- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 19 June 2015 16:30
- Hits: 889
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Defensive Play
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ซึมตัวและแกว่งแคบ 1,510 จุด +/- หลัง อธิบดีกรมการบินพลเรือนออกมาแจ้ง ICAO ขึ้นธงแดงกับไทย ทำให้หุ้น AOT ที่ขึ้นมาแข็งแกร่งก่อนหน้าปรับฐานลง รวมถึงกลุ่มท่องเที่ยวและสายการบิน ขณะที่กลุ่มธนาคาร ทรงตัวได้ดี ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX ลบ 6.75จุด มาอยู่ที่ 1,508.04 จุด มูลค่าการซื้อขาย 40,625 ล้านบาท ซึ่งรวม Big Lot หุ้น IRPC มูลค่า 1,967 ล้านบาท
กระแสเงินทุนต่างชาติเป็นกลางต่อเนื่อง ด้วยการกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 538 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 5 อีก 3,324 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้ 2,824 ล้านบาท เมื่อค่าเงินบาทแข็งค่าราว 2 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐฯ ระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย
ปัจจัยสำคัญวันนี้
กลุ่มท่องเที่ยว / สายการบิน / สนามบิน ได้รับแรงกดดันทั้ง ICAO ขึ้นธงแดง กับไทย และการพบผู้ติดเชื้อเมอร์สคนแรกในไทย เป็นชาวโอมาน
กลุ่มโรงพยาบาลมีแนวโน้มเด่น จากประเด็นการพบผู้ติดเชื้อเมอร์สคนแรกในไทย
การประชุมระหว่างผู้นำอียู - ECB ต่อกรณีของกรีซไม่ประสบความสำเร็จ หารือต่อวันจันทร์ที่ 22 มิ.ย.
ติดตามการประชุม BoJ วันนี้
และการปรับดัชนี FTSE ณ ราคาปิดวันนี้ BH ได้เข้าเพิ่มใน FTSE Big Cap รอบนี้
ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
ติดตามตัวเลขการส่งออก - นำเข้าเดือนพ.ค.ของไทย วันที่ 22 มิ.ย.
ติดตามการประชุมครม. อาจมีการพิจารณาโครงการลงทุนขนาดใหญ่
การเข้าสู่ช่วงทำ Window Dressing ของกองทุนภายในประเทศ
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองการลงทุนเป็น "กลาง" วันที่ 3 ประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX ระหว่าง 1,500-1,515 จุด แม้ว่า AOT / กลุ่มสายการบิน / ท่องเที่ยว จะได้รับแรงกดดันจากประเด็น ICAO และพบผู้ติดเชื้อเมอร์สคนแรกในไทย แต่เราเชื่อว่ากลุ่มโรงพยาบาล จะได้ประเด็นบวกในประเด็นของไวรัสเมอร์ส รวมถึงการเข้าใกล้ช่วงเวลาทำ Window Dressing ซึ่งกลุ่มธนาคาร / ICT / อสังหาฯ น่าจะได้อานิสงค์เชิงบวก ช่วยลดแรงกดดันต่อ SET INDEX เชิงลบช่วงสั้นนี้
ขณะที่สถานการณ์กรีซ และเจ้าหนี้อียู - ECB ยังไม่คืบหน้า เราเชื่อว่าท้ายที่สุด นายกฯ กรีซ จะกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจากับเจ้าหนี้อีกครั้ง เพื่อหาข้อสรุปแผนการช่วยเหลือ บนเงื่อนไขแผนปฎิรูปเศรษฐกิจที่ได้รับความเห็นชอบทั้ง 2 ฝ่ายก่อนสิ้นเดือนมิ.ย.
สำหรับทิศทางในสัปดาห์หน้า เราประเมินว่า SET INDEX มีโอกาสที่จะไต่ระดับขึ้นลักษณะ Sideways-to-Sideways-Up เพื่อทดสอบแนว 1,530 จุด +/- ผลักดันด้วยกลุ่มหลัก อย่าง ธนาคาร / ICT / อสังหาฯ จากการทำ Window Dressing รวมถึงหุ้นที่ได้ถูกเพิ่มเข้าคำนวณใน SET50 / SET100 ซึ่งจะมีผล ณ ราคาปิดวันที่ 30 มิ.ย.
