- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 12 June 2015 17:19
- Hits: 1515
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ โดย ยศพณ แสงนิล, CFA : ผันผวนกรอบแคบ
ตลาดไทยวันนี้น่าจะผันผวนในกรอบแคบหลังจากที่ขึ้นมาแรงแล้ว 2 วันติดต่อกัน โดยมีปัจจัยกดดันคือ ราคาน้ำมันดิบที่ย่อลงเล็กน้อย บวกกับประเด็นกรีซยังไม่มีทางออกชัดเจน ประกอบกับล่าสุดตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐออกมาดีกว่านักวิเคราะห์คาด ส่งผลให้นักลงทุนกังวลต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ตลาดไทยยังคงเป็นขาขึ้น หลัง กนง.ประกาศคงดอกเบี้ยไปแล้วที่ 1.5% ดังนั้น หากดัชนีย่อลงบ้างก็เป็นจังหวะเหมาะในการเริ่มสะสมหุ้นเป็นรายตัว เนื่องจากปลายเดือนนี้อาจมีการทำ window dressing และมีข่าวความคืบหน้าการประมูลภาครัฐช่วยดันดัชนีขึ้นได้ต่อ
แนวรับ/แนวต้าน : 1500/1520
กลยุทธ์ : ช่วงนี้นักลงทุนควรหลีกเลี่ยงหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคภายในประเทศ เนื่องจากการฟื้นตัวของการส่งออกและเศรษฐกิจไทยยังไม่มีความแน่นอน แนะนำรอจังหวะดัชนีเมื่อย่อลง เก็บหุ้นกลุ่มพลังงาน สื่อสารที่ให้ปันผลสูงตลอดจนกลุ่มโรงพยาบาลและท่องเที่ยวที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มค่าเงินบาทอ่อนค่า
สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
นักลงทุนระยะสั้น : DEMCO(16), TASCO(23)
นักลงทุนระยะยาว : SEAFCO(13.50), CENTEL(45)
จับข่าวมาเก็งกำไร
DRT : หลังจากที่แตะจุดต่ำสุดในไตรมาสที่ 4/57 แล้ว ผลประกอบการของ DRT ได้ค่อยๆฟื้นตัวขึ้น อย่างไรก็ดีการฟื้นตัวยังเป็นไปอย่างช้าๆจากการอุปโภคบริโภคที่อ่อนแอในจังหวัดที่ DRT มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูง การฟื้นตัวอย่างเต็มที่จะต้องใช้เวลาและอาจต้องรอถึงปีหน้า คงคำแนะนำ ถือ ด้วยราคาพื้นฐานที่ 5.10 บาท ราคาเหมาะสมที่ควรเข้าซื้อคือ 4.50 บาท (รายละเอียดอยู่ในบทวิเคราะห์วันนี้)
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุน
ปัจจัยภายในประเทศ
+ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปีว่า เห็นด้วยที่กนง.ไม่ลดดอกเบี้ย เพราะดอกเบี้ยของไทยต่ำที่สุดในอาเซียนอยู่แล้วเป็นที่น่าพอใจแล้ว จึงต้องหยุด ไม่เช่นนั้นถ้าลดลงไปมากการไหลของเงินจะรุนแรงผิดปกติ มั่นใจเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัว ชี้ไม่ต้องเพิ่มทีมเศรษฐกิจ ขณะธนาคารโลกเตือนประเทศตลาดเกิดใหม่ทั่วโลก เตรียมรับมือความผันผวนในช่วงเฟดขึ้นดอกเบี้ย-ดอลลาร์แข็งค่า ด้านประจินเผยไม่รับข้อเสนอกทม.ที่จะรับเดินรถสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เพราะจะให้รัฐให้เงินอุดหนุน ยันกทม.ต้องจ่ายเงินค่าก่อสร้างทั้งหมดให้รฟม.รวม 1.7 หมื่นล้าน พร้อมดันไฮสปีดกทม.-หัวหิน และศึกษาสร้างมอเตอร์เวย์เส้นนครปฐม-ชะอำด้วย
ปัจจัยต่างประเทศ
+ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนสปิดที่ 18,039.37 จุด เพิ่มขึ้น 38.97 จุด หรือ +0.22%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 มิ.ย.) หลังจากมีรายงานว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับกาคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัด หลังจากมีรายงานข่าวว่า การเจรจาแก้ไขวิกฤติหนี้ระหว่างกรีซและฝ่ายเจ้าหนี้ได้ยุติลง โดยทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้
+ สัญญาน้ำมันดิบ ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 66 เซนต์ ปิดที่ 60.77 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 มิ.ย.) หลังจากมีรายงานว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค.