WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

DBS copyบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

"รอผลการทำประชามติกรีซ"

Stock Picks-Jul 2015 : Fundamental : CENTEL, CK, CPN, IVL, TUF ส่วน Dark Horse คือ MCS, SYNEX
Fundamental Pick -Today: AOT
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, INTUCH, BTS, DCC, DELTA, DTAC, AP, QH, SPALI, SRICHA, MODERN, TISCO, TMT, BTSGIF, JASIF, CPNRF, TRUEIF

Shot Sell-Prev : TUF 22%, TCAP 21%, SVI 18%

Technical View ภาพตลาดเป็นลบแต่มีลุ้นเด้งสั้น
Support Resistance Stop loss
SET ซื้อค่าบวก 1500-1510 ค่าลบ
SET50 ซื้อค่าบวก 990-1000 ค่าลบ
Technical Picks- Today : SVOA, BCP, UNIQ, BH, AAV, AOT, MAJOR

 

หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้: ไม่มี
       ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน: ตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวลงต่อและปิดตลาดต่ำกว่าแนวจิตวิทยา 1500 จุด (โดยปิดที่ 1491.62) ต่ำกว่า นักลงทุนต่างชาติและสถาบันในประเทศนำขายสุทธิ โดยเฉพาะในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ซึ่งมีความเสี่ยงเรื่องการด้อยค่าของคุณภาพสินทรัพย์ในช่วงที่เศรษฐกิจซบเซายาวนานกว่าคาด


        เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นต่างประเทศ ราคาน้ำมัน ราคาทองคำ ทรงตัวถึงแกว่งแคบ เพราะรอผลการทำประชามติของประชาชนชาวกรีซในวันที่ 5 ก.ค.นี้ ซึ่งเป็นการชี้ชะตาว่ากรีซจะยังอยู่ในยูโรโซนหรือไม่ โดยขณะนี้กลุ่มเจ้าหนี้ยุติการเจรจากับกรีซไปจนกว่าผลการทำประชามติจะออกมา ด้านธนาคารกรีซก็ปิดให้บริการถึงวันที่ 6 ก.ค. สำหรับในประเทศ ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวยาวนานกว่าคาด และการปฎิรูปด้านต่างๆให้เป็นไปตามโรดแมพที่ตั้งไว้เป็นความท้าทายอย่างมากของรัฐบาล ส่วนภาคธุรกิจก็ต้องเร่งหารายได้จากภายนอกและลดค่าใช้จ่ายในทุกด้านเพื่อประคับประคองผลประกอบการให้ผ่านพ้นความซบเซานี้ไปให้ได้ สำหรับหุ้นกลุ่มการเงินยังมีความเสี่ยงเรื่อง NPL, กลุ่มที่อิงกับอุปสงค์ในประเทศอื่นๆ มีโอกาสที่จะถูกปรับลดประมาณการลงหลังจบการทำ Preview และรายงานผลประกอบการ 2Q58 ของบจ., กลุ่มส่งออกก็ถูกกระทบจากเศรษฐกิจโลกฟื้นช้า ฯลฯ อย่างไรก็ดี กลุ่มท่องเที่ยวยังคงไปได้ดี กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีมีลุ้นว่าราคาผลิตภัณฑ์จะขยับขึ้นได้ใน 2H58 และปี 59 ขณะที่บริษัทส่งออกชั้นนำในตลาดฯ ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มบาทอ่อน (แต่ธุรกิจบริษัทขนาดกลาง-เล็กยังไม่ดี) สำหรับ DBSV เรายังคงคาดการณ์ EPS ของตลาดหุ้นไทยปีนี้ไว้ที่ 95.5 ซึ่งต่ำกว่า Bloomberg Consensus ประมาณ 5% และยังคงให้ดัชนีเป้าหมายปีนี้ไว้ที่ 1597 จุด น้ำหนักการลงทุนใน Equity อยู่ที่ 70% โดยเน้นไปยังหุ้น Defensive สำหรับ Top Picks ของเดือนก.ค.58 เป็น CENTEL, CK, CPN, IVL, TUF และ Dark Horse คือ MCS, SYNEX
การวิเคราะห์ทางเทคนิค ภาพตลาดโดยรวมเป็นลบ การซื้อใหม่เน้นตามด้วยค่าบวก ค่าลบดูไม่ดี มีสิทธิร่วงแลง การปรับขึ้นมีแนวต้าน 1500-1510 จุด สำหรับการ SCAN หาหุ้นที่มีโอกาสทำ New High พบว่าหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ TVO, CENTEL ส่วนหุ้นที่เข้ามาใหม่เป็น SVOA, MAJOR, SOLAR และหุ้นที่หลุด List ได้แก่ STAR และหุ้นที่อยู่ในพื้นที่ Take Profit เป็น CPN, ANAN, TCMC, CPALL

