- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 23 June 2014 17:03
- Hits: 2763
บล.เอเซีย พลัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์การลงทุน
ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ยังเลือก PTTEP(FV@B195) เป็น Top pick และยังชื่นชอบ GUNKUL(FV@B20) และ KSL(FV@B17) ในฐานะเป็นพลังงานทางเลือก
ราคาน้ำมันดิบโลก vs ราคาหุ้น PTT, PTTEP
SET Index 1,467.29
เปลี่ยนแปลง (จุด) 5.38
มูลค่าซื้อขาย (ล้านบาท) 43,340.05
ยอดซื้อ-ขายสุทธิ นักลงทุนแต่ละประเภท (ล้านบาท)
นักลงทุนต่างชาติ -364.75
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ -945.70
นักลงทุนสถาบันในประเทศ 2,631.78
นักลงทุนรายย่อย -1,321.33
ส่งออกปีนี้อาจต่ำกว่าเป้า...สหรัฐขึ้นบัญชีดำไทยเรื่องค้ามนุษย์
กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ได้ขึ้นบัญชีดำ (Blacklist) ไทย ด้านปัญหาการค้ามนุษย์ ประจำปี 2557 โดยลดอันดับไทย มาเลเซีย และเวเนซุเอลา ให้อยู่ในกลุ่มที่ 3 ซึ่งถือเป็นอันดับที่ต่ำที่สุด โดยมีนัยว่าเป็นประเทศที่ไม่ให้ความสำคัญกับค้าค้ามนุษย์ ใกล้เคียงกับ เกาหลีเหนือ และอิหร่าน จากเดิมที่ไทยเคยอยู่ในอันดับที่ 2.5 มาเป็นเวลา 4 ปีติดต่อกัน ทั้งนี้สาเหตุหลักส่วนหนึ่งน่าจะเกิดจาก รัฐบาลไทยชุดก่อน อาจจะให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาแรงงานน้อย เพราะรัฐบาลขาดประสิทธิภาพในการบริหารงาน จากปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองที่ติดพันยาวนาน รวมทั้งการปิดหน่วยงาน ทำให้ข้าราชการหลายหน่วยงานไม่สามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้ และข้อมูลที่นำมาใช้ในการศึกษาเป็นสถิติสิ้นสุดปี 2556 ก่อนที่จะมีการยึดอำนาจของทหารในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กลุ่มสินค้าที่ระบุว่ามีการใช้แรงงานเด็กมากที่สุด และส่งออกไปสหรัฐ น่าจะเป็นอุตสาหกรรมอาหารทะเล สิ่งทอ และสื่อประเวณี เป็นต้น (ไทยไม่ได้ส่งออกน้ำตาลไปสหรัฐ ตามที่ระบุตามข่าวหน้าหนังสือพิมพ์เช้านี้แต่ตลาดส่งออกน้ำตาลของไทย กระจุกตัวอยู่ในแถบเอเซีย และจีน เป็นหลัก จึงไม่ได้รับผลกระทบ) ปัจจัยนี้อาจจะทำให้การส่งออกของไทยต่ำกว่าเป้าหมายในปีนี้ได้
ในเบื้องต้นเชื่อว่าการปรับลดความน่าเชื่อถือดังกล่าว น่าจะกระทบโดยอุตสาหกรรมอาหารทะเลแช่แข็งของไทย ซึ่งมีสัดส่วนมูลค่ากว่า 7 พันล้านดอลลาร์ต่อปี และไทยยังเป็นผู้ส่งออกอาหารทะเล รายใหญ่อันดับ 2 ในตลาดสหรัฐ ซึ่งอาจจะทำให้เป็นอุปสรรคในการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ขณะที่การรักษาฐานลูกค้าเดิมอาจจะยากลำบากขึ้น สะท้อนจากล่าสุด บริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ เช่น คอสโก วอลมาร์ท คาร์ฟูร์ และเทสโก ส่งสัญญาณที่จะไม่สั่งซื้อจากไทย รวมถึงบริษัทข้ามชาติบางแห่ง อาจพิจารณาการลงทุนใหม่ในอุตสาหกรรมที่ถูกกล่าวหาว่าใช้แรงงานผิดกฎหมาย ส่วนผลกระทบต่อบริษัทจดทะเบียน เชื่อว่าจะกดดันราคาหุ้นในระยะสั้น จากการเปิดเผยของบริษัทจดทะเบียน ระบุว่าการใช้แรงงานถูกกดดัน แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อความระมัดระวังในการจัดทำประมาณการระยะกลา และยาว เป็นไปได้ที่นักวิเคราะห์กลุ่มอาหารของ ASP อาจจะต้องมีการปรับต้นทุนการผลิตเพิ่ม ซึ่งจะกดดันประสิทธิภาพการทำกำไร แต่นักวิเคราะห์พื้นฐานยังคงคำแนะนำเช่นเดิม ในหุ้นเกษตรและอาหาร 3 บริษัท คือ TUF(ซื้อ : FV@B76) CPF(ถือ : FV@B28) และ GFPT(ถือ : [email protected]) แต่ระยะสั้นแนะนำให้หลีกเลี่ยงหุ้นเหล่านี้ไปก่อน
