- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 23 June 2014 17:17
- Hits: 2621
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Outlook
Downside Risk จำกัด: SET ปรับสูงขึ้น0.37% ปิดตลาดที่ 1,467.29 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.3 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นสุทธิ 365 ล้านบาท...เมื่อพิจารณาในทางเทคนิคยังไม่มีสัญญาณ “จบรอบ” การพักฐาน แต่ด้วย 1) แนวโน้มเศรษฐกิจที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 1H14 และคาดว่าจะเร่งตัวขึ้นตั้งแต่ 2H14 เป็นต้นไป 2) สถานะการณ์การเมืองมีเสถียรภาพมากขึ้นหลังรัฐประหาร และการจัดตั้งรัฐบาลในเดือน ส.ค.-ก.ย.จะส่งผลเชิงบวกต่อ Sentiment การลงทุน 3) กำไรบริษัทจดทะเบียนขยายตัวในอัตราเร่ง 14.8-15.0% ในปี 2015-16 ทำให้เราประเมิน Downside Risk ของการพักฐานจำกัดที่ 1,445 จุด หรือถัดไปที่ 1,425 จุด
การ “พักฐาน” เป็นโอกาส “ซื้อ”: แนะนำ “ซื้อ” หุ้นกลุ่มหลักที่ได้รับผลดีจากเศรษฐกิจเร่งตัวขึ้นเป็น 4% และกำไร SET ขยายตัว 14.8% ในปี 2015...แนะนำ “ซื้อ” กลุ่มธนาคาร (BBL, KBANK) สื่อสาร (INTUCH, DTAC, SAMART) พลังงานทางเลือก (SPCG, DEMCO, GUNKUL, IFEC) นิคมฯ (HEMRAJ) ค้าปลีก (CPALL) ท่องเที่ยว (CENTEL AOT) ขณะที่กลุ่มอาหารอย่าง CPF TUF ได้รับผลกระทบทาง Sentiment เชิง “ลบ” จากประเด็นที่ US ลดระดับค้ามนุษย์เป็น Tier 3 แนะนำ “หลีกเลี่ยง”
Tactical Portfolio (1-3 months)
TNS แนะนำ “ถือ” BBL, BTS, CENTEL, CPALL, DEMCO, HEMRAJ, INTUCH, SAMART, SPALI และ SPCG
SAMART: “ซื้อ” เป้าหมายพื้นฐาน 28.0 บาท และระยะสั้นที่ 21.6-21.7 บาท หรือถัดไปที่ 22.60 บาท ล่าสุด คสช. เห็นชอบให้ กสทช.แจกคูปองซื้อกล่อง Digital TV แต่ให้ทำประชาพิจารณ์ในการกำหนดราคาคูปอง และเงื่อนไขแลกซื้อ ซึ่งบอร์ด กสทช.จะพิจารณาวันนี้ โดยคาดว่าจะสามารถแจกคูปองได้ภายในกลาง ก.ย.นี้
SPALI: “ซื้อ” เป้าหมายพื้นฐาน 26.0 บาท และระยะสั้นที่ 22.60 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) Valuation ถูก ด้วย PE ต่ำเพียง 7.4x ในปี 2015 2) Presale มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นใน 2H14 หลังการเมืองนิ่ง และการเร่งเปิดตัวคอนโดฯใหม่ ด้วย Expected Growth ที่ 50% h-h 3) อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ 4.3-5.4% ในปี 2014-15
Tactical Portfolio: Tactical Portfolio ให้อัตราผลตอบแทน 0.83% w-w เทียบกับ SET ให้อัตราผลตอบแทน 0.77% w-w หรือมีอัตราผลตอบแทนดีกว่า SET เล็กน้อย 0.06%
Technical
ขึ้นสู่ระดับ 1480 จุด: มีจังหวะซื้อระยะสั้นในระหว่างสัปดาห์ เนื่องจากดัชนี SET กลับมายืนปิดสูงกว่า 1460 จุด และคาดว่าจะขึ้นไปทำยอดสูงสุดใหม่ได้ที่ระดับ 1480 จุด ถ้าผ่านได้จะขึ้นต่อไปสู่ระดับแนวต้านถัดไปที่ 1495-1500 จุด เป็นจุดขายทำกำไรสำคัญ
ซื้อระยะ 1 สัปดาห์ : AOT จังหวะดีดตัวขึ้นปิดสูงสุดเมื่อวันก่อนเป็นสัญญาณซื้อ มีโอกาสทำยอดสูงสุดใหม่ทะลุ 204 บาท คาดว่าจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 212 บาท EE ดีดตัวกลับขึ้นมาอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 3 เดือน เป็นสัญญาณบวกคาดว่าจะผ่าน 1.13 บาท มีเป้าหมายระยะสั้นขึ้นไปทดสอบ 1.21 บาท เป็นจุดขายทำกำไร IVL ขึ้นทะลุ 26.50 บาท เป็นสัญญาณซื้อหุ้นเพิ่มขึ้น คาดว่าจะผ่าน 27.50 บาท ทำยอดสูงสุดใหม่ที่บริเวณ 29.00 บาท เป็นจุดขายทำกำไร
TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long หลังการปรับสูงขึ้นเหนือ 982 จุด เมื่อวันศุกร์เป็นจังหวะในการเปิดสถานะ Long อีกครั้ง โดยมีเป้าหมายการปรับสูงขึ้นระยะสั้นที่ 990 จุด หรือถัดไปตามกรอบ Uptrend Channel ที่ 1,000 จุด ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 980 จุด
Gold Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน โดยมีเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 20,300 บาท หรือ 20,800 บาท ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 19,950 บาท
Oil Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long ในรูปแบบ Let the Profit Run โดยมีเป้าหมายการปรับสูงขึ้นถัดไปที่ 3,760 และ 3,810 ตามลำดับ ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 3,700
Thai Strategy Team
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล
