- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 26 June 2015 17:11
- Hits: 3076
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“แกว่งรอผลประชุมกรีซ&เจ้าหนี้เสาร์นี้”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : SET Index เมื่อวานนี้ปิดบวกเล็กๆ (+1.21 จุด ปิดที่ 1519.47) ซึ่งดีกว่าตลาดภูมิภาคโดยรวมเพราะมีการเลือกซื้อเก็งกำไรหุ้นที่มีข่าวบวกเฉพาะตัว รวมถึงคาดการณ์ว่าเจ้าหนี้และกรีซจะสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ในที่สุด ซึ่งต้องจับตาผลประชุมอีกรอบในวันเสาร์ที่ 27 มิ.ย.นี้ นอกจากนั้นยังมีประเด็นเรื่องการทำ Window Dressing เพื่อปิดงวด 2Q58 ด้วย อย่างไรก็ดี นักลงทุนสถาบันในประเทศ, ต่างชาติ และรายย่อยรายงานเป็นขายสุทธิ ขณะที่พอร์ตบล.เป็นซื้อสุทธิเพียงกลุ่มเดียว
สำหรับ วันนี้ตลาดน่าจะแกว่งแคบเพื่อรอดูผลประชุมกรีซกับเจ้าหนี้วันเสาร์ว่าจะมีความคืบหน้าหรือไม่ ส่วนในประเทศก็กังวลกับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง ซึ่งทางกระทรวงการคลังคาดว่าจะกระทบกับ GDP ไทยถึง 0.5% แต่มีความผ่อนคลายในกลุ่มการบินลง เพราะเอียซ่าไม่ห้ามสายการบินของไทยบินเข้ายุโรป โดยจะเข้ามาตรวจบพ.ไทยในเดือนพ.ย.58 ขณะเดียวกันราคาน้ำมันดิบก็ทรงตัว ส่งผลดีต่อผลประกอบการของกลุ่มสายการบิน หุ้นเด่นในกลุ่มการบินเป็น AOT, BA ส่วนกลยุทธโดยภาพรวม ยังเป็นการเลือกซื้อหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวหรือหุ้น Defensive ปันผลสูง หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น QH (Valuation จูงใจ และปันผลสูง)
สำหรับการ SCAN หาหุ้นที่มีโอกาสทำ New High พบว่าหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ BJCHI, FPI, FANCY, PTL, TVO, IFEC, SUPER ส่วนหุ้นที่เข้ามาใหม่เป็น CGD, PSL, CEI และหุ้นที่ราคาปรับขึ้นตามคำแนะนำแล้ว & อยู่ในพื้นที่ Take Profit เป็น UMI, VNG, RCI, TPIPL, TH,ASP
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
• กรีซ : การประชุมเมื่อวานยังคว้าน้ำเหลว ติดตามผลประชุมเสาร์นี้ต่อ การประชุมระหว่างกรีซและรมว.คลังยูโรโซนเมื่อวานนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป และจะมีประชุมกันอีกรอบในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ ซึ่งตลาดก็ยังมีความหวังว่าจะบรรลุข้อตกลงในเบื้องต้นได้ เพื่อไม่ให้กรีซผิดนัดชำระหนี้และต้องออกจากยูโรโซน ซึ่งในขณะนี้นักวิเคราะห์บางกลุ่มรวมถึงสถาบันจัดอันดับ S&P เห็นว่ากรีซจะยังเป็นสมาชิกยูโรโซนถึงสิ้นปี 58 แม้ว่าการบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ในรอบนี้จะไม่ช่วยให้กรีซมีการปฎิรูปอย่างเบ็ดเสร็จก็ตาม
• IMF ยืนยันไม่มีการเสนอระยะเวลาปลอดหนี้ให้กับกรีซ 2เดือน หากกรีซไม่สามารถจ่ายหนี้วงเงิน 1.5 พันล้านยูโรได้ในวันที่ 30เม.ย.นี้ และทั่วยูโรโซนต้องมีการตั้งสำรองค่าเผื่อฯ สำหรับเงินกู้ที่ให้กับกรีซ ด้านค่าเงินกรีซคาดว่าจะร่วงลงหากผิดนัดชำระหนี้
+ สหรัฐ : การบริโภคและภาคแรงงานฟื้นตัวดี การใช้จ่ายของผู้บริโภค +0.9% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 6 ปี,จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์สิ้นสุด 20 มิ.ย.เพิ่มขึ้นเพียง 3,000 ราย สู่ระดับ 271,000 ราย
+ ญี่ปุ่น : CPI เดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 0.1%YoY นับเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 24
- ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงต่อ โดยดัชนี DJIA ลดลง 75.71 จุด เพราะวิตกกังวลเรื่องกรีซ ซึ่งการประชุมเมื่อวานนี้ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันระหว่างกรีซกับเจ้าหนี้
• ราคาน้ำมันดิบลดลงเล็กน้อย โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 57 เซนต์ ปิดที่ 59.7 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน BRENTลดลง 29 เซนต์ ปิดที่ 63.2 ดอลลาร์/บาร์เรล โดย EIA รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 15,000 บาร์เรล สู่ระดับ 9.604ล้านบาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ที่แล้ว และการผลิตน้ำมันดิบเดือนพ.ค.ของกลุ่มโอเปกเพิ่มขึ้น 50,000 บาร์เรล สู่ระดับ 31.33 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.55
• ราคาทองคำ COMEX อ่อนลงเล็กน้อย โดยปิด -1.1 ดอลลาร์ ปิดที่ 1171.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ประเมินว่ามีโอกาสที่ราคาทองคำจะรีบาวด์หลังร่วงแรงมาหลายวัน
ปัจจัยในประเทศและหุ้นเด่น
+ กลุ่มการบิน : ความกังวลผ่อนคลายลงหลังสำนักงานบริหารการบินยุโรปมีมติไม่ห้ามสายการบินของไทยทำการบินเข้ายุโรปและจะเข้ามาตรวจบพ.ของไทยช่วงเดือนพ.ย.58 ส่วนการบินเพิ่มได้หรือไม่ขึ้นกับการเจรจาของแต่ละสายการบิน...ยังคงคาดว่าผลประกอบการของหุ้นสายการบินจะฟื้นตัวได้ดีในปีนี้ แม้ว่าจะมีมรสุมหลายด้าน โดยหลักมาจากต้นทุนน้ำ มันที่ลดลง และปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ปัจจัยเสี่ยงระยะสั้น คือ โรคเมอร์ส แต่คาดว่าจะสามารถควบคุมได้ หุ้นเด่นในกลุ่มการบินเป็น AOT, BA
- ภัยแล้งปีนี้รุนแรง โดยมีการรายงานในที่ประชุมครม.เศรษฐกิจว่าในเดือนก.ค.58 ปริมาณน้ำฝนจะติดลบ 18% และในเดือนส.ค.58 จะติดลบ 12% ทำให้รัฐบาลต้องขอให้เกษตรกรชะลอการเพาะปลูกเพราะปริมาณน้ำที่มีอยู่ไม่เพียงพอการปลูกพืชจะเกิดความเสียหายและขาดทุน
- กระทรวงการคลังคาดภัยแล้งฉุด GDP 0.5% รมว.คลัง เปิดเผยว่าปัญหาภัยแล้งในขณะนี้มีความรุนแรงมาก คาดว่าจะทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจลดลงประมาณ 0.5% ต่อปี โดยภัยแล้งส่งผลกระทบต่อผลผลิตการเกษตร รายได้ภาคเกษตรจะลดลง กำลังซื้อรากหญ้าจะตกต่ำลงไปอีก
•/- กลุ่มธนาคารพาณิชย์ – สินเชื่อเดือนพ.ค.ทรงตัว MoM แต่เมื่อเทียบ YoY ยังขยายตัว 6.3%YoY และเพิ่มขึ้น 3.3%YTD ถ้าไม่รวมBAY สินเชื่อของกลุ่มจะเติบโต 0.1%MoM และเพิ่ม 3.2%YoY และ0.9%YTD ด้านเงินฝากหดตัว 0.8%MoM แต่บวกขึ้น 9.4%YoY และ0.9%YTD นับว่าสภาพการณ์ด้านสินเชื่อและเงินฝากในช่วง 5M58 ซบเซากว่าที่คาด ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ จะมีลูกค้า Corporate ชำระคืนหนี้มาก ขณะที่ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้น้อย ส่วนธนาคารขนาดเล็กสินเชื่อหดตัวต่อเนื่องเพราะสินเชื่อเช่าซื้อสุทธิที่ลดลง
BBL มีการเติบโตของสินเชื่อในเดือนพ.ค.เมื่อเทียบ MoM ดีที่สุด (+0.8%MoM) แต่เมื่อเทียบ YTD พบว่าสินเชื่อ KBANK ยังเติบโตดีที่สุดที่2.7%YTD (ไม่นับ BAY ที่มีการควบรวมกับ BTMU)
ปีนี้กลุ่มธนาคารพาณิชย์อยู่ในสภาวะประคองตัว โดยเน้นเรื่องการบริหารและดูแลคุณภาพสินทรัพย์ไม่ให้ด้อยค่าเป็นสำคัญ การเติบโตชของสินเชื่อและกำไรจึงจะจำกัด เราคาดว่าจะเป็นเลขหลักเดียวที่ค่อนมาทางต่ำ อย่างไรก็ตาม กลุ่มนี้มีจุดเด่นเรื่องความมั่นคงซึ่งมาจากฐานเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง และ Valuation ที่เริ่มจูงใจ โดยขณะนี้กลุ่มแบงค์ซื้อขายที่ P/BV ปี 58 ที่ 1.2 เท่า (Mean -1.2SD) หุ้น Top Pick คือKBANK รองลงมาเป็น BBL, SCB และ TMB
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]