WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CIMBบล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)

 

SET Index : ยืนเหนือ 1510 ได้ มีโอกาสขึ้นทดสอบ 1525
  SET Index : 1512.94 เคลื่อนไหวออกด้านข้างหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคทะลุผ่านแนวต้านที่ 1510 จุดขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มของ SET Index มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1525-1530 จุด ซึ่งเรากำหนดให้เป็นแนวต้านสำคัญของโครงสร้างในระยะยาว ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีเป้าหมายในการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปที่ 1600 จุด แต่ถ้าปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1525 จุด เราแนะนำให้ขายหุ้นออกบางส่วนเพื่อทดสอบแรงซื้อก่อนที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 1530 จุดขึ้น
  Energy : ปรับตัวลดลงมาทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้นที่ 19500 และมีแนวต้านที่ 20000 และ 20400 เป็นแนวต้านสำคัญ
  Bank : ทดสอบแนวต้านที่ 525 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้จะมีโอกาสขึ้นต่อทดสอบ 540 เรายังคงเน้นเข้าซื้อ BAY KBANK SCB BBL และ KTB

TASCO = 18.00 / 19.00, PTT = 340 / 342, BTS = 10.00 / 10.20, JAS = 6.10 / 6.20, INTUCH = 78.00 / 78.50

  S50M15 : 992.70 ปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงมาทดสอบแนวรับสำคัญที่ 990 ในขณะที่ SET50 Index ยังไม่สามารถทะลุผ่านระดับ 100% แต่เริ่มมีสัญญาณการทะลุผ่านแนวโน้มขาลงขึ้นมาได้แล้ว จึงทำให้เราคาดว่า แนวโน้มของ S50M15 น่าจะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านที่ 100% ขึ้นไปได้ และมีแนวต้านถัดไปที่ 1020 เราจึงแนะนำให้ Open Long ใน S50M15 ที่แนวรับ 990-992 และ Long เพิ่ม เมื่อทะลุผ่านระดับ 100%
  GFM15 : 18950 เคลื่อนไหวในกรอบแคบต่ำกว่าระดับ 19000 แต่เราแนะนำให้รอกลับเข้าไป Open Long ใน GFM15 ที่บริเวณแนวรับ 18800 หลังจากราคาทองเริ่มฟื้นตัวที่แนวรับ US$1175-1180 และมีแนวต้านสำคัญที่ 19100
  USDM15 : 33.74 เราแนะนำให้ Open Short ใน USDM15 ต่อเนื่องที่แนวต้าน 33.75-33.80 และมีแนวรับที่ 33.50 และ 33.40 เป็นจุดขายทำกำไร

 

TECHNICAL FOLLOW UP : แนวรับ แนวต้าน
SET Index แนวโน้มขึ้นทดสอบ 1520-1525 แต่เป็นจังหวะขายเพื่อทดสอบแรงซื้อ 1512 / 1510 1515 / 1518
S50M15 Open Long ที่แนวรับ 992 และ 990 แนวต้าน 100% 992 / 990 997 / 100%
GFM15 ถือเงินสดรอกลับเข้าไป Open Long ที่บริเวณ 18800 18900 / 18800 18950 / 19000
USDM15 Open Short ต่อเนื่องที่แนวต้าน 33.75-33.80 แนวรับ 33.50 และ 33.40 33.65 / 33.60 33.75 / 33.80
CK แนวโน้มขึ้นทดสอบ 29.50 และ 30.50 27.50 / 27.00 28.50 / 29.50
NWR แนวโน้มขึ้นทดสอบ 1.95 และ 2.00 1.84 / 1.82 1.90 / 1.95

Rayong Wire Industries (RWI TB; THB 5.10) - ซื้อ


  แนวต้าน : 5.50 และ 5.80 / แนวต้านสำคัญ 6.00
  แนวรับ : 5.10 และ 5.00
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นหลังจากเคลื่อนไหวในกรอบแคบเพื่อสร้างฐาน ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนทดสอบระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเข้าใกล้ระดับ 60
  แนะนำซื้อ RWI โดยมีแนวรับที่ 5.10 และ 5.00 และมีแนวต้านที่ 5.50 และ 5.00 เป็นจุดขายทำกำไร แนวต้านสำคัญ 6.00
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 4.84 ลงไป