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจยังถือเป็นสิ่งที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะรายงานการส่งออก - นำเข้า เดือนพ.ค. จะเห็นสัญญาณการฟื้นตัวในภาคการส่งออกหรือไม่ หลัง กนง. ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งล่าสุดช่วงปลายเดือนเม.ย. หากการส่งออกเริ่มฟื้นตัว เชื่อว่า บรรยากาสการลงทุนโดยรวมผ่านมูลค่าการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มขยับขึ้นได้
เช้านี้ตลาดหุ้นเอเชีย (7.21 น.) Nikkei - Kospi เปิดบวก สอดคล้องกับ DJIA ที่กลับมาปิดยืนเหนือ 18,000 จุดได้อีกครั้ง แม้ว่าประเด็นกรีซจะยังไม่ได้ข้อสรุปก็ตาม
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนทยอยซื้อเก็งกำไรหุ้นเป้าหมายที่จะมีประเด็นบวกช่วงสั้นนี้"
Top Pick in 2Q15: ITD / TPIPL/ WHA / TASCO
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ WHA/ THAI/ BCP/ IFEC
Accumulative Buy: KBANK / INTUCH
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "ทยอยสะสม" ได้แก่
1. KBANK : ราคาปิด 200.00 บาท ราคาเหมาะสม 240.00 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มธนาคารจะได้อานิสงค์จาก Window Dressing ในสัปดาห์หน้า เนื่องจากเป็นหุ้นกลุ่มหลักที่สถาบันในประเทศถือครองในสัดส่วนสูง และปรับตัวลง YTD -13.8% เทียบกับ SET INDEX +0.7%
b) เชื่อว่าราคาหุ้นได้ตอบรับปัจจัยลบไปมากแล้ว ทั้งเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงหลังธนาคารพาณิชย์ประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้ลงในช่วงต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา
c) อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลประกอบการ 2H58 จะกลับมาขยายตัวเด่นเมื่อเทียบกับ 1H58 จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐฯ จะช่วยหนุนความเชื่อมั่นธุรกิจของภาคเอกชนเพิ่มขึ้น
d) คาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +8.6% yoy เป็น 50,131 ล้านบาท และ +14.2% yoy เป็น 57,236 ล้านบาทในปี 2559
2. INTUCH : ราคาปิด 77.50 บาท ราคาเหมาะสม 114.00 บาท
a) MBKET แนะนำทยอยสะสม INTUCH เพื่อรับเงินปันผล โดยคาดการณ์เงินปันผล 1H58 หุ้นละ 2.20 - 2.30 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดีที่ 3%
b) คาดว่าหุ้น Defensive จะเป็นที่พักเงินได้ดี หากเกิดการเคลื่อนย้ายเม็ดเงินออกจากหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว - สนามบิน หลังพบผู้ติดเชื่อ MERS รายแรกในไทยวานนี้
c) คงมุมมองเชิงบวกต่อภาพระยะกลางของหุ้นกลุ่มสื่อสาร จากการประมูล 4G ในช่วงปลายปี และเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ปลดล๊อกความกังวลเรื่องคลื่นความถี่ของ ADVANC ที่จะหมดอายุสัมปทานลงในปี 2558
d) ขณะที่ THCOM เข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการลงทุน และมีการเติบโตของกำไรที่สูง โดยคาดกว่ากำไรสุทธิปี 2558 จะเติบโต +25.7% yoy จากการรับรู้รายได้ของดาวเทียมไทยคม 6 และ IPSTAR ที่มีอัตราการใช้งานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
e) ราคาปิดวานนี้ที่ 77.50 บาท มีส่วนลด 16.0% จาก NAV ของมูลค่าเงินลงทุนใน ADVANC และ THCOM ที่หุ้นละ 92.26 บาท
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียขายสุทธิเป็นวันที่ 12 อีก US$454 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$571 ล้าน
ยังคงเน้นลดน้ำหนักในตลาดเอเชียเหนือเป็นหลัก