 

Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
       สหรัฐ : ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มน้อยกว่าคาด โดยปรับขึ้น 2.23 แสนตำแหน่งในเดือนมิ.ย. จาก 2.54 แสนตำแหน่งในเดือนก่อนหน้า และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.33 แสนตำแหน่ง อัตราการว่างงานลดลงเป็น 5.3% ต่ำสุดนับตั้งแต่เม.ย.51
กระทรวงแรงงานสหรัฐได้ทบทวนตัวเลขเดือนเม.ย.เป็น 1.87 แสนตำแหน่ง (จากรายงานเดิม 2.21 แสนตำแหน่ง) นอกจากนั้นผู้ขอรับสวัสดิการครั้งแรกรายสัปดาห์สิ้นสุด 27 มิ.ย.เพิ่มขึ้น 1 หมื่นราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง
กรีซ: รอดูผลประชามติ 5 ก.ค.นี้ โดยนายกรัฐมนตรีซีปราสเรียกร้องให้ประชาชนกรีซโหวต NO คือ ไม่รับมาตรการรัดเข็มขัดของกลุ่มเจ้าหนี้ แต่ถ้าผลโหวตเป็น YES มากกว่าก็หมายถึงนายกรัฐมนตรีควรลาออกและจัดเลือกตั้งใหม่


/- ตลาดหุ้นสหรัฐอ่อนเล็กน้อย เพราะนักลงทุนชะลอการลงทุนก่อนการโหวตรับหรือไม่รับมาตรการรัดเข็มขัดของประชาชนชาวกรีซ ซึ่งกำหนดอนาคตว่ากรีซจะต้องออกจากยูโรโซนหรือไม่ รวมทั้งตัวเลขภาคแรงงานออกมาแย่กว่าคาดด้วย


ตลาดหุ้นจีน: ผ่อนคลายกฎการซื้อด้วยมาร์จิ้นหลังหุ้นดิ่งแรง โดยให้ยกเงินการวางเงินขั้นต่ำ ให้โบรกเกอร์ปล่อยมาร์จิ้นได้มากขึ้นและเป็นระยะเวลานานขึ้น อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าการผ่อนคลายเป็นดาบสองคม โดยอาจทำให้ตลาดปรับขึ้นรวดเร็วแต่ตลาดก็จะมีความผันผวนมากขึ้น และเรียกร้องให้ทางการสนับสนุนด้านพื้นฐานมากขึ้น


ราคาน้ำมันดิบทรงตัว: สัญญา WTI และ BRENT ปิดที่ 56.93 และ 62.07 ดอลลาร์/บาร์เรล ใกล้เคียงกับวันก่อนหน้า นักลงทุนในตลาดน้ำมันก็รอผลการทำประชามติของกรีซเช่นกัน
ราคาทองคำอ่อนตัวแต่ไม่มาก: สัญญา COMEX ลดลง 5.8 ดอลลาร์ ปิดที่ 1163.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ปัจจัยในประเทศและหุ้นเด่น
กระทรวงคมนาคมเซ็น MOU รถไฟไทย-จีน ตามกรอบข้อตกลง MOC การสำรวจออกแบบ แนวเส้นทาง รูปแบบการลงทุน โดยจะมีการประชุมร่วมกันอีกครั้งในช่วง 6-8 ส.ค.58 ... เป็นบวกในระยะยาว เพราะโครงการเพิ่งเริ่มต้น กว่าจะเริ่มเห็นเม็ดเงินลงทุนเข้าสู่ระบบก็น่าจะเป็นปี 59 ในปัจจุบัน ภาคธุรกิจประเมินว่าการลงทุนในโครงการลงทุนขนาดใหญ่ภาครัฐจะยังไม่เห็นมากในปี 58 เพราะมีการเลื่อนหลายโครงการออกไป การประมูลใบอนุญาต 4G ก็เลื่อนไปเป็นปลายปี 58 หรือต้นปี 59 ด้วยเช่นกัน ดังนั้นการฟื้นตัวของกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนน่าจะเลื่อนออกไปเป็นปีหน้ามากกว่า


- ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคมิ.ย.ต่ำสุดในรอบ 1 ปี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเดือนมิ.ย.58 ว่าลดลงต่อเป็นเดือนที่ 6 มายัง 74.4 และต่ำสุดในรอบ 1 ปี เนื่องจากเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวช้าและขยายตัวต่ำ ราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ ภาวะภัยแล้ว การส่งออกหดตัวต่อเนื่อง เป็นปัจจัยกดดันหลัก และราคาน้ำมันที่ลดลงมากส่งผลดีอย่างจำกัด
ความเห็นเชิงกลยุทธ์: กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ Domestic Demand ยังไม่ซบเซา ส่วนกลุ่มส่งออกได้รับผลดีจากบาทอ่อน แต่ก็ต้อง Selective Buy และเน้นซื้ออ่อนตัว เพราะราคาหุ้นไม่ได้ถูกมาก กลุ่มที่ยังไปได้ดี คือ ท่องเที่ยว หุ้นเด่น คือ AOT, CENTEL, MINT
- ธปท.ห่วงเศรษฐกิจไทยปีนี้โตต่ำกว่า 3% และหนี้เสียจะเพิ่มขึ้น หลังจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัวต่อเนื่อง ซึ่งจีนเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยคิดเป็นราว 10% ของมูลค่าส่งออกรวม ปัญหากรีซทำให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้า กำลังซื้อในประเทศอ่อนแอและยาวนานกว่าคาดเพราะหนี้สินภาคครัวเรือนที่สูง ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ และปัญหาภัยแล้งเข้ามากดดันเพิ่มเติม


ความเห็นเชิงกลยุทธ์ : อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยต่ำกว่า 3% ไม่ได้เป็นเรื่อง Surprise เพราะขณะนี้ตลาดก็ประเมินว่าจะเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว สำหรับกลุ่มธุรกิจที่คาดว่าจะเติบโตได้ดีในยามรากหญ้าขาดสภาพคล่อง และธนาคารพาณิชย์ระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อ คือ ธุรกิจไฟแนนซ์โดยเฉพาะการรับจำนำสินทรัพย์ (รถยนต์, จักรยานยนต์, โฉนดที่ดิน ฯลฯ) ธุรกิจแฟคตอริ่ง (ติดตามหนี้), ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การเติบโตของธุรกิจเหล่านี้ก็แฝงไว้ซึ่งความเสี่ยงด้วย โดยจุดที่จะทำให้เกิดวิกฤต คือ การปลดคนทำงาน และอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งตรงนี้จะทำให้การหมุนเงินของกลุ่มรากหญ้าสะดุดและกลายเป็น NPL แท้จริง (จากเดิม บางส่วนเป็น NPL แอบแฝงประเภทชำระค่างวดแบบฟันหลอแต่ยังไม่ค้างชำระต่อเนื่อง 3 งวดติดต่อกัน) ดังนั้นหากเศรษฐกิจฟื้นตัวช้ามาก NPL ของกลุ่มไฟแนนซ์ก็มีโอกาสเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงของธุรกิจรับจำนำสินทรัพย์จะน้อยกว่าการปล่อยเช่าซื้อรถคันแรก เพราะสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) ที่ต่ำกว่า
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!