- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 03 July 2015 17:06
- Hits: 1771
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กรอบรีบาวด์มีจำกัดควรหาจังหวะขายลดพอร์ต เพื่อรอซื้อต่ำ...
กลยุทธ์ : หลังวานนี้ SET ปรับลงแรง วันนี้อาจแกว่งทรงตัวได้บ้าง แต่คาดว่าสุดท้ายยังมีสิทธิแกว่งตัวลงต่อเนื่องมากกว่า ทั้งรอความชัดเจนเรื่องหนี้ของกรีซ และติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจไทยต่อ ทำให้กรอบรีบาวด์จำกัด ดังนั้นเน้นขายลดพอร์ตช่วงรีบาวด์ เพื่อถือเงินสดไว้รอซื้อช่วง SET ลงต่ำต่อไป
หุ้นเด่นทางเทคนิค : BJCHI, ITD, GLOW(short)
แนวโน้ม : เมื่อวานนี้ SET ถูกกดดันหนักจากการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มแบงก์ หลังนักลงทุนวิตกต่อแนวโน้มผลประกอบการของธนาคารต่างๆ ในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไทยที่อ่อนแอค่อนข้างมาก และยังไม่มีท่าทีว่าจะสามารถฟื้นตัวได้ รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของ NPL ในระบบด้วย จึงทำให้ SET ปรับตัวลงแรงสวนทางกับตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ที่วานนี้ยังสามารถปิดบวกกันได้ดี อย่างไรก็ตามในวันนี้ FSS คาดว่า SET อาจมีจังหวะแกว่งทรงตัวได้ดีขึ้นอีกครั้ง หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อคืนนี้ออกมาไม่ดีนัก ทั้งจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่เพิ่มขึ้นเกินคาด และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด ทำให้นักลงทุนบางส่วนอาจคลายความกังวลเกี่ยวกับการโอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไปลงได้บ้าง อย่างไรก็ตาม FSS คาดว่า SET จะทำได้เพียงการแกว่งทรงตัวบวก-ลบในกรอบจำกัด และมีแนวโน้มที่จะยังต้องปรับตัวลงต่อเนื่องได้อีก ทั้งจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์หนี้ของกรีซ และความอ่อนแอของภาวะเศรษฐกิจบ้านเรา รวมถึงความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มแบงก์ที่เราคาดว่าจะยังกดดันให้ SET รีบาวด์ได้ในกรอบจำกัด และยังเน้นหนักทางด้านปรับลงต่ออยู่
แนวรับ 1490-1488 , 1483-1476 จุด
แนวต้าน 1495-1500 , 1503-1506 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนพลิกกลับมาไหลออกจากภูมิภาคอีกครั้งราว US$111 ล้าน นำโดยประเทศไทย US$129.1 ล้าน ตามด้วยไต้หวัน US$85.5 ล้าน ขณะไหลเข้าเกาหลีใต้ US$90.4 ล้าน และอินโดนีเซีย US$14.8 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนน่าจะไหลออกลดความเสี่ยงก่อนผลการลงประชามติของกรีซในวันอาทิตย์นี้
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) การจ้างงานนอกภาคเกษตร ของสหรัฐเดือน มิ.ย. เพิ่ม 223,000 ตำแหน่ง แม้จะน้อยกว่าที่ตลาดคาดที่ 233,000 ตำแหน่ง แต่ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่า 2 แสนตำแหน่ง แต่อัตราการว่างงานที่ลดลงเป็น 5.3% ต่ำสุดในรอบ 7 ปีกลับไม่น่าพอใจนักเพราะเกิดจากคนงานที่ออกจากตลาดแรงงาน ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าเล็กน้อย
(0) จับตาประชามติกรีซอาทิตย์นี้ นายกฯกรีซเรียกร้องให้ประชาชนโหวต No คัดค้านแผนปฎิรูปของเจ้าหนี้ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงที่กรีซอาจต้องออกจากยูโรโซน ตลาดหุ้นโลกอาจร่วงระยะสั้น ซึ่งจะเป็นโอกาสในการซื้อเก็งกำไรเพราะเชื่อว่าผลกระทบของกรีซต่อโลกมีจำกัด แต่หากโหวต Yes ตลาดหุ้นยุโรปน่าจะรีบาวนด์แรง แต่นายซีปราสอาจลาออกเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่
(0) ก.ค. ยังเป็นเดือนที่ท้าทาย หนี้กรีซและการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed กระทบชั่วคราวต่อตลาดหุ้นไทย เราให้น้ำหนักกับเศรษฐกิจในประเทศมากกว่า ซึ่งปัจจุบันยังไม่ฟื้นตัว หากซึมยาวจะเป็นปัญหากับคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคาร และเสี่ยงที่กำไรของบจ.จะถูกปรับลง แต่เราเชื่อว่าเศรษฐกิจกำลังอยู่ในจุด bottom รอเพียงความเชื่อมั่นของประชาชนเมื่อเห็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ (การลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ) มากขึ้น ตลาดหุ้นที่รับรู้ข่าวร้ายมากแล้ว การปรับลงแรงจะเป็นจังหวะในการทยอยสะสมกลุ่มรับเหมา สื่อสาร ไฟแนนซ์ และท่องเที่ยว หุ้นเด่นเดือนนี้ ADVANC, CK, LPN, MTLS, ROBINS
