- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 18 June 2015 17:36
- Hits: 879
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ โดย ยศพณ แสงนิล, CFA : มีโอกาสขยับขึ้นต่อ
ตลาดไทยวันนี้มีแนวโน้มขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1520 โดยมีปัจจัยหนุนคือการที่เฟดส่งสัญญาณคงดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำต่อไป เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ปริมาณการซื้อขายน่าจะยังคงเบาบางในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนรอฟังความคืบหน้าการประชุมในยุโรปเพื่อหาทางออกปัญหาหนี้กรีซ
แนวรับ/แนวต้าน : 1500/1520 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
กลยุทธ์ : รอจังหวะดัชนีย่อลงเพื่อสะสมหุ้นไว้เล่นสั้น เน้นหุ้นพื้นฐานดี ปันผลสูง กลุ่มพลังงาน สื่อสาร โรงพยาบาล และท่องเที่ยว
นักลงทุนระยะสั้น : TASCO(23), SPA(6.90)
TASCO(23) หลังจากที่ออกอาการยึกๆยักๆอยู่ 2-3 วันเมื่อวาน แม่ลูก TIPCO TASCO กลับมาสดใสอีกครั้ง ก็ของเขาดี พื้นฐานแกร่งจริง วันนี้จัด TASCO ต่อละกัน sentiment ยังน่าเล่นอยู่ด้วย ปัจจัยหนุนดังนี้ :
1. Spread ระหว่างราคายางมะตอยและน้ำมันดิบสูงเนื่องจาก demand ยางมะตอยสูงจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยการลงทุนใน infrastructure มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องแถมมี supply shortage เพราะ เรือขนส่งยางมะตอยขาดแคลนด้วย ราคายางมะตอยจึงน่าจะแข็งแกร่งต่อไปได้นะ
2. Market share ในประเทศสูงที่สุด 45-50%
3. Forward 2015 PE ต่ำที่ 7.7x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PE ของกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่ 15x ถือว่า valuation ไม่แพงหรอก
4. ระยะยาว supply ยางมะตอยมีแนวโน้มลดลงจากการ upgrade เพิ่มประสิทธิภาพของโรงกลั่นน้ำมันใสทำให้มีเหลือยางมะตอยมาให้ขายน้อยลง ช่วย support ราคายางมะตอย ลุ้นปีนี้ 23 บาทหรือ More ก็ไม่น่ายาก ถือๆกันหน่อยอย่าไปกลัวนะจ๊ะ
SPA(6.90) หลังจากซ่าจนโดนขังกรงไปตั้งแต่ 8 มิ.ย.แต่ราคาหุ้นหาได้ยอมแพ้ไม่ ก็พื้นฐาน
มันฟ้องว่าดีเลยต้องไปต่อนิ เล็งๆไว้ 6.90 ไม่น่าพลาดในเร็วๆนี้ กำไรเติบโตเกือบ 80% มาตลอด 3 ปีย้อนหลังแล้ว แถมยังเนื้อหอมมีโรงแรมชั้นนำเข้าจับมือด้วย เพื่อขยายธุรกิจต่อ โดยลูกค้าต่างประเทศใช้บริการมากขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะจากจีนนะ ปัจจุบันมี 13 สาขา แต่เร็วๆนี้น่าจะเพิ่มขึ้นอีก ก็ต้องลุ้นกันว่าข่าวจะออกเมื่อไร แต่อย่างไรก็ตาม Demand มีพร้อมรองรับแล้วครับผม
นักลงทุนระยะยาว : CENTEL(43.50), KBANK(252)
CENTEL(43.50) ผมแนะนำไปตั้งแต่สัปดาห์ก่อนให้เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มท่องเที่ยว ราคาก็ขึ้นมาจาก 36 อยู่ที่ 39 ละตอนนี้ยังมองว่าถือไปได้ต่อนะครับ โดยคาดว่ากำไรสุทธิของ CENTEL จะขยายตัวขึ้นแข็งแกร่งที่ 43.6% yoy อยู่ที่ 1,706.8 ล้านบาทในปี 58 จากผลการดำเนินงานของโรงแรมในกรุงเทพฯ ประกอบกับรายได้ที่เพิ่มขึ้นจาก Centara Kata Resort ภูเก็ตจากการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมอีก 50% รวมทั้งธุรกิจอาหารที่เติบโตขึ้นต่อเนื่องและ EBITDA margin ของอาหารที่ดีขึ้นแถมการพัฒนาโรงแรมใหม่ตามแผนและทรัพย์สินโรงแรมเดิมในหัวหิน พัทยาและภูเก็ตที่ขยายตัวขึ้นจะช่วยหนุนการเติบโตในระยะยาว การพัฒนาตามแผนของบริษัทฯ ประกอบไปด้วย 1) รีสอร์ทของตัวเอง 2 แห่งที่มัลดีฟ 2) JV ที่สัดส่วน 50:50 กับพันธมิตรในประเทศสำหรับการพัฒนาโรงแรมในพม่าและศรีลังกาและ 3) การพัฒนาโรงแรม Cosi ของตัวเองอีก 2 แห่ง ราคา target 43.50 น่าจะได้เห็นปีนี้ไม่ยากเลย แต่ก็อย่าลืม Take profit นะครับ
KBANK(252) ล่าสุดทางเราก็ปรับประมาณการณ์กำไรสุทธิกลุ่มแบงก์ปี 58-59 ลง 9% และ 7% ตามลำดับ แต่จริงๆแล้ว valuation ณ ปัจจุบันของกลุ่มธนาคารซื้อขายด้วย 2015F P/B ที่ 1.3 เท่า(-2SD เทียบกับค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 1.6 เท่า) และ 2015F PE ที่ 10 เท่า (-1SD เทียบกับค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 11.3 เท่า) ดูเหมือนรับรู้ปัจจัยลบที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่แล้ว ราคาหุ้นกลุ่มแบงก์หลายตัวค่อนข้างถูกแนะนำเริ่มเก็บสะสม Top Pick KBANK กัน ถ้าเห็นราคาลงมาเยอะๆ แต่สำหรับคนที่ใจเย็นเท่านั้น(ถือ 6 เดือนนะครับ) ปีหน้าเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวจาก consumption (หนี้โครงการรถคันแรกไม่ก่อปัญหารุนแรงแล้ว), exports (ประเทศคู่ค้าฟื้นตัว), และโครงการรัฐ(อาวุธหลักในการกระตุ้นเศรษฐกิจ) ที่ฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้น กลุ่มแบงก์ก็จะดีตามไปเองล่ะครับ
