- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 17 July 2015 16:39
- Hits: 1787
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
SET อาจดีดขึ้นหลังปรับลงติดต่อกัน แต่คาดกรอบบวกยังแคบ!
กลยุทธ์ : SET เริ่มกลับมาแกว่งตัวลงต่อเนื่องอีกครั้ง หลังจากจบข่าวบวกเกี่ยวกับกรีซ ขณะที่ประเด็นลบอื่นๆ ยังคงกดดันตลาด แต่หลังจากดัชนีย้อนปิดเป็นลบมา 3 วันติดต่อกัน ก็อาจลุ้นจังหวะปิดสิ้นวันเป็นบวกได้บ้าง โดยเฉพาะมีข่าวการปรับ ครม.ด้านเศรษฐกิจเข้ามาช่วยหนุน แต่ FSS ยังคาดว่ากรอบรีบาวด์มีค่อนข้างจำกัด และยังมีแนวโน้มแกว่งตัวลงต่อได้อีก ดังนั้นเรายังแนะนำให้รอเลือกหุ้นเข้าซื้อช่วง SET ลบดีกว่า
หุ้นเด่นทางเทคนิค : OTO, TAE, TPIPL(buy back)
แนวโน้ม : SET เริ่มมีจังหวะแกว่งบวกแคบลง และมีแรงขายกดดันให้ปรับตัวลงต่อเนื่องอีกครั้ง หลังข่าวบวกจากเรื่องหนี้กรีซผ่านพ้นไป แต่ความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐกลับมากดดันความมั่นใจของนักลงทุนแทน เนื่องจากการประชุมกับสภาคองเกรสใน 2 วันนี้ ประธานเฟดยังยืนยันเรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีอยู่ ประกอบกับแนวโน้มการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจไทยก็ยังไม่มีความชัดเจน ขณะที่นักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับผลประกอบการของหุ้นกลุ่มแบงก์ที่กำลังจะทยอยประกาศในช่วงนี้ด้วย นอกจากนี้ค่าเงินบาทที่ยังอ่อนค่าต่อเนื่อง และราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ยังอยู่ในช่วงปรับตัวลง ก็ยิ่งบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนทำให้โอกาสที่ SET จะรีบาวด์ขึ้นได้แรงยังมีความเป็นไปได้ไม่มากนัก อย่างไรก็ตามช่วงนี้ยังมีประเด็นการปรับ ครม. โดยเฉพาะทีมงานด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลไทย ที่อาจจะช่วยหนุนให้ SET มีลุ้นจังหวะแกว่งบวกได้บ้าง แต่ FSS คาดว่าน่าจะเป็นปัจจัยบวกแค่เพียงระยะสั้นเท่านั้น จึงยังต้องระวังการปรับตัวลงต่ออยู่
แนวรับ 1478-1476 , 1472-1466 จุด
แนวต้าน 1484-1486 , 1488-1492 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินยังไหลเข้าภูมิภาคเป็นวันที่ 2 รวม US$215 ล้าน โดยไหลเข้าเกาหลีใต้มากที่สุด US$ 202ล้าน ตามด้วยไต้หวัน US$40ล้าน แต่ไหลออกจากฟิลิปปินส์และไทย US$16.4 ล้าน และ US$3 ล้านตามลำดับ แนวโน้มกระแสเงินทุนวันนี้น่าจะเบาบาง มีหลายตลาดปิดทำการเนื่องในเทศกาลฮารีรายออีฏิ้ลฟิต
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) ประเด็นกรีซลงเอยด้วยดี ECB เพิ่มวงเงินฉุกเฉินให้ธนาคารกรีซทำให้สภาพคล่องในกรีซดีขึ้น ทำให้เศรษฐกิจของประเทศในยุโรปกลับมาอยู่ในทิศทางของการค่อยๆฟื้นตัว ความสนใจของตลาดจึงกลับมาอยู่ที่การปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ซึ่ง Yellen ย้ำว่าอยู่ในปีนี้ซึ่งจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าในระยะยาว เป็นลบกับราคา Commodity
(0) TPIPL ถูกก.อุตสาหกรรมฟ้องเรียกค่าเสียหาย 4 พันล้านบาทกรณีทำแร่นอกเขตประทานบัตร บริษัทยืนยันไม่ได้ทำผิดกฏหมาย สำหรับค่าเสียหาย 4 พันล้านบาทคิดเป็น 0.20 บาท/หุ้นของ TPIPL (4% ของสินทรัพย์) แต่ราคาหุ้นวานนี้ปรับลงไปมากกว่า 0.20 บาทเชื่อว่าสะท้อนไปแล้วบางส่วน น่าซื้อลงทุนเมื่อแรงขายชะลอ เรายังคาดกำไรปีนี้โตโดดเด่น 65% Y-Y แต่การเติบโตจะอยู่ในช่วง 2H15 เป้าหมายยังคงไว้ที่ 3.50 บาท
(+) BEAUTY เราคาดกำไรสุทธิ 2Q15 โตแรง 18% Q-Q และ 46% Y-Y เป็น 90 ล้านบาท จากยอดขายเฉลี่ยต่อสาขาเดิมที่คาดโตถึง 15% Y-Y และการเปิดสาขาใหม่ทั้งในและต่างประเทศอีก 16 แห่ง ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้คาดลดลง เพราะการกลับมาซื้อของลูกค้าเอเชียทำให้ไม่ต้องจัดโปรโมชั่นกระตุ้นตลาดมากนัก เราชอบ BEAUTY ทั้งในแง่พื้นฐานดีและเติบโตสูง ราคาปัจจุบันมี PEG ปีนี้และปีหน้าเพียง 1.3 และ 1.0 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มค้าปลีกที่ 3.0 เท่า ยังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 4.90 บาท
