- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 12 June 2015 17:11
- Hits: 1486
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Sideways
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ กลุ่มหลักอย่างกลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมี บวกเด่นจากราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวเหนือ US$61/barrel สำหรับ NYMEX รวมถึง กลุ่มธนาคาร บวกต่อเนื่องจากวานนี้ หลังกนง.คงอัตราดอกเบี้ย อีกทั้งบรรยากาศรอบเอเชียและยุโรป เป็นบวก ส่งผลให้ SET INDEX ปิดบวกเป็นวันที่ 2 อีก 10.77 จุด มาอยู่ที่ 1,514.81 จุด มูลค่าการซื้อขาย 50,489 ล้านบาท ทั้งนี้มีรายการ Big Lot หุ้น KTIS มูลค่า 1.09 หมื่นล้านบาท
กระแสเงินทุนต่างชาติเป็นกลางเป็นวันที่ 2 แม้ขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 อีก 2,326 ล้านบาท แต่คงการเร่งปิดสถานะ Short ด้วยการ Long สุทธิใน SET50 Index Futures วันที่ 2 อีก 3,248 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 3 เท่ากับ 2,128 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
สถานการณ์กรีซ ยังไม่ได้ข้อสรุป
ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
การจัดงาน Invest Asean วันจันทร์ที่ 15 มิ.ย.มี บจ.ไทยเข้าร่วมงานนี้ 20 บริษัท และผู้จัดการกองทุนอีกราว 200 คนทั้งในและต่างประเทศ
การประกาศรายชื่อหุ้นเข้า - ออก การคำนวณดัชนี SET50 / SET100 / SET HD โดย ตลท.ในต้นสัปดาห์หน้า
การประชุม เฟด วันที่ 16-17 มิ.ย.ต่อทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงที่เหลือของปีนี้
การประชุม BoJ วันที่ 19 มิ.ย. ต่อทิศทางค่าเงินเยนเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองต่อตลาดหุ้นไทยเป็น "กลางถึงบวก" วันที่ 2 แม้ว่า SET INDEX จะยังไม่ผ่านแนว 1,520 จุด ด้วยแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ เพื่อกดไม่ให้ SET50 Index ฟื้นตัวเด่น เพื่อทยอยปิดสถานะ Short ที่เปิดไว้ก่อนหน้านี้ อีกทั้งวันนี้เป็นการซื้อขายสุดท้ายของสัปดาห์ หลัง SET INDEX กลับมายืนเหนือ 1,500 จุด ทำให้นักลงทุนทยอยขายทำกำไร เพื่อปิดความเสี่ยงช่วงสั้นนี้ เราประเมิน SET INDEX แกว่งระหว่าง 1,505-1,520 จุด มูลค่าการซื้อขายดีขึ้นแต่ยังไม่ถึง 5.0 หมื่นล้านบาท
สำหรับการลงทุนในสัปดาห์หน้า เราประเมินว่า SET INDEX จะขยับขึ้นทดสอบ 1,530-1,540 จุดได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับ ผลการประชุม เฟด วันที่ 16-17 มิ.ย.
หากเฟดส่งสัญญาณยังไม่พร้อมที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงสั้น เพราะยังมีความเสี่ยงในอัตราเงินเฟ้อระยะกลางถึงยาว ส่วนการจ้างงานยังไม่กลับไปสู่ระดับปกติก่อนเกิดวิกฤติ คาดว่าตลาดหุ้นทั่วโลกจะตอบรับในเชิงบวก ทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าเทียบกับสกุลเงินหลัก ซึ่งเป็นบวกต่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก หากเป็นไปตามแนวทางนี้ SET INDEX มีโอกาสขึ้นทดสอบด่านดังกล่าวได้
แต่หากเฟด ส่งสัญญาณพร้อมขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเร็วๆ นี้ หลังสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัวแข็งแกร่ง และอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มขยับสู่เป้าหมาย 2.0% ในระยะกลางถึงยาว คาดว่าตลาดหุ้นทั่วโลกจะซึมตัวลง และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ กดดันราคาน้ำมันดิบทางอ้อม SET INDEX มีโอกาสซึมตัวลงสู่แนว 1,500-1,510 จุด
พร้อมติดตามการประกาศสมาชิกเข้า - ออก จากการคำนวณ SET50 / SET100 / SET HD คาดว่าจะประกาศในต้นสัปดาห์หน้า เป็นจุดที่น่าสนใจเก็งกำไร เช่นเดียวกับการปรับดัชนี FTSE Thailand ณ ราคาปิดวันที่ 19 มิ.ย. เป็นประเด็นเก็งกำไรสัปดาห์หน้า
เช้านี้ตลาดหุ้นเอเชีย (7.15 น.) Nikkei - Kospi เปิดบวกเล็กน้อย เนื่องจากเป็นวันซื้อขายสุดท้ายของสัปดาห์
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนที่ขายทำกำไรไปบางส่วนแล้ว การย่อตัวของ SET INDEX วันนี้ เปิดโอกาสสะสมหุ้นเป้าหมาย บนประเด็นคาดการณ์หุ้นเข้า SET50 / SET100 หรือมีประเด็นบวกเฉพาะตัว"
Top Pick in 2Q15: ITD / TPIPL/ WHA / TASCO
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ WHA/ THAI/ BCP/ IFEC
Accumulative Buy: ITD / TIPCO
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "ทยอยสะสม" ได้แก่
1. ITD : ราคาปิด 8.25 บาท ราคาเหมาะสม 12.00 บาท
a) ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกรออยู่ โดยคาดว่าจะถูกเพิ่มเข้าสู่ดัชนี SET50 ซึ่งตลาดหลักทรัพย์จะประกาศทบทวนรายชื่อในวันจันทร์ หรือ อังคารหน้า (15 หรือ 16 มิ.ย.)