(+) กลุ่มรับเหมา-วัสดุก่อสร้าง รมว.คมนาคมเร่งสรุปแนวเส้นทางรถไฟทางคู่ไทย-จีนช่วง กรุงเทพ-แก่งคอย และแก่งคอย-นครราชสีมา ให้แล้วเสร็จไม่เกิน 15 ก.ค. เพื่อจัดทำข้อสัญญาภายใน ส.ค. และให้ครม.พิจารณากลาง ก.ย. และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้าง ต.ค. หรืออย่างช้า ธ.ค. ปีนี้ หากโครงการต่างๆเป็นรูปธรรมย่อมเป็นบวกกับกลุ่มรับเหมา รวมถึงผู้ผลิตหมอนคอนกรีต (DCON, CCP, RICH)
(+) LPN ยอด Presales 2Q15 ขายได้ 5.53 พันล้านบาท +60% Q-Q, -20% Y-Y ทำได้ดีขึ้น ทำให้ 6M15 อยู่ที่ 8.98 พันล้านบาท -11% Y-Y คิดเป็น 45% ของเป้าทั้งปีที่ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งน่าจะทำได้ตามเป้า กำไรปกติ 2Q15 มีแนวโน้มดีขึ้นมากทั้ง Q-Q และ Y-Y แต่เราจะปรับกำไรปกติปีนี้ลง 4% ยังโต 44% Y-Y เพราะการเลื่อนรับรู้รายได้โครงการลุมพินีเพลสบรมราชชนนี-ปิ่นเกล้า จาก 4Q15 เป็น 1Q16 เป้าหมายจะลดเหลือ 23.50 บาทจาก 25 บาท แนะนำซื้อเพราะ PE ที่ต่ำเพียง 6 เท่า
(0) M เราคาดกำไรสุทธิ 2Q15 +9% Q-Q, +31% Y-Y ไม่สดใสนักเพราะยอดขายสาขาเดิมมีแนวโน้มติดลบอีกครั้งในรอบ 3 ไตรมาสโดยเฉพาะสาขาต่างจังหวัด เราเชื่อว่าผลประกอบการจะดีขึ้นใน 2H15 แต่ยังฟื้นไม่เต็มที่เพราะกำลังซื้อชะลอ บริษัทปรับลดเป้าเปิดสาขาใหม่ในปีนี้เหลือ 40 แห่งจาก 60 แห่งตามการเลื่อนเปิดสาขาของผู้ประกอบการค้าปลีก เราปรับลดกำไรสุทธิปีนี้ลง 13% เป็นเติบโต 10% Y-Y จากเดิมคาด +27% Y-Y ลดเป้าหมายลงเหลือ 64 บาทจาก 74 บาท มี upside กว่า 10% และคาดจ่ายปันผล 0.90 บาท/หุ้นใน 1H15 (yield 1.6%) จึงยังคงแนะนำซื้อ
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวลดลงเล็กน้อยหลังตัวเลขเศรษฐกิจภาคแรงงานต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ตามประเด็นปัญหาหนี้ของกรีซยังเป็นปัจจัยหลักที่นักลงทุนจับตา
(-) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนลบเป็นส่วนใหญ่โดยนักลงทุนจับตาดูผลการทำประชามติของกรีซว่าจะรับข้อเสนอของเจ้าหนี้เพื่อแลกการความช่วยเหลือทางการเงินหรือไม่
(-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวคอ่นมาในแดนลบเช่นกันโดยยังรอผลการทำประชามติของกรีซในวันอาทิตย์นี้
0) ค่าเงินบาทยังคงแกว่งตัวออกด้านข้างในกรอบ 33.72-33.85 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดที่ 56.93 เหรียญ/บาร์เรล ขยับลง 0.03 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 29 สัปดาห์
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดที่ 1,163.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 5.80 เหรียญ/ออนซ์ แต่เริ่มกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีกครั้งหลังตัวเลขเศรษฐกิจภาคแรงงานของสหรัฐฯออกมาอ่อนแอกว่าคาด
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
3-ก.ค. - จีน:HSBC China Composite PMI (มิ.ย.)
- ยูโรโซน:Markit Eurozone Composite PMI (มิ.ย.)
5-ก.ค. - กรีซ: วันลงประชามติว่าจะยอมรับแผนปฎิรูปเศรษฐกิจของเจ้าหนี้หรือไม่
7-ก.ค. - สิงคโปร์: 2Q15 GDP
- ออสเตรเลีย: ธนาคารกลาง (RBA)ประชุม
- อิหร่านและชาติตะวันตกประชุมจำกัดขอบเขตโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน
9-ก.ค. - เกาหลีใต้:ธนาคารกลาง (BOK)ประชุม
- สหรัฐ:รายงานการประชุม FOMCวันที่ 16-17 มิ.ย.
10 ก.ค. - จีน:ยอดสินเชื่อเดือน มิ.ย.
13-ก.ค. - จีน:ดุลการค้า (มิ.ย.)
14-ก.ค. - อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI)ประชุม
- สหรัฐ:ยอดค้าปลีก (มิ.ย.)
- ยูโรโซน:ZEW Survey Expectations (ก.ค.)
15-ก.ค. - จีน: 2Q15 GDP, Industrial Production (มิ.ย.), ยอดค้าปลีก (มิ.ย.)
- ญี่ปุ่น: BOJประชุม
16-ก.ค. - สหรัฐ: รายงาน Fed Beige Book
