปัจจัยหนุน คือ ถ้อยแถลงของเฟดที่ระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวดีขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ตลาดแรงงานฟื้นตัวขึ้น การจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นปานกลาง กลุ่มหุ้นที่นำตลาด คือ พลังงาน, สุขภาพ และวัสดุฯ
• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น ส่วนBRENT อ่อนเล็กน้อยจากขายทำกำไร
• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 83 เซนต์ ปิดที่ 107.26 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 25 เซนต์ ปิดที่114.81 ดอลลาร์/บาร์เรล ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐพร้อมดำเนินการทางการทหารที่"กำหนดเป้าหมายไว้อย่างแน่นอนแล้ว" โดยมองว่ากำลังทหารภาคพื้นดินเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องกลุ่มหัวรุนแรงของรัฐอิสลามในอิรักและรัฐเลแวนต์ได้รุกคืบเข้ามาในอิรัก และกำลังคุกคามกรุงแบกแดด เมืองหลวงของประเทศ หลังเข้ายึดเมืองโมซูล และเมืองไทกรีต เมืองสำคัญ 2 เมืองในอิรักเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทั้งนี้สหรัฐได้ส่งนายจอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐออกเดินทางในช่วงสุดสัปดาห์เพื่อไปประชุมกับประเทศพันธมิตรในตะวันออกกลางและในยุโรปถึงสถานการณ์ในอิรัก
+ สัญญาทองคำปรับขึ้นต่อ 0.2%
• สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 2.5 ดอลลาร์ หรือ 0.19% ปิดที่ 1,316.6 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนตลอดทั้งสัปดาห์ก่อน สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 3.34% ปัจจัยหนุนหลัก คือ สถานการณ์ความรุนแรงในอิรัก
ปัจจัยในประเทศและหลักทรัพย์
• ความเชือ vs ความจริงเกี่ยวกับ WindowDressing
# หวังและเชื่อว่าอาจจะมี Window Dressing
• สัปดาห์นี้จะปิดงวดสิ้นไตรมาส 2/57 ตลาดมีความหวังและความเชื่อว่านักลงทุนสถาบันอาจจะทำราคาปิดสิ้นงวด (Window Dressing) โดยเฉพาะหุ้น Market Cap ใหญ่ใน SET50หรืออย่างน้อยก็พยุงดัชนีไว้ไม่ให้ปรับลดลงแรง
# มาดูกันว่า...ความจริงเกี่ยวกับ Window Dressing เป็นอย่างไร?
• SET Index ในรอบนี้ มีการปรับขึ้นมาต่อเนื่อง และ ณ ระดับปิดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (20 มิ.ย.57) อยู่ที่ 1467.29 จุดสูงกว่าระดับปิดของสิ้นไตรมาส 1/57 ที่ 1376.26 จุด อยู่ 6.6% แล้ว
• จากการศึกษาข้อมูลย้อนหลัง 21 ไตรมาส (1Q09-1Q14) เราพบว่าดัชนี (SET Index) ในสัปดาห์สุดท้ายของสิ้นไตรมาสปรับขึ้นเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน (WoW) ทั้งหมด 14 ครั้ง และลดลง 7 ครั้ง กล่าวคือ Probability ที่ปรับขึ้นเท่ากับ 67% และปรับลง 34%
• อัตราผลตอบแทน (ไม่รวมปันผล) ของ SET เมื่อเทียบสัปดาห์ต่อสัปดาห์ของ 21 ไตรมาสย้อนหลังเฉลี่ยเท่ากับ 0.6%WoW แต่ถ้าคิดผลตอบแทนเฉลี่ย (ไม่รวมเงินปันผล) เฉพาะครั้งที่ปรับขึ้นพบว่าจะอยู่ที่ 2.1%WoW ส่วนผลตอบแทนเฉลี่ย (ไม่รวมเงินปันผล) ของครั้งที่ลดลงเท่ากับ -2.3%WoW
• เมื่อพิจารณาตามดัชนีกลุ่มอุตสาหกรรม พบว่ากลุ่มที่มีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยสัปดาห์ต่อสัปดาห์ (WoW) ในสัปดาห์สุดท้ายของไตรมาสย้อนหลัง 21 ไตรมาสสูงที่สุด คือ สื่อและบันเทิงที่ 1.8% รองลงมาเป็นพาณิชย์ 1.3%, สื่อสาร 1.2%, PROF 1.2%, หลักทรัพย์ 1.1%,PERSON 1.0% ส่วนที่เหลือมีค่าเฉลี่ยผลตอบแทนต่ำกว่า 1.0% และบางกลุ่มติดลบ เช่น ปิโตรเคมี -0.3% และเหมืองแร่ -0.9%