b) และเป็น 1 ในบริษัทที่เข้าร่วมงาน INVEST ASEAN กับเราในวันที่ 15 มิ.ย. โดยคาดว่าจะได้รับ Feedback เชิงบวกจากผู้จัดการกองทุนทั้งในและต่างประเทศที่เข้าร่วมงานกว่า 300 คน
c) คาดโครงการทวายจะมีการเซ็นสัญญาร่วมทุน ระหว่าง ไทย - พม่า - ญี่ปุ่น ในเดือน ก.ค. และเป็นประโยชน์โดยตรงต่อ ITD เนื่องจากเป็นบริษัทเอกชนที่ได้รับสิทธิสัมปทานในโครงการทวาย
d) คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างใน 2H58 เนื่องจากเชื่อว่าจะมีงานประมูลขนาดใหญ่ของภาครัฐฯเข้าสู่ระบบต่อเนื่อง และให้ ITD เป็น Top pick ของกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
2. TIPCO : ราคาปิด 12.20 บาท ราคาเหมาะสม 18.00 - 20.00 บาท***
a) TIPCO เป็น 1 ในบริษัทที่เข้าร่วมงาน INVEST ASEAN กับเราในวันที่ 15 มิ.ย. โดยคาดว่าจะได้รับ Feedback เชิงบวกจากผู้จัดการกองทุนทั้งในและต่างประเทศที่เข้าร่วมงานกว่า 300 คน
b) มีมุมมองเชิงบวกต่อธุรกิจผลไม้ และเครื่องดื่มของ TIPCO เนื่องจากมีการกระจายตัวครอบคลุมทุก Segment ได้แก่ เครื่องดื่มน้ำผลไม้, เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ และน้ำแร่ออร่า
c) คาดผลประกอบการได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้วในปีที่ผ่านมา หลังภาวะ Supply ขาดแคลนสับปะรดมีสถานการณ์ที่ดีขึ้น และบริษัทเริ่มปรับกลยุทธ์เพื่อจัดหา Supply สับปะรดร่วมกับชาวไร่ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงเรื่องวัตถุดิบในระยะยาว นอกจากนั้น บริษัทยังได้ประโยชน์โดยตรงต่อเงินบาทที่อ่อนค่า เนื่องจากมียอดขายเกือบทั้งหมดในสกุล USD
d) ประเมินเบื้องต้นคาดกำไรสุทธิปี 2558 ที่ 900 - 1,000 ล้านบาท เทียบเท่า EPS ที่ 1.80 - 2.00 บาทต่อหุ้น เติบโตก้าวกระโดดจากปี 2557 ที่มีกำไรสุทธิเพียง 78 ล้านบาท หากอิง PE ทีระดับ 10 เท่า จะได้ราคาเหมาะสมในช่วง 18.00 - 20.00 บาท
e) อิงราคาปิดวานนี้ของ TASCO ที่ 17.70 บาท จะเทียบเท่ามูลค่า NAV ต่อหุ้นของ TIPCO หุ้นละ 13.57 บาท สูงกว่าราคาในกระดานของ TIPCO ซึ่งเปรียบเสมือนได้ธุรกิจน้ำผลไม้ฟรี
*** เนื่องจาก TIPCO ไม่ได้อยู่ใน Coverage ของเรา นักลงทุนจึงต้องใช้วิจารณญาณในการลงทุนมากกว่าปกติ
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียขายสุทธิเป็นวันที่ 7 อีก US$574 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$408 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติปิดสถานะ Short ใน SET50 Index Futures ต่อเนื่อง
นักลงทุนต่างชาติคงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 เร่งขึ้นเป็น 2,326 ล้านบาท รวม 3 วันทำการขายสุทธิ 4,018 ล้านบาท เพื่อ SET50 Index ยังไม่ผ่าน 1,000 จุด เพราะนักลงทุนกลุ่มนี้ถือสถานะ Short ไว้ค่อนข้างมาก ส่งผลให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิเท่ากับ 14,130 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติคงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 3,248 สัญญา รวม 2 วันทำการ Long สุทธิ 6,397 สัญญา เทียบกับ 4 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 12,486 สัญญา คาดเป็นการปิดสถานะ Short ต่อเนื่อง ส่งผลให้ S50M15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 3 เหลือ 1.40 จุดจากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 4.28 จุด ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิ ลดลงเป็น 47,604 สัญญา
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 เร่งขึ้นเป็น 2,128 ล้านบาท รวม 3 วันทำการ ซื้อสุทธิ 4,153 ล้านบาท เมื่อราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยลดลงต่อเนื่อง ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 อีก 1.96bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้นถึง 4.95bps ทำให้ผลตอบแทนยังคงปิดเหนือ 3.00% เป็นวันที่ 2 ปิดที่ 3.062%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงอีกเล็กน้อยเหลือ 410 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 463 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 5 หนาแน่นขึ้น เน้น AOT / PTTGC / SCC
