- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 23 June 2014 17:20
- Hits: 2695
บล.กรุงศรี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มและปัจจัยการลงทุนวันนี้
เก็งกำไรเหนือ 1460 ต่ำกว่า ขาย
เมื่อวันศุกร์ SET ยังทรงตัวขึ้นบวกได้ต่อเนื่องโดยปิดตลาดที่ 1467.29 จุด (+5.38 จุด, +0.37%) สภาพคล่องซื้อขายยังทรงตัวสูงที่ 43,340 ล้านบาทและมีการขึ้นลงคละกันของกลุ่มอุตสาหกรรม กลุ่มหลักขึ้นนำตลาดเช่น ธนาคาร พลังงาน วัสดุฯ ปิโตร ขนส่ง ด้านราคาน้ำมันดิบเบรนท์ขึ้นจุดสูงสุดในรอบ 9 เดือน US$114.9 หลังจากสหรัฐฯประกาศส่งที่ปรึกษาด้านการทหารกว่า 300 คนไปยังประเทศอิรัคเพื่อฝึกฝน แนะนำและสนับสนุนกองทัพอิรักต่อสู้กับกลุ่มหัวรุนแรงมีผลให้หุ้นกลุ่มน้ำมันและทองได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น มูลค่าการซื้อขายทรงตัวที่ 43,340 ล้านบาท กองทุนในประเทศซื้อสุทธิอีก 2,632 ล้านบาท ต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่อง 9 วันทำการอีก 365 ล้านบาท
ปัจจัยการลงทุนวันนี้
ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะยุติมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในปลายไตรมาส 3 ปีนี้และประ เมินเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวเข้าสู่เป้าหมายอัตราว่างงานที่ระดับ 6.5% และเงินเฟ้อ 2.5% แต่การที่เฟดปรับลดคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจของสหรัฐในปีนี้ลงเหลือ 2.1-2.3% สะท้อนการฟื้นตัวค่อยเป็นค่อยไปมีให้ตลาดเงินประเมินแม้เฟดจะจบมาตรการ QE แต่ยังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง
ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของเยอรมนีในเดือนพ.ค. ลดลง 0.2%MoM และลดลง 0.8%YoY ต่ำกว่า คาดการณ์ เป็นผลมาจากราคาพลังงานที่ร่วงลงในเดือนที่แล้ว ซึ่งการลดลงสะท้อนถึงแรงกดดันด้านราคาที่เบาบางทั่วทั้งภูมิภาคยูโรโซน โดยอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนลดลงสู่ระดับ 0.5% ในเดือนพ.ค. จากระดับ 0.7% ในเดือนเม.ย
สศค. มองประมาณการขยายตัวเศรษฐกิจของ ธปท. ปีนี้จะขยายตัว 1.5% ถือเป็นการประมาณการที่ต่ำเกินไปและขัดแย้งกับการคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2% ต่อปี เพราะเห็นว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง แต่กลับมาปรับลดประมาณการเศรษฐกิจทั้งปีลดลง สศค. คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้ไม่มีทางขยายตัวต่ำกว่า 2% ต่อปี โดยก.คลังคาดว่าจะขยายได้ 2-3% ต่อปี ใกล้เคียงกับที่ สศค.ประมาณการไว้ล่าสุดที่ 2.6% ต่อปี ซึ่งจะมีการประกาศปรับประมาณการเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการในเดือนนี้
ภาวะตลาดเริ่มต้นสัปดาห์มองว่าปลอดทั้งปัจจัยข่าวดีและข่าวร้าย เราคาดว่า SET จะยังมีแนวโน้มเคลื่อน ไหวในกรอบทางขึ้นได้อีกระยะหนึ่งด้วยปัจจัยที่สภาพคล่องซื้อขายในตลาดซึ่งจะยังมีสูงจากการเข้าสู่ช่วง 6 วันทำการสุดท้ายของการปิดงวดครึ่งปีบัญชี มองว่าจะมีผลต่อหุ้นรายกลุ่มและหุ้นรายตัวในเชิงซื้อและขายสลับ สำหรับเก็งกำไรสั้นเราให้ความสำคัญและควรระมัดระวังที่ SET ระดับ 1460 จุด (เป็นจุดตัดขาย)
แนวโน้มการลงทุนสำหรับระยะกลาง
ลดพอร์ตถือครองเหลือ 70%
ลดการถือครองหุ้นลงเหลือ 70% ถือสด 30%
Accumulate : -- สะสมหุ้น
Trading : เลือกซื้อหุ้นเก็งกำไรเหนือ 1460 ต่ำกว่าควรหลีกเลี่ยง
เปรียบเทียบดัชนีกับ SET
สถานะพอร์ตจำลอง (เริ่ม 25 พ.ย. 56)
พอร์ตหุ้น 70% ถือเงินสด 30%
ผลตอบแทนพอร์ตจำลอง (70%) = +9.5%
ผลตอบแทนถือเงินสด (30%) = +0.6%
ผลตอบแทน SET = +10.1%
พอร์ตจำลองสุทธิ > SET
หมายเหตุ : Cash/Equity weighting เป็นการแสดงมุมมองของ KSS Research เพื่อใช้เป็นแนวทางว่าด้วยแนวโน้มระยะกลาง (3-6 เดือน) ว่าจะมีแนว โน้มเชิงบวก หรือ เชิงลบ โดยหุ้นที่แนะนำในพอร์ตจำลองเป็นหุ้นพื้นฐานที่เราประเมินว่าจะมีแนวโน้มที่ดี ไม่มีนัยสำคัญเพื่อคำแนะนำว่าควร “ซื้อ” หรือ “ขาย” หุ้นดังกล่าวในเวลาใด
Analysts :
Kasamapon Hamnilrat Registration No. 17622
Apisak Limthumrongkul Registration No. 13130