- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 24 June 2015 16:21
- Hits: 1211
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
"เลือกซื้อ/ถือต่อเมื่อ SET เหนือ 1500"
Stock Picks-June 2015 : Fundamental : CK, GL, KBANK, PLANB, TTCL Dark Horse: BJCHI, MCS
Fundamental Pick -Today: GL
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, INTUCH, BTS, DCC, DELTA, DTAC, AP, QH, SPALI, SRICHA, MODERN, TISCO, TMT, BTSGIF, JASIF, CPNRF, TRUEIF
Shot Sell-Prev : PTT 13%, AOT 10%
Technical View ภาพตลาดพลิกเป็นลบเล็กๆ
Support Resistance Stop loss
SET ซื้อค่าบวก 1510-1520 ค่าลบ
SET50 ซื้อค่าบวก 1000-1100 ค่าลบ
Technical Picks- Today: ASP, FANCY, TH
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้: ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน: SET Index เมื่อวานนี้แกว่งตัว ปรับขึ้นต่อแล้วถูกขายออกมาในวัน ปิดตลาดลดลง 0.83 จุดที่ 1503.23 (สูงสุดในวัน 1513.31 จุด) โดยนักลงทุนยังกังวลกับเศรษฐกิจของไทยหลังเจอปัญหาภัยแล้งรุนแรงเข้ามาอีก ขณะที่ส่งออกซบเซา และภาคท่องเที่ยวกำลังลุ้นว่าจะผ่านปัญหาโรคเมอร์สและปม ICAO ไปได้ด้วยดีหรือไม่ สำหรับการทำ Window Dressing ก็อาจกิดขึ้น ได้แต่คงไม่มาก เมื่อพิจารณาจากสภาพการณ์ของปัจจัยในตลาดขณะนี้ ทั้งนี้ระดับปิดของ SET Index ในสิ้น 1Q58 อยู่ที่ 1505.94 จุด เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติและรายย่อยขายสุทธิ ส่วนสถาบันและพอร์ตบล.ซื้อสุทธิแต่ก็ไม่มาก
ตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียขยับบวกต่อ จากความคาดหวังว่ากรีซกับเจ้าหนี้น่ามีทางออกเรื่องแผนปฎิรูปกันได้ในสัปดาห์นี้ ก่อนกำหนดเส้นตายการชำระคืนหนี้ IMF 1.5 พันล้านยูโรและสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือฉบับปัจจุบันในสิ้นเดือนมิ.ย.นี้ ทั้งนี้ S&P คาดการณ์ว่ากรีซจะไม่ออกจากยูโรโซนไปจนถึงสิ้นปี 58 แม้ว่าอาจจะไม่บรรลุข้อตกลงระหว่างกรีซกับเจ้าหนี้แบบเบ็ดเสร็จก็ตาม ปัจจัยที่จับตาในประเทศ คือ โรคเมอร์ส และปัญหาภัยแล้งในประเทศ ซึ่งดูว่าปีนี้จะรุนแรงมากกว่าหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งกดดันกำลังซื้อในประเทศเพิ่มอีก อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มที่จะเติบโตได้ในความซบเซา คือ ธุรกิจรับจำนำรถจักรยานยนต์ รถยนต์ สินเชื่อส่วนบุคคล เป็นต้น ซึ่งวันนี้ DBSV เริ่มทำการวิเคราะห์ MTLS โดยแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 23 บาท (ดูรายละเอียดด้านใน) ส่วน GL เรายังคงแนะนำซื้อ โดยเฉพาะเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัว ส่วนกลยุทธ์โดยภาพรวม เลือกซื้อหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว, ซื้อ Defensive ปันผลสูง หรือเก็งกำไรผลประกอบการ 2Q58 กลุ่มโภคภัณฑ์ หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น GL