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติยังคงเปิดสถานะ Short เป็นวันที่ 5
นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 538 ล้านบาท เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิ 1,512 ล้านบาท คาดว่าเป็นการประคอง SET50 Index เพื่อให้นักลงทุนกลุ่มนี้เร่งการเปิดสถานะ Short เพิ่มเติม ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิลดลงเล็กน้อย เป็น 14,920 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติคงการ Short เป็นวันที่ 5 เร่งขึ้นเป็น 3,324 สัญญา รวม 5 วันทำการ Short สุทธิ 21,963 สัญญา น่าจะเป็นการเปิดสถานะ Short ต่อเนื่อง ส่งผลให้ S50M15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 8 กว้างขึ้นเป็น 5.67 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 2.27 จุด YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิ ขยับเป็น 69,567 สัญญา
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาขายสุทธิอีกครั้ง 2,824 ล้านบาท เมื่อราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยขยับขึ้นเป็นวันที่ 5 ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงเป็นวันที่ 5 มากถึง 4.35bps จากวันก่อนหน้าลดลงเพียง 0.63bps ทำให้ผลตอบแทนอายุ 10 ปี ปิดต่ำกว่า 3.00% เป็นวันที่ 2 ปิดที่ 2.952%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ขยับขึ้นเป็น 969 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 297 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 10 เน้นสะสม PTTGC/ ADVANC / PTT อย่างโดดเด่น
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 10 มากถึง 3,011 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,068 ล้านบาท รวม 10 วันทำการ ซื้อสุทธิ 10,477 ล้านบาท โดยซื้อสุทธิกระจุกตัวในกลุ่มปิโตรเคมี, ICT และพลังงาน สรุปภาพ NVDR ได้ดังนี้
1. กลุ่มปิโตรเคมี ซื้อสุทธิสูงสุด 953 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 433 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่ม ICT ซื้อสุทธิ 777 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 314 ล้านบาท กลุ่มพลังงาน ซื้อสุทธิ 745 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 242 ล้านบาท กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ซื้อสุทธิ 222 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 260 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มธนาคารถูกขายสุทธิสูงสุด 490 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 567 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาเป็นกลางถึงดีกว่าคาด
ยอดขอสวัสดิการว่างงาน เพิ่มขึ้น 2.67 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 2.75 แสนตำแหน่ง และสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.79 แสนตำแหน่ง
อัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 0.4% mom ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 0.5% mom แต่ดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.1% mom ทั้งนี้เป็นผลจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น 10.4% mom แต่ราคายังคงอยู่ในระดับต่ำ
ดัชนีชี้นำเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 0.7% mom ดีกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 0.4% mom แต่เท่ากับเดือนก่อนหน้า โดยตลาดบ้านใหม่มีการเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น รวมถึงยอดขอสวัสดิการว่างงานที่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวต่อเนื่อง
