- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 17 July 2015 16:46
- Hits: 4687
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +70.08, NASDAQ +64.24, S&P +16.89, FTSE +42.70, CAC +74.26 และ DAX +177.10 ภายใต้ปัจจัยบวกต่อสถานการณ์ของกรีซ หลังรัฐสภากรีซมีมติอนุมัติร่างกฎหมายปฏิรูปเศรษฐกิจฉบับใหม่ ซึ่งจะช่วยให้กรีซได้รับเงินช่วยเหลือรอบใหม่และรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ และประเด็นที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศเพิ่มวงเงินฉุกเฉินให้แก่ภาคธนาคารของกรีซ ประมาณ 900 ล้านยูโร (989 ล้านUSD) เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ตามคำร้องขอของธนาคารกลางกรีซ สอดคล้องกับสหภาพยุโรป (EU) ปล่อยเงินกู้ระยะสั้นให้กับกรีซ วงเงิน 7 พันล้านยูโร (7.65 พันล้านUSD) ซึ่งทำให้กรีซสามารถชำระหนี้เงินกู้ 3.5 พันล้านยูโร แก่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 20/7/58
....และยังได้รับปัจจัยบวกจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ล่าสุดของสหรัฐฯ ลดลง 15,000 ราย อยู่ที่ 281,000 ราย ซึ่งยังเป็นระดับที่กว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 19 ติดต่อกัน นับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง ขณะที่ประธานเฟด เน้นย้ำในการแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐฯ (16/7/58) ว่าเฟดมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
…..ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน สค. -US$0.50 อยู่ที่ US$50.91 ต่อบาร์เรล ส่วนหนึ่งได้รับปัจจัยกดดันจากเงินสหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น และมีความกังวลว่าการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านอาจจะทำให้อิหร่านสามารถผลิตและส่งออกน้ำมันดิบได้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้นอีก
......ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน สค. -US$3.5 อยู่ที่ US$1,143.9 ต่อออนซ์ จากถ้อยแถลงของประธานเฟดต่อสภาคองเกรสวันที่สองว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -114 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -33,311 ล้านบาท (ปี’57 มียอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
ทิศทางตลาด :
ทิศทางตลาด : Sideway? หลังยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ แต่คาดมีโอกาสแกว่งตัวทั้ง + / - ตามปัจจัยเดิมๆ (+) จากสถานการณ์ของกรีซที่คาดดีขึ้นตามลำดับ จากเงินช่วยเหลือรอบใหม่ที่ทำให้กรีซพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ แต่ (-) จากถ้อยแถลงของประธานเฟดต่อสภาคองเกรส (15 – 16/7/58) ที่ล่าสุดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งคาดเป็นปัจจัยที่เข้ามากดดันภาพรวมตลาดและคาดมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นหลังจากนี้ไป
.....ทางด้านปัจจัยภายในประเทศ (1) ภาพรวม Fund Flow มีความผันผวน ต่างชาติกลับมาซื้อ / ขาย สุทธิสลับกัน แต่มูลค่าไม่มาก และ (2) เริ่มเข้าสู่ช่วงประกาศผลการดำเนินงาน – 2Q/58 ที่คาดมีแรงเก็งกำไรต่อเนื่องถึงกลางสค. โดยเริ่มจากกลุ่มธนาคารที่คาดทยอยประกาศปลายสัปดาห์นี้ – ต้นสัปดาห์หน้า ขณะที่แนะจับตาการปรับลดคาดการณ์ GDP หลังมีความกังวลการเติบโตในช่วงที่เหลือ และได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง
...และยังแนะติดตาม (1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC และ BCP ตามการเคลื่อนไหวของค่าการกลั่น ล่าสุดเคลื่อนไหวบริเวณ 5 - 6 USD/bll ลดลงจากช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 8 – 9 USD/bll ยังไม่เหมาะในการเก็งกำไรระยะสั้น แต่เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับการลงทุนในระยะยาวกลาง – ยาว (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น CK, ITD, SEAFCO และ UNIQ (3) ค่าเงินบาท ล่าสุดมีทิศทางอ่อนค่า โดยเคลื่อนไหวบริเวณ 34.19 – 34.21 คาดส่งผลดีต่อกลุ่มส่งออก และหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เช่น DELTA, KCE, SMT (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น SCC และ TASCO, VNG เป็นต้น (5) กลุ่มท่องเที่ยวยังคงได้รับประโยชน์จากนักท่องเที่ยวที่ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หุ้นที่ได้รับผลดี เช่น CENTEL และ (6) กลุ่มเดินเรือ เช่น TTA และ PSL จาก Baltic Dry Index – BADI ที่เพิ่มต่อเนื่องจาก 788 เมื่อต้นเดือนกค. อยู่ที่ 1,009 (ล่าสุดเช้านี้) รวมถึงกลุ่มพลังงานที่ได้รับปัจจัยลบจากราคาน้ำมันที่ลดลง
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 2.35% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -1.12 อยู่ที่ 12.11
หุ้นแนะนำ : BEAUTY
ประเด็นที่ต้องติดตาม (17 กค.’58)
17/7/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) - มิย. (2) ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้าง - มิย.(3) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้น - กค.
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788