(+) PTTGC เราคาดกำไรสุทธิ 2Q15 กลับมาแข็งแกร่งที่ 7,540 ล้านบาท +42.5% Q-Q, +4.3% Y-Y จากการฟื้นตัวของธุรกิจโอเลฟินส์และผลิตภัณฑ์ PE ซึ่งผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 1Q15 โดยราคา HDPE กลับมายืนเหนือ US$1,300/ตันตลอดทั้งไตรมาส +15% Q-Q ทำให้ส่วนต่าง HDPE-Naphtha กว้างขึ้น แนวโน้มธุรกิจจะดีขึ้นต่อเนื่องใน 2H15 แม้ราคาหุ้นขยับขึ้นมาแล้วแต่ PE 10.8 เท่าปีนี้และ 9.8 เท่าปีหน้า ยังต่ำที่สุดในกลุ่มปิโตรฯและถูกที่สุดในกลุ่ม PTT เราคงประมาณการกำไรเท่าเดิมแต่ Rerate PE ขึ้นเป็น 12 เท่าใกล้เคียงภูมิภาค ราคาเป้าหมายจึงเพิ่มเป็น 75 บาทจากเดิม 68 บาท แนะนำซื้อ
(+) IRPC เราคาดกำไรปกติ 2Q15 โตแรง 301.4% Q-Q และ 1,757.8% Y-Y โดยจะมีกำไรจากสต็อกน้ำมัน US$3-4/บาร์เรล ขณะที่ไตรมาสก่อนๆขาดทุนจากสต็อก ส่วนค่าการกลั่นเพิ่มขึ้น 7% Q-Q เป็น US$14/บาร์เรล จากส่วนต่างของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่ดีขึ้น เรายังคาดกำไรปกติปีนี้ที่ 6,515 ล้านบาทพลิกจากขาดทุน 5,235 ล้านบาทในปีก่อน แต่ปรับกำไรปกติปี 2016 ขึ้น 14% เป็นโต 23% Y-Y จากเดิมโต 8% Y-Y เพราะเชื่อว่าโครงการ UHV ที่จะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ใน 4Q15 จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าได้ดีขึ้น
Investment Theme
หุ้นปันผลเลอค่า ADVANC, ASK, ASP, BTS, CSL, INTUCH, JASIF, QH, THANI, TRUEIF, TVO
หุ้นจู๊ดแต่จี๊ด (Bargain stocks) BANPU, CSS, EA, ERW, IRCP, QH, THANI, KAMART, SAMART, SAPPE
หุ้นสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก (Defensive stocks) CPN, EA, GPSC, INTUCH, PLAT, THCOM, TSE, TTW
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนบวกได้ต่อเนื่องโดยนักลงทุนให้น้ำหนักผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดีกว่าคาด ขณะที่สถานการณ์หนี้กรีซมีพัฒนาการที่ดีขึ้น
(+) สำหรับตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดบวกได้ค่อนข้างแรงหลังประธาน ECB ยังคง QE ถึงเดือน ก.ย. 2016 และล่าสุดประกาศเพิ่มวงเงินกู้ฉุกเฉินแก่ธนาคารกรีซ อีก 900 ล้านยูโรเป็นเวลา 1 สัปดาห์
(+) ส่งผลให้ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวในแดนบวกได้ต่อจากบรรยากาศการลงทุนที่สดใส
(0) ค่าเงินบาทเริ่มแกว่งทรงตัวหลังอ่อนค่าลงในช่วงก่อนหน้า ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 34.14-34.22 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดที่ 50.91 เหรียญ/บาร์เรล ร่วงลง 0.50 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยสต๊อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ปรับตัวเพิ่มขึ้นซึ่งสร้างกังวลเรื่องอุปสงค์ของน้ำมัน ขณะที่ฝั่งอุปทานยังคงอยู่ในระดับสูงรวมถึงการส่งออกน้ำมันของอิหร่านที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดที่ 1,143.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 3.50 เหรียญ/ออนซ์ โดยยังคงถูกกดดันจากถ้อยคำแถลงของประธาน FED ที่ยืนยันว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ ส่งผลให้ Dollar Index พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
17-ก.ค. - ตลาดหุ้นมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ปิดทำการ
- สหรัฐ: Housing starts, Building permits (มิ.ย.),เงินเฟ้อ (มิ.ย.)
20 ก.ค. - ไทย:ยอดขายรถ (มิ.ย.)
- กรีซ:ครบกำหนดชำระคืนหนี้ ECB 3.5 พันล้านยูโร
22 ก.ค. - สหรัฐ:ยอดขายบ้านเก่า (มิ.ย.)
23-ก.ค. - ไทย: DAIIเริ่มเทรด (ราคา IPO 4 บาท)
- เกาหลีใต้: 2Q15 GDP
- สหรัฐ:ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์
- ยูโรโซน:ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ค.)
24-ก.ค. - สหรัฐ:ยอดขายบ้านใหม่ (มิ.ย.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ก.ค.)
27-ก.ค. - ไทย:ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (มิ.ย.), ดุลการค้า (มิ.ย.)
28-ก.ค. - สหรัฐ:S&P/CaseShiller Index (พ.ค.), ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ค.)
28-29 ก.ค. - สหรัฐ: FOMC ประชุม
30-ก.ค. - สหรัฐ: 2Q15 GDP (คาดการณ์ครั้งที่ 1)
- ยูโรโซน:ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคธุรกิจ (ก.ค.)