WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

DBS copyบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

ระยะสั้นเรื่องกรีซกดดัน...แต่เป็นจังหวะเลือกซื้อลงทุน

Top Picks-Fund Jan-12 : Fundamental : CENTEL, CK, CPN, IVL, TUF ส่วน Dark Horse คือ MCS, SYNEX

Top Picks -Fund Today: BBL (ดูใน Company Focus)
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, INTUCH, BTS, DCC, DELTA, DTAC, AP, QH, SPALI, SRICHA, MODERN, TISCO, TMT, BTSGIF, JASIF, CPNRF, TRUEIF

Shot Sell-Prev : TTCL 30%, PTT 21%, BA 20%

Technical View ภาพตลาดเป็นลบแต่มีลุ้นเด้งสั้น
Support Resistance Stop loss
SET ซื้อค่าบวก 1500-1510 ค่าลบ
SET50 ซื้อค่าบวก 990-1000 ค่าลบ
Top Picks-Tech Today : ITD, BCP, CPN, SMT, TPCH, BRR, VGI, BTS

 

หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
        ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ปิดทรงตัวที่ 1489.59 โดยหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์มีรีบาวด์เล็กๆ หลังร่วงแรงต่อเนื่องในหลายวันก่อน หุ้นกลุ่มสนามบินและโรงแรม Perform ดี ขณะที่กลุ่มสายการบินมีประเด็นเรื่องบาทอ่อนทำให้มีขาดทุนจาก FX ทำให้กำไรใน 2Q58 อาจจะอ่อนลง QoQ นักลงทุนรอผลการทำประชามติกรีซวันที่ 5 ก.ค.58 ว่าประชาชนส่วนใหญ่จะยอมรับ/ไม่ยอมรับมาตรการรัดเข็มขัด ต่างชาติขายสุทธิ 1.5 พันล้านบาท พอร์ตบล.ขายสุทธิ 800 กว่าล้านบาท สถาบันในประเทศและรายย่อยซื้อสุทธิ


       ผลประชามติกรีซออกมาเป็น "NO" สร้างความผันผวนในตลาดเงินและตลาดทุนในระยะสั้น โดยค่าเงินยูโรอ่อนลง ขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งขึ้นอย่างรวดเร็ว (ทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงแรงด้วย) ตลาดหุ้นตอบรับในทางลบ (ดัชนีตลาดหุ้นญี่ปุ่นและดาวโจนส์ฟิวเจอร์สลดลงกว่า 1% ส่วนดัชนีตลาดหุ้น TIPs อ่อนลง 0.7%-0.8% แต่ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวไม่มากและบางตลาดปรับขึ้นได้) ทั้งนี้นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังหลายคนสนับสนุนให้กรีซออกจากยูโรโซนเพื่อให้สามารถฟื้นฟูประเทศบนความเหมาะสมของสภาพเศรษฐกิจตัวเอง (เดิมต้องผูกติดกับค่าเงินและเงื่อนไขของยูโรโซนซึ่งอาจไม่เหมาะกับกรีซ) สำหรับในประเทศยังมีประเด็นเรื่องอุปทานอาหารทะเลมีแนวโน้มขาดแคลนเพราะเรือประมง 22 จังหวัดหยุดหาปลา แต่บริษัทที่มีรายได้อิงเงินตราต่างประเทศได้ประโยชน์จากบาทอ่อน หุ้นเด่น คือ TUF, THCOM, VNG เป็นต้น โดยภาพรวมระยะสั้นตลาดยังมีปัจจัยลบกดดัน แต่การอ่อนตัวของราคาหุ้นพื้นฐานดีก็เป็นจังหวะในการซื้อลงทุนระยะกลาง-ยาว


การวิเคราะห์ทางเทคนิค ภาพตลาดโดยรวมเป็นลบ การซื้อใหม่เน้นตามด้วยค่าบวก ค่าลบดูไม่ดี มีสิทธิร่วงแลง การปรับขึ้นมีแนวต้าน 1500-1510 จุด
สำหรับการ SCAN หาหุ้นที่มีโอกาสทำ New High พบว่าหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ TVO, CENTEL, SVOA, MAJOR, SOLAR ส่วนหุ้นที่เข้ามาใหม่เป็น TPCH, BRR, VGI

 

Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
กรีซ : ประชาชนชาวกรีซโหวต "NO" คือ ปฎิเสธมาตรการรัดเข็มขัดเพื่อแลกกับความช่วยหลือด้านการเงินจากกลุ่มเจ้าหนี้ ปัจจุบันกรีซมีหนี้สินทั้งหมด 323,000 ล้านยูโร โดย 85% ของเจ้าหนี้คือ ECB, EU และ IMF ด้านขนาดเศรษฐกิจคิดเป็น 2% ของยูโรโซน
รมว.คลังยูโรกรุ๊ปนัดประชุมอังคารที่ 7 ก.ค.นี้...ตลาดประเมินว่าจะมี Hair Cut หนี้กรีซจำนวนมาก ผลประชามติที่ออกมาเป็นที่ผิดหวังของกลุ่มเจ้าหนี้ และทาง EU เห็นว่าการปฎิรูปโดยไม่มีมาตรการรัดเข็มขัดที่มากพอจะทำให้เศรษฐกิจกรีซฟื้นฟูยาก ส่วนเรื่องของหนี้สินกรีซที่ติดค้างกับกลุ่มเจ้าหนี้ ต้องมีการประชุมเพื่อบริหารจัดการกัน ซึ่งตลาดประเมินว่าต้องมีการลดหนี้ (Hair Cut) อย่างแน่นอน
ความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังที่สนับสนุนกรีซโหวต NO เช่น 1) นายโจเซฟ สติกลิตซ์ เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์และศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียในสหรัฐ แสดงความเห็นเมื่อเร็วๆ นี้ว่าหากโหวต "NO" จะมีความเสี่ยงน้อยกว่า เพราะอย่างน้อยจะช่วยเปิดโอกาสให้กรีซสามารถกุมชะตาไว้ในกำมือและกำหนดอนาคตด้วยตัวเองได้ แม้ว่าอาจจะไม่กลับไปเจริญรุ่งเรืองเหมือนในอดีต แต่ก็ยังมีความหวังมากกว่าช่วงเวลาอันขมขื่นในขณะนี้มาก
2) นายพอล ครุกแมน เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ เห็นว่าการโหวตไม่รับเงื่อนไขเจ้าหนี้อาจบีบให้กรีซต้องออกจากกลุ่มยูโรโซน ซึ่งจะทำให้เกิดความปั่นป่วนอย่างหนักในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็จะเป็นโอกาสให้กรีซได้ฟื้นฟูประเทศอย่างจริงจังในระยะต่อไป
3) นายโธมัส พิเก็ตตี นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังชาวฝรั่งเศส ผู้เขียนหนังสือ "Capital in the 21st Century" ให้สัมภาษณ์ว่าการที่กรีซโหวต "NO" อาจเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง
ความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ถึงผลกระทบต่อกรีซเมื่อต้องออกจากยูโรโซน เช่น 1) ค่าเงินกรีซอ่อนลงอย่างมาก อาจถึง 50% หรือมากกว่า, 2) มูลค่าทางเศรษฐกิจของกรีซลดลงอย่างมีนัยสำคัญ, 3) หนี้สินต่อ GDP จะพุ่งขึ้นแรงเกิน 200% (ปัจจุบัน 177%), 4) อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นแรง, 5) กรีซต้องตั้งเงื่อนไขภาคการเงินเพื่อลดการแห่ถอนเงินอีกระลอก, 6) แรงงานมีฝีมือย้ายออกไปทำงานนอกประเทศ, 7) การเข้าถึงแหล่งเงินทุนจะยากขึ้นมาก และต้นทุนทางการเงินสูง (ซึ่งกรีซก็อาจหันไปซบอกรัสเซียหรือจีนก็เป็นได้), 8) เศรษฐกิจยูโรโซนอาจจะฟื้นตัวล่าช้าออกไปอีก เป็นต้น
- ระยะสั้นจะเห็นความผันผวนของตลาดเงิน & ทุน โดยค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงจากความวิตกกังวลเศรษฐกิจยูโรโซน ค่าเงิน US$ อยู่ในทิศทางแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลหลักๆ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของเยอรมนีอ่อนลงและนักวิเคราะห์ในตลาดเงินประเมินว่าสั้นๆ อาจจะลงไปต่ำกว่า 0.7% จากระดับปิดวันศุกร์ที่ 0.79% ส่วนดัชนีตลาดหุ้นเอเชียที่เปิดทำการเช้าวันนี้ร่วงลงกว่า 1.2-1.3% ด้านดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สลดลงกว่า 1% เช่นกัน

 