สำหรับการ SCAN หาหุ้นที่มีโอกาสทำ New High พบว่าหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ BJCHI, S, CPF, SEAFCO, VIBHA, RCI, UMI, FPI, TPIPL, EFORL ส่วนหุ้นที่เข้ามาใหม่เป็น ASP, FANCY, TH และหุ้นที่ราคาปรับขึ้นตามคำแนะนำแล้ว & อยู่ในพื้นที่ Take Profit เป็น LPN ส่วนหุ้นที่หลุด List เป็น DELTA, SENA
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
+ กรีซ : หวังว่าจะตกลงกับเจ้าหนี้ได้ในสัปดาห์นี้ โดยประธานกลุ่มยูโรโซนกล่าวว่า ข้อเสนอใหม่ของรัฐบาลกรีซเป็นบวกกับกระบวนการแก้ปัญหาหนี้กรีซ และอาจมีการบรรลุข้อตกลงในสัปดาห์นี้ ด้าน S&P คาดว่ากรีซจะยังคงอยู่ในยูโรโซนถึงสิ้นปี 58 แม้ว่าการบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้จะไม่ช่วยแก้ปัญหาหนี้กรีซแบบเบ็ดเสร็จก็ตาม ด้าน ECB เพิ่มวงเงินกู้ฉุกเฉินให้กับธนาคารกรีซเป็นรอบที่ 4 เมื่อวานนี้
+ สหรัฐ : ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 2.2% ในเดือนพ.ค.58 สู่ระดับ 5.46 แสนยูนิต ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่ก.พ.51 และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 5.22 แสนยูนิต
สหรัฐ: ยอดซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ค.ลดลง 1.8%MoM แย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 1.0%MoM แต่ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ไม่รวมเครื่องบินและอาวุธเพิ่มขึ้น 0.4%MoM ดีขึ้นจากเดือนเม.ย.ที่ลดลง 0.3%MoM
ตลาดหุ้นสหรัฐขยับขึ้นเล็กน้อย โดย DJIA ปิด +24.29 จุด และ S&P 500 ปิด +1.35 จุด นักลงทุนระมัดระวังการลงทุนหลังดัชนี DJIA กลับมาขึ้นมาเหนือ 18000 จุดอีกรอบ ในขณะที่ความกังวลเรื่องกรีซและการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดยังวนเวียนอยู่ในตลาด
+ ราคาน้ำมันดิบบวกขึ้นดี...เก็งกำไรผลประกอบการ 2Q58 หุ้นพลังงาน & ปิโตรเคมี โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI และ BRENT ส่งมอบก.ค.58 เพิ่มขึ้น 0.63 และ 1.11 ดอลลาร์ ปิดที่ 61.01 และ 64.45 ดอลลาร์/บาร์เรล...ระยะสั้นคาดว่าจะยังมีการเข้ามาเก็งกำไรหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ซึ่งประเมินว่าผลประกอบการ 2Q58 จะออกมาดี เพราะมีกำไรจากสต็อกของโรงกลั่นและปิโตรเคมีช่วยหนุนด้วย หุ้นพื้นฐานเด่นเป็น BCP, IVL, PTTGC, TOP
- ราคาทองคำร่วงต่อ สัญญาทองคำ COMEX ส่งมอบส.ค.58 ร่วงลง 7.5 ดอลลาร์ หรือ -0.63% ปิดที่ 1176.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ปัจจัยกดดัน คือ การแก้ปัญหาหนี้กรีซกับเจ้าหนี้ที่มีสัญญาณดีขึ้น ตัวเลขภาคที่อยู่อาศัยสหรัฐออกมาแข็งแกร่งกว่าคาด ทั้งยอดขายบ้านมืองสองและบ้านใหม่ของเดือนพ.ค.58
ปัจจัยในประเทศและหุ้นเด่น
- ยังต้องติดตามข่าวโรคเมอร์สใกล้ชิด ซึ่งแม้ว่าทางการไทยกำลังควบคุมและป้องกันอย่างใกล้ชิด แต่ข่าวการติดเชื้อเมอร์สอีก 4 รายในเกาหลีรวมเป็นผู้ติดเชื้อที่มีรายงานแล้วเป็น 179 ราย ทำให้มีความกังวลอยู่ ซึ่งสำหรับไทยคงต้องดูต่ออีก 1 สัปดาห์กว่าๆ ว่าหลังหมดระยะเวลาเพาะเชื้อแล้วจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมอีกหรือไม่
นักลงทุนต่างชาติมียอดขายสุทธิสะสม 7.7 หมื่นล้านบาทในช่วงเกือบ 10 ปีย้อนหลัง ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อเนื่องอีก 1.5 หมื่นล้านบาทในช่วง 5 เดือนครึ่งของปีนี้ หากรวมยอดขายสุทธิสะสมตั้งแต่ต้นปี 2556 ถึงกลางเดือนมิ.ย.2558 (สองปีครึ่งย้อนหลัง) พบว่านักลงทุนต่างชาติได้ขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยไปแล้ว 2.45 แสนล้านบาท และเมื่อพิจารณายอดสะสมการซื้อ-ขายของนักลงทุนต่างชาติในระยะยาว คือ ตั้งแต่ต้นปี 2549-กลางเดือนมิ.ย.2558 (เกือบ 10 ปีย้อนหลัง) พบว่ามียอดขายสุทธิสะสม 7.73 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิสวนแรงขายของต่างชาติในช่วง 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา โดยมียอดซื้อสุทธิสะสมต่อเนื่องในปี 2556, ปี 2557 และ YTD ของปีนี้รวมกันที่ 2.11 แสนล้านบาท และในช่วงต้นปี 2549 ถึงกลางเดือนมิ.ย.2558 มียอดซื้อสะสม 1.74 แสนล้านบาท
แรงขายต่างชาติจำกัดลงแต่ต้องระวังแรงขายของสถาบันในประเทศ เรามองว่าแรงขายของนักลงทุนต่างชาติในตลาดไทยหลังจากนี้จะไม่มาก แต่อาจต้องระวังแรงขายจากนักลงทุนสถาบันในประเทศที่มีทางเลือกและโอกาสที่จะไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น
กลยุทธ์ เลือกซื้อเป็นรายบริษัท เนื่องจากตลาดหุ้นขาดปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระตุ้น ขณะที่ Valuation ตลาดหุ้นไทยก็ไม่ต่ำ โดยมี Forward P/E 15.2 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหุ้นหลักโลกและเอเชียที่ 14.7 เท่า หากไม่มีปัจจัยใหม่ที่มีนัยสำคัญเข้ามากระตุ้น ตลาดหุ้นก็มีโอกาสที่จะอ่อนตัวหรือแกว่งออกด้านข้าง (Sideways) เป็นแรมเดือนได้
เราได้วิเคราะห์และจัดกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจซื้อสะสมเพื่อลงทุน ไว้ดังนี้
# หุ้นปันผลเด่น (Dividend Yield สูงกว่า 5% และมี Forward P/E ปี 2558 ต่ำกว่า 15 เท่า) ประกอบด้วย BECL LALIN, LHK, LPN, QH, SIRI, SPALI, TMT นอกจากนั้นยังมีกองทุนอสังหาริมทรัพย์และกองทุนโครงสร้างพื้นฐานด้วย Top Picks เป็น QH, SPALI, TRUIF
# หุ้นเติบโตแกร่ง (EPS Growth สูงกว่า 20% และ PEG ต่ำกว่า 1 เท่า) ประกอบด้วย GL, SEAFCO, SYNTEC, TRC, TTCL, WHA หุ้น Top Picks เป็น GL, TTCL
# หุ้นมั่นคงสูง (ธุรกิจมั่นคง แทบไม่มีความเสี่ยงในการปิดกิจการ) ประกอบด้วย AOT, KBANK, INTUCH, RATCH หุ้น Top Picks เป็น KBANK, INUCH
# หุ้นฟื้นตัว (พลิกฟื้นจากกำไรต่ำมากหรือจากขาดทุนเป็นกำไรที่ดี) ประกอบด้วย BA, BCP, CENTEL, IVL, MINT PTT, PTTGC, TASCO, TOP หุ้น Top Picks เป็น PTTGC, TASCO
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]