 

Bangkok Dec-Con (BKD TB; THB 3.60) - ซื้อ
  แนวต้าน : 3.80 และ 3.96 / แนวต้านสำคัญ 4.30
  แนวรับ : 3.60 และ 3.54
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบระดับ 50
  แนะนำซื้อ BKD โดยมีแนวรับที่ 3.60 และ 3.54 และมีแนวต้านที่ 3.80 และ 3.96 เป็นจุดขายทำกำไร แนวต้านสำคัญ 4.30
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 3.46 ลงไป
  BKD-W1 เกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค แนวโน้มขึ้นทดสอบ 0.80

Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 - [email protected]

บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)

 

SET...สัปดาห์หน้ายังขึ้นอยู่กับการเจรจาในกรีซ
  ทิศทางดัชนีตลาดหุ้นเอเชียในปีนี้ยังดำเนินงานไปอย่างระมัดระวัง หลังดีดตัวขึ้นมาแรงในปีที่ผ่านมา จะมีเพียงตลาดหุ้นจีนเท่านั้นที่ปรับตัวขึ้นมาดี รองลงมาคือ ฮ่องกง เกาหลี ส่วนตลาดหุ้นอาเซียนส่วนใหญ่จะปรับตัวลง ยกเว้นฟิลิปปินส์ ขณะที่ไทยดัชนีแทบไม่เปลี่ยนแปลง แม้สภาพทางเศรษฐกิจของอาเซียนจะคล้ายๆ กันคือเศรษฐกิจจะยังฟื้นตัวอย่างช้าๆ แต่สำหรับในตลาดหุ้น เรามองว่ากำลังจะต่างกัน กล่าวคือ กำไรของตลาดหุ้นไทย เริ่มทรงๆ ตัวและดีขึ้น (Earning momentum ratio) เนื่องจากมองความคืบหน้าในการแก้ปัญหาของรัฐ ดำเนินงานไปอย่างรวดเร็ว รวมทั้งการเร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นๆ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ได้ผ่านไปแล้วเป็นส่วนใหญ่และค่า Earning momentum ratio กำลังหักหัวลงรอบใหม่
  แม้ตลาดให้ความหวังว่ารัฐบาลน่าจะเริ่มเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน แต่ดูเหมือนตลาดหุ้นยังไม่ตอบรับ เพราะส่วนใหญ่ยังมองว่าไม่น่าจะทำได้เร็ว ส่งผลให้หุ้นที่จะได้ประโยชน์จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน อย่าง ธนาคาร วัสดุก่อสร้างใหญ่ ยังเคลื่อนไหวในช่วงแคบๆ ยกเว้นหุ้นรับเหมาที่ดีดตัวขึ้นมารับข่าวช่วงสั้นของการลงทุนรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ จากรูปด้านขวา ดัชนีกลุมอุตสาหกรรมที่ปรับขึ้นขึ้นแรง ยังคงเป็นกลุ่มชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกส์ ปิโตรเคมี พลังงาน โรงพยบาลและโรงแรม ซึ่งกลุ่มเหล่านี้เห็นสัญญาณการฟื้นตัวค่อนข้างชัด ส่วนกลุ่มที่ยังมีแรงกด คือ ธนาคารพาณิชย์ วัสดุก่อสร้าง เกษตร อาหาร สื่อสารและอสังหาริมทรัพย์
  เรามองว่าหากเศรษฐกิจไทยสามารถรักษาโมเมนตัมได้ คือ ประคับประคองตัวหรือทรงๆ ตัว ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี กุล่มโยงกับการท่องเที่ยวและชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกส์ เริ่มยืน โอกาสที่จะเห็นดัชนี SET ลงแรงๆ คงเกิดขึ้นได้น้อย แต่จะค่อยๆ ปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัด แต่หากเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะเปลี่ยนเทรดเป็นขาขึ้นทันที จากแรงหนุนของหุ้นที่โตจากการบริโภคและลงทุนในประเทศ อย่าง ธนาคารพาณิชย์ อสังหาริมทรัพย์และสื่อสาร
  ทิศทางดัชนี SET ในอาทิตย์หน้า เรามองว่าจะกลับมาซึมๆ หรือแกว่งในกรอบแคบๆ อีกครั้งหลังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ๆ รวมทั้งนักลงทุนคงเฝ้ารอดูผลการเจรจาหนี้ของกรีซ รวมทั้งทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก กลุ่มอุตสาหกรรมที่ถือว่าจะเป็นตัวแปรหลักในตอนนี้คือ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ หากแรงขายหยุดหรือมีแรงซื้อคืนเกิดขึ้น ดัชนี SET จะขึ้นต่อ แม้แรงกดหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์จะยังมีอยู่ จากแนวโน้มการปรับตัวขึ้นของ NPL NIM ยังไม่ดีขึ้นและกำไรใน Q2/15 ยังไม่ดี แต่สิ่งหนึ่งที่ราคาหุ้นในกลุ่มเริ่มดีดตัวกลับ คือ ค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าของกลุ่มอุตสาหกรรมได้ลงมาแตะค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน-1 ซึ่งที่ผ่านมามักจะดีดตัวกลับ
  คาดทิศทางดัชนี SET วันนี้น่าจะมีแรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มพลังงานออก สลับจะมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารเข้ามาพยุง ส่งผลให้ดัชนีแกว่งกรอบแคบทั้งแดนบวกและลบจากความกังวลปัญหาในกรีซที่ทาง IMF ถอนทีมเจรจากลับ โดยแนวต้านอยู่ที่ 1520-1525 ส่วนแนวรับที่ 1508-1504 จุด