ปัจจัยในประเทศและหุ้นเด่น
+/- บาทอ่อนหนุนกลุ่มส่งออก & บริษัทที่มีรายได้รูป US$ แต่เป็นลบกับผู้นำเข้าและบริษัทที่มีหนี้ต่างประเทศจำนวนมาก ล่าสุดค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.9445 บาท/ดอลลาร์ พุ่งขึ้นจาก 33.748 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ในวันก่อนหน้า ตอบรับข่าวกรีซโหวต "NO" และภาวะเศรษฐกิจไทยที่อ่อนแอ
ความเห็นเชิงกลยุทธ์ : การอ่อนค่าของเงินบาทเป็นบวกกับบริษัทจดทะเบียนในตลาดฯ ที่มีรายได้หลักอยู่ในรูปเงินต่างประเทศ เช่น อิเลคทรอนิกส์, อาหาร, วัสดุก่อสร้างส่งออก, ดาวเทียม ฯลฯ หุ้นเด่น คือ KCE, TUF, MCS, BJCHI, STPI, VNG, THCOM เป็นต้น
แต่เป็นลบกับบริษัทที่นำเข้าและมีหนี้ต่างประเทศจำนวนมาก ได้แก่ TVO, THAI
- เรือประมง 22 จังหวัดหยุดหาปลา...อุปทานอาหารทะเลในประเทศลดลง แต่ในระยะสั้นยังกระทบไม่มากเพราะในตลาดยังมีสต็อกจากห้องเย็นย่านมหาชัยและฉะเชิงเทราเข้ามา ซึ่งคาดว่าจะใช้ได้ 1-2 เดือน ผนวกกับเรือประมงขนาดเล็กก็มีอุปทานสู่ตลาดเพิ่มขึ้น ด้านสมาคมอาหารเยือกแข็งชงเรื่องขอลดภาษีนำเข้าจาก 5% เป็น 0% เพื่อนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารทะเลขั้นกลาง-ปลาย แต่ทางรัฐบาลยังไม่ตัดสินใจเรื่องนี้


ความเห็นเชิงกลยุทธ์ : เราประเมินว่าการขาดแคลนอาหารทะเลน่าจะเกิดขึ้นในช่วงสั้นซึ่งกระทบกับธุรกิจอาหารในประเทศและส่งออก รวมทั้งทำให้ราคาอาหารทะเลสูงขึ้น นับเป็นลบกับผู้ประกอบการอาหารทะเลส่งออกที่อิงกับวัตถุดิบทางทะเล แต่ก็เป็นบวกกับผู้ประกอบการเนื้อสัตว์ประเภทอื่น เช่น กุ้งเลี้ยง ปลาน้ำจืด หมู ไก่ เป็ด ฯลฯ ซึ่งเป็นอุปสงค์ที่จะมาทดแทน บริษัทที่อยู่ในข่ายที่จะได้รับประโยชน์ ได้แก่ CPF, GFPT เป็นต้น สำหรับ TUF ไม่ได้รับผลกระทบจากประเด็นนี้ เพราะบริษัทใช้วัตถุดิบกุ้งจากบ่อเลี้ยงเป็นหลัก ไม่ใช่จากกุ้งทะเล ส่วนทูน่าก็ได้จากทะเลแปซิฟิค ดังนั้นเราจึงคงคำแนะนำซื้อ TUF


กลุ่มธนาคารพาณิชย์ : ทยอยซื้อ BBL, KBANK, SCB เพื่อลงทุนระยะกลาง-ยาว นักวิเคราะห์ทยอยปรับลดคาดการณ์กำไรปี 58F ลง สะท้อนความเสี่ยงด้าน NPL ที่จะเพิ่มขึ้น และการตั้งสำรองค่าเผื่อฯสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นธนาคารพาณิชย์ได้ปรับลดลงรับปัจจัยเสี่ยงล่วงหน้าไปแล้วก่อนที่ตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 2/58 จะออกมาจริง และหลายค่ายได้ปรับลดประมาณการและราคาพื้นฐานอย่างอนุรักษ์นิยมมาก (รวมถึง DBSV ด้วย) ดังนั้นจึงมองว่าการลดลงต่อของราคาหุ้นในช่วงนี้เป็นจังหวะทยอยซื้อสะสมเพื่อลงทุนระยะกลาง-ยาว เพราะเชื่อว่าธนาคารพาณิชย์ของไทยยังมีความมั่นคงสูง และจะฝ่าความซบเซานี้ไปได้ รวมถึงพร้อมกลับมาเติบโตได้อย่างรวดเร็วเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว ซึ่งหุ้นธนาคารพาณิชย์ที่เราแนะนำซื้อ ประกอบด้วย BBL (ราคาพื้นฐานใหม่ 200 บาท), KBANK (ราคาพื้นฐานใหม่ 224 บาท) และ SCB (ราคาพื้นฐานใหม่ 180 บาท)

นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!