ยุโรป
การเจรจากรีซ และ เจ้าหนี้ไม่คืบ
ECB เตรียมหามาตรการฉุกเฉินช่วยธนาคารพาณิชย์กรีซ หลังประชาชนแห่ถอนเงินจำนวนมาก
สถานการณ์ของกรีซ ณ ปัจจุบัน
นายกฯ เยอรมัน ยืนยันว่า แผนการช่วยเหลือกรีซ ยังคงเป็นไปได้ หากรัฐบาลกรีซ ดำเนินตามแผนการปฎิรูปเศรษฐกิจที่ได้ตกลงกับเจ้าหนี้ก่อนหน้านี้
IMF ยืนยันไม่มีการให้กรีซผ่อนผันการชำระหนี้ที่จะครบกำหนดภายในสิ้นเดือนมิ.ย. รวม 1.5 พันล้านยูโร หากกรีซไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด อาจทำให้ IMF ต้องมีมาตรการเพิ่มเติม
ECB เตรียมมาตรการช่วยเหลือธนาคารพาณิชย์กรีซเป็นกรณีพิเศษ หลังเกิดการไหลออกของเงินฝาก จนทำให้ธนาคารกลางกรีซ ร้องขอความช่วยเหลือด้านสภาพคล่องมากกว่า 3.0 พันล้านยูโร ขณะที่ ECB ไม่มั่นใจว่า ธนาคารพาณิชย์กรีซ จะสามารถเปิดให้บริการได้หรือไม่ในวันจันทร์ที่ 22 มิ.ย.นี้ หลังผู้ฝากเงินมาถอนเงินจากธนาคารราว 2.0 พันล้านบาทในช่วง 15-17 มิ.ย.ที่ผ่านมา และเงินฝากก่อนหน้าถูกถอนเพียง 200-300 ล้านยูโร/วันเท่านั้น
การประชุมระหว่าง ผู้นำอียู - ECB - IMF ต่อกรณีกรีซ ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ และได้กำหนดวันหารืออีกรอบในวันจันทร์ที่ 22 มิ.ย. และกรีซจะไม่มีโอกาสที่จะได้รับความช่วยเหลือก่อนที่จะได้ข้อสรุปแผนการช่วยเหลือ และ กรีซต้องชำระหนี้ให้แก่ IMF เป็น 1.5 พันล้านยูโรภายในสิ้นเดือนมิ.ย.นี้
ธนาคารกลางนอร์เวย์ลดอัตราดอกเบี้ยทำระดับต่ำสุดใหม่: ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก Overnight เป็น 1.0% จากเดิม 1.25% เป็นระดับต่ำสุดของธนาคารกลาง สอดคล้องกับ Bloomberg consensus คาด พร้อมส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ยได้อีก หลังราคาน้ำมันลดลง ส่งผลกระทบต่อธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันของนอร์เวย์
จีน
ไม่มี
เอเชียแปซิฟิก
ธนาคารกลางอินโดนีเซียคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งที่ 4: อยู่ที่ระดับ 7.50% เท่ากับการประชุมครั้งก่อนและเป็นไปตามที่ Bloomberg Consensus คาด จากทิศทางค่าเงินรูเปียะที่อ่อนค่าลงกลายเป็นข้อจำกัดต่อการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับการส่งสัญญาณจากรองประธานธนาคารกลางอินโดนีเซียที่ให้ความเห็นไปในช่วงก่อนหน้า
ไทย
ปรีดิยาธร ลั่นกันยายนเศรษฐกิจฟื้น: ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่าเศรษฐกิจไทยจะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติตั้งแต่เดือน ก.ย.นี้เป็นต้นไป หลังจากได้ใช้เวลาในการปรับฐานมา 1 ปี เพราะในช่วงที่ผ่านมา มีเศรษฐกิจส่วนเกินมาก ทั้งเม็ดเงินจากโครงการจำนำข้าวและรถยนต์คันแรก เมื่อตัดส่วนเกินนี้ออก เงินที่เคยใช้จ่ายหายไป "การใช้จ่ายที่เกิดจากธุรกิจสีเทาก็จะหายไป จากการปราบปรามของรัฐบาล เช่นการปราบปรามเรื่องยาเสพติด ส่วนเกินนี้จะถูกกวาดไปเรื่อยๆ คาดว่าจะใช้เวลาสิ้นปี กว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ อัตราการเติบโตปีนี้และปีหน้า คงเห็นการเติบโต ในระดับ 3-4% เป็นการเติบโตจากการใช้จ่ายภาครัฐเป็นหลัก เพราะการส่งออกที่ลดลงมา ไม่ได้เกิดจากกำลังซื้อของประเทศผู้ซื้อชะลอเพียงอย่างเดียว แต่สินค้าของเราหลายตัวเก่าไป กว่าจะมีตัวใหม่มาเติม ต้องใช้ระยะเวลา2ปี ช่วงนี้จึงต้องใช้การใช้จ่ายภาครัฐไปก่อน
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530