• สรุป : จากข้อมูลย้อนหลัง 21 ไตรมาสข้างต้น จะเห็นได้ว่าตลาดไม่จำเป็นต้องปรับขึ้นในสัปดาห์สุดท้ายของสิ้นไตรมาสเสมอไป และโอกาส (Probability) ที่จะปรับขึ้นก็ไม่ได้สูงมาก (คือ 67%) ขณะเดียวกันในครั้งที่ปรับขึ้นยังมีอัตราการเพิ่มเฉลี่ยต่ำกว่าอัตราการถอยของครั้งที่ปรับลงด้วยซ้ำ และเมื่อดูเป็นรายกลุ่มอุตสาหกรรม เห็นได้ว่าหุ้นกลุ่มที่มี MarketCap ใหญ่อย่างพลังงานก็ปรับขึ้นเฉลี่ยเพียง 0.1% เท่านั้น ส่วนสื่อสารและธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้นดีกว่าที่เฉลี่ย 1.2% และ 0.9% ตามลำดับ
• ทีวีดิจิตอล : กสทช.จะทำประชาพิจารณ์เรื่องคูปองทีวีดิจิตอล 1 ก.ย.นี้ และคาดว่าจะแจกคูปองได้ในกลางเดือนก.ย.57
• กสทช. เปิดเผยถึงโครงการสนับสนุนช่วยเหลือการเปลี่ยนผ่านโทรทัศน์ภาคพื้นดินจากระบบอนาล็อกเป็นระบบดิจิตอลด้วยการแจกคูปองแก่ประชาชนว่า ล่าสุดเมื่อ 20 มิ.ย.57คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) เตรียมเสนอคสช.เพื่อปลดล็อคโครงการดังกล่าว โดยให้เปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (ประชาพิจารณ์) เป็นการเร่งด่วนทั่วประเทศในวันที่ 1 ก.ย.57 ก่อน แล้วคาดว่าจะแจกคูปองได้ในกลางเดือนก.ย.57โดยมูลค่า Set top box ที่จะใช้ในการทำประชาพิจารณ์อยู่ที่ 1,000 บาท ซึ่งผลออกมาอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าก็ได้
ทั้งนี้เดิมโครงการนี้จะแจกคูปองให้ 22.9 ล้านครัวเรือน กำหนดงบประมาณไว้ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท โดยกสทช.จะเงินที่ได้จากการประมูลทีวีดิจิตอล 50,800 ล้านบาทที่ยังไม่ได้นำส่งกระทรวงการคลังมาจ่าย แต่ทางคสช.ให้ชะลอออกไปก่อนเพื่อทบทวนโครงการ สำหรับเงินที่เหลือหลังจ่ายคูปองแล้ว ทางกสทช.กล่าวว่าพร้อมที่จะนำส่งให้คลังต่อไป
• รับเหมาก่อสร้าง : วันนี้ (23 มิ.ย.) จะมีประมูลราคาทางอิเลคทรอนิกส์โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สัญญาที่ 1 มูลค่า 1.02หมื่นล้านบาท ... หนุนหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างคึกคัก
• ในวันนี้ 23 มิ.ย.57 จะมีการเปิดประมูลราคาทางอิเลคทรอนิกส์ (อี-ออคชั่น) สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สัญญาที่ 1 (เส้นฉะเชิงเทรา-คลอง 19-แก่งคอย และบุใหญ่-แก่งคอย พร้อมทั้งทางคู่เลี่ยงเมือง 3 แห่ง มูลค่าโครงการ 1.02 หมื่นล้านบาท ผู้รับเหมาที่มีคุณสมบัติเข้าประมูลมี 6 ราย เป็นบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ 2 ราย และในตลาดฯ 4 ราย คือ ITD, STEC,CK และ UNIQ
• ความเห็น Retail Research : เป็นข่าวที่สร้างความคึกคักให้กับกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่จะได้ประโยชน์เป็นเบื้องต้นเมื่อมีประมูลงานภาครัฐขนาดใหญ่เข้ามา และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง &ธนาคารพาณิชย์เป็นกลุ่มที่ได้รับผลดีตามมาเมื่อมีการลงทุนในโครงการก่อสร้างเกิดขึ้นจริง
• เรายังคงชอบหุ้นรับเหมาขนาดใหญ่ที่มีมูลค่างานในมือมั่นคง และฐานะการเงินแข็งแกร่งอย่าง CK (แนะนำซื้อ) และ STEC (แนะนำซื้อ) ซึ่งการได้งานใหม่ขนาดใหญ่ภาครัฐเข้ามาใน2H57 จะช่วยสร้างรายได้และกำไรที่ดีและมีเสถียรภาพในระยะยาวนับตั้งแต่ปี 58 เป็นต้นไป ซึ่งในช่วง 6-7 เดือนก่อนหน้านี้ แทบไม่มีการใหม่ภาครัฐเข้ามา ผู้ประกอบการต้องปรับตัวด้วยการรับงานภาคเอกชนแทน ซึ่งก็มีไม่มากในช่วงที่มีปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง สำหรับ ITDแนะนำเป็นซื้อเก็งกำไร ส่วน UNIQ เป็น Not Rated
• สำหรับกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ให้ SCC เป็น Top Pick รองลงมาเป็น SCCC และ TASCO ส่วนกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่เน้นปล่อยสินเชื่อภาครัฐ โดดเด่นคือ KTB รองลงมาเป็น BBL, SCB,และ KBANK
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]