ราคาสินค้าโภคภัณฑ์น้ำมัน ยังเป็นขาขึ้น หนุน PTTEP/PTT
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบยังพุ่งทะยานต่อเนื่อง โดยสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ส่งมอบเดือน ส.ค. ปรับขึ้นเป็นวันที่ 3 อีก 0.6% อยู่ที่ 107.45 เหรียญฯ/บาร์เรล เช่นเดียวกับสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า Brent ส่งมอบเดือน ส.ค. ปรับขึ้น 0.3% อยู่ที่ 115.15 เหรียญฯ/บาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบดูไบตลาดสิงคโปร์ ทรงตัวที่ 110.8 เหรียญ/บาร์เรล และค่าการกลั่นอยู่ที่ 4.81 เหรียญฯ/บาร์เรล (ดีต่อ BCP มากสุด รองมาคือ TOP และ PTTGC ตามลำดับ)
ความเสี่ยงจากสงครามในอิรัก เป็นปัจจัยความเสี่ยงส่วนเพิ่ม (risk premium) ที่ผลักดันราคาน้ำมันโลกปรับขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุดกลุ่มอิสลามหัวรุนแรง ISIL ได้เข้ายึดเมืองสำคัญทางภาคเหนือของประเทศและประชิดกรุงแบกแดด รวมทั้งมีการเผาโรงกลั่นและทำลายท่อส่งน้ำมันด้วย ขณะที่ประธานาธิบดีโอบามาได้ออกมาเตือนว่าอาจมีการส่งกองกำลังทหารเพิ่มเติมอีกหากการสู้รบมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น และหากลุกลามไปยังภาคใต้ของอิรักที่มีกำลังการผลิตน้ำมันกว่า 3 ใน 4 ของที่ผลิตได้ทั้งหมด ราคาน้ำมันอาจพุ่งสูงมากกว่านี้
โดยสรุป ตราบที่สงครามในอิรักยังมีอยู่ น่าจะกดดันราคาน้ำมันโลกขยับขึ้น แตะยอดสูงเดิม 110 เหรียญฯต่อบาร์เรล สำหรับน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า ขณะที่ราคาน้ำมันดิบตลาดดูไบได้ขึ้นแตะจุดสูงสุดเดิมที่ 110 เหรียญฯต่อบาร์เรลเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ราคาน้ำมันดิบดูไบจากต้นปี 2557 จนถึง ปัจจุบันอยู่ที่ 105.8 เหรียญฯต่อบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าสมมติฐานของ ASP ที่ราว 100 เหรียญฯ ซึ่งหากราคาน้ำมันดิบยังทรงตัวในระดับสูงเกิน 110 เหรียญฯ ต่อไปอีกระยะ คาดว่านักวิเคราะห์กลุ่มพลังงานของ ASP น่าจะปรับเพิ่มประมาณการราคาน้ำมันดิบขึ้นอีก 10 เหรียญฯ ซึ่งจะมีผลทำให้ประมาณการกำไรและ Fair Value ปี 2557 มีโอกาสขยับสูงขึ้นจากปัจจุบัน จึงยังคงชื่นชอบหุ้นผลิตและสำรวจ PTTEP (FV@B 195) นอกจากมี upside 17% ยังมีค่า Expected P/E ต่ำมากกว่าเพียง 9.83 เท่าปีนี้ และ 8.71 ในปีหน้า และยังชื่นชอบหุ้น PTT (FV@B 360) ในฐานะที่ถือหุ้น PTTEP 65.3%
ต่างชาติขายหุ้นภูมิภาคเบาบาง เช่นเดียวกับไทย