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 5 เร่งขึ้นเป็น 1,440 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 264 ล้านบาท รวม 5 วันทำการ ซื้อสุทธิ 4,255 ล้านบาท โดยแรงขายกลุ่มธนาคารเริ่มเบาบางอย่างชัดเจน ขณะที่ AOT และกลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมี ยังคงเป็นเป้าหมายหลักของการสะสม สรุปภาพ NVDR ได้ดังนี้
1. กลุ่มปิโตรเคมี ซื้อสุทธิสูงสุด 446 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 174 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มขนส่ง ซื้อสุทธิ 314 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 365 ล้านบาท กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ซื้อสุทธิ 308 ล้านบาท กลุ่มพลังงาน ซื้อสุทธิ 240 ล้านบาท และกลุ่ม ICT ซื้อสุทธิ 185 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มธนาคารถูกขายสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 3 อีก 155 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 404 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มอสังหาฯ ขายสุทธิ 45 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า ขายสุทธิ 108 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลาง
ยอดขอสวัสดิการว่างงาน เท่ากับ 2.79 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 2.75 แสนตำแหน่ง แต่สูงกว่าสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.77 แสนตำแหน่ง
ยอดค้าปลีก เพิ่มขึ้น 1.2% mom ในเดือนพ.ค. ใกล้เคียง Bloomberg consensus คาดที่ 1.3% mom แต่ฟื้นตัวเด่นจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.2% mom ยอดขายยานยนต์ที่เพิ่มขึ้น 2.0% mom รวมถึงราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่เพิ่มขึ้น
สินค้าคงคลังภาคธุรกิจ เดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 0.4% mom สูงกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 0.2% mom และเดือนก่อนหน้าที่ 0.1% mom
ยุโรป
สถานการณ์ของกรีซ ณ ปัจจุบัน
EU ได้ยืนยัน กรีซหยุดการต่อรอง และให้ตัดสินใจถึงเงื่อนไขที่เจ้าหนี้เสนอให้กับการแก้ไขปัญหาทางการเงิน มิใช่การเจรจาต่อรอง
ทีมทำงานของ IMF ได้ออกจากกรุงบรัสเซล หลังการเจรจากับกรีซไม่คืบหน้า
จีน
ตัวเลขเศรษฐกิจจีนส่งสัญญาณการฟื้นตัว
ผลผลิตภาคอุตฯ เดือนพ.ค.ขยายตัว: เท่ากับ 6.1% yoy เร่งตัวขึ้นจากเดือนเม.ย.ที่ 5.9% yoy และสูงกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 6.0% yoy
ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 10.1% yoy
เงินลงทุนในสินทรัพย์ถาวร ไม่รวมตลาดอสังหาฯ ในชนบท เพิ่มขึ้น 11.4% yoy ในช่วง 5M58
เอเชียแปซิฟิก
ธนาคารกลางเกาหลีใต้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์: ลดลง 25bps สู่ระดับ 1.50% จากเดิมที่ 1.75% ซึ่งเป็นไปตามที่ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการแพร่ระบาดของโรคเมอร์ส ทำให้เศรษฐกิจเกาหลีใต้ต้องเผชิญกับความเสี่ยงมากขึ้น
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน เม.ย.ของมาเลเซียขยายตัวต่ำกว่าคาด: เพิ่มขึ้น 4.0% yoy ชะลอตัวลงจากเดือน มี.ค.ที่ขยายตัว 7.1% yoy และต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดเพิ่มขึ้น 4.5% yoy นำโดยภาคการผลิตที่เพิ่มขึ้น 4.1% yoy (การผลิตไฟฟ้าและเหมืองแร่เพิ่มขึ้น 3% และ 3.9% ตามลำดับ)
ไทย
ไม่มี
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530