 

Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)

 

Morning Market Summary...
  SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,512.94 จุด ลดลง 1.87 จุด (-0.12%) มูลค่าการซื้อขาย 15,178.30 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้แกว่งในกรอบบริเวณ 1509-1517 จุด โดยมีแรงขายทำกำไรหลังตลาดปรับขึ้นมา 2 วันก่อน และแรงขายจากกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันปรับลง ขณะที่ตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่หนุน ส่วนตลาดภูมิภาคแกว่งบวก-ลบ โดยมีแรงหนุนหลังตัวเลขค้าปลีกของสหรัฐเดือนพ.ค. ปรับขึ้น

Afternoon Perspective...
  แนวโน้มตลาดภาคบ่าย แกว่งตัวในกรอบ 1505-1518 จุด ภาพ SET ในระยะกลางดูดีขึ้น หลัง สามารถยืนเหนือระดับ 1505 จุด ได้ต่อเนื่อง โดยระยะสั้นอาจจะยังแกว่งตัวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานใหม่ไปสักระยะ เพื่อรอปัจจัยๆใหม่มาสนันบสนุนการขึ้น โดยแนวต้านสำคัญ อยู่ที่ระดับ 1518 จุด หากทะลุ แล้วยืนได้ จะเป็นการยืนยันการจบรอบแนวโน้มลงของ SET และจะมองเป้าถัดไปที่ 1525 จุด และ 1540 จุด ตามลำดับ แต่หากกลับมาต่ำกว่า 1505 จุด จะถือว่าการดีดตัวขึ้นในรอบนี้เป็นสัญญาณหลอก และทาให้ SET ยังอยู่ในแนวโน้มลงต่อไป โดยมีโอกาสที่จะปรับตัวลงไปที่ระดับ1480 - 1495 จุด อีกครั้ง กรณีนี้อาจจะขายทำกำไรเล่นรอบออกอีกรอบ โดยเฉพาะถ้าหลุด 1505 จุด

Fundamental Picks & Technic (PM) ...
  Rayong Wire Industries (RWI TB; THB 5.10) - ซื้อ
  Bangkok Dec-Con (BKD TB; THB 3.60) - ซื้อ

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!