ศุกร์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติสลับมาขายสุทธิหุ้นในภูมิภาคเล็กน้อย ราว 138 ล้านเหรียญฯ ซึ่งเป็นการขายสุทธิด้วยยอดเบาบางในเกือบทุกประเทศ เว้นเพียงแต่ อินโดนีเซียเพียงประเทศเดียว ที่สลับมาซื้อสุทธิเล็กน้อยราว 3 ล้านเหรียญฯ สวนทางกับประเทศอื่นๆที่ขายสุทธิทั้งหมด กล่าวคือ เกาหลีใต้ขายสุทธิเป็นวันที่ 2 ราว 77 ล้านเหรียญฯ (เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากวันก่อนหน้า) ตามมาด้วย ไต้หวัน ที่พลิกกลับมาขายสุทธิราว 27 ล้านเหรียญฯ (หลังจากซื้อสุทธิติดต่อกัน 11 วันก่อนหน้า) ใกล้เคียงกับฟิลิปปินส์ที่ขายสุทธิเป็นวันที่ 5 ราว 25 ล้านเหรียญฯ (เพิ่มขึ้น 3%) สุดท้ายคือ ไทย ที่ยังคงขายสุทธิเป็นวันที่ 9 แต่ลดลงถึง 91% เหลือเพียง 11 ล้านเหรียญฯ (364 ล้านบาท)
ทั้งนี้ แม้ว่า นักลงทุนต่างชาติจะขายสุทธิหุ้นในภูมิภาคออกมา แต่ขายออกมาด้วยปริมาณเบาบางเท่านั้น เช่นเดียวกับในประเทศไทย แม้ถูกขายสุทธิติดต่อกันเป็นวันที่ 9 แต่ยอดขายเริ่มเบาบางลงอย่างมาก ในขณะที่นักลงทุนกลุ่มนี้ยังคงซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้ของไทยต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ราว 3.5 พันล้านบาท รวม 6 วัน 3.0 หมื่นล้านบาท มีส่วนทำให้เงินบาทยังคงทรงตัวที่ระดับ 32.46 บาทต่อเหรียญฯ ได้ ในระยะสั้นเชื่อว่าต่างชาติน่าจะขายสลับเข้าซื้อหุ้นไทยด้วยปริมาณเบาบางเพื่อรอดูสถานการณ์ ก่อนที่จะเข้าซื้ออีกครั้งเมื่อทุกอย่างคลี่คลายลงในระยะต่อไป
เข้าสู่ยุคทองของน้ำตาลปี 2558 … KSL โดดเด่น
จากการประชุม Analyst Meeting ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกมากขึ้นต่อแนวโน้มธุรกิจของ KSL หลังจากกำไรสุทธิงวด 2Q57 ดีกว่าที่คาดโดยเพิ่มขึ้นถึง 48%qoq จากธุรกิจโรงไฟฟ้ามาช่วยหนุน ขณะที่แนวโน้มปริมาณขายน้ำตาลในช่วง 2H56/57 (เดือนพ.ค.57-ต.ค.57) จะปรับสูงถึง 5.5 แสนตัน หรือเพิ่มขึ้นจาก 2.6 แสนตันในช่วง 1H56/57 ทั้งนี้ ทิศทางราคาน้ำตาลโลกยังเป็นขาขึ้น หลังจากที่ผลผลิตน้ำตาลต่างประเทศได้รับผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก จึงทำให้เกิดความกังวลว่าผลผลิตน้ำตาลโลกอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภคในปี 2558 แม้ KSL จะยังไม่ได้ผลประโยชน์ในปี 2556/57 มากนัก เนื่องจากได้ทำสัญญาขายล่วงหน้าปี 2557 ไว้ทั้งหมดแล้ว แต่เชื่อว่าจะส่งผลบวกอย่างนัยฯ ต่อแนวโน้มกำไรสุทธิในปี 2557/58 ฝ่ายวิจัยจึงได้ปรับเพิ่มประมาณการปี 2556/57-58 ขึ้นราว 12.1% และ 19.8% จากเดิม ตามลำดับ เพื่อสะท้อนกำไรสุทธิ 2Q56/57 ที่ดีกว่าคาด และได้ปรับ Fair Value ขึ้นใหม่เป็น 17.20 บาท มี upside กว่า 20% จากราคาหุ้นปัจจุบัน ซึ่งมี PER ที่ระดับเพียง 10.6 เท่า อยู่ในระดับที่ต่ำมากหากเทียบกับหุ้นน้ำตาลในต่างประเทศ ที่ทำธุรกิจลักษณะเดียวกัน โดยเฉพาะในประเทศบราซิล 2 แห่งคือ Cosan และ Sao Martinho ซื้อขายที่ PER 15.9 เท่า และ PER 18.2 เท่า
ภรณี ทองเย็น, CISA
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004146
เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004132
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
พบชัย ภัทราวิชญ์
กษิดิ์เดช รัตนสมบูรณ์
มาราพร กี้วิริยะกุล