WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BAYบล.กรุงศรี : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

บทวิจัยตลาดทุนกรุงศรี (Morning Brief Package)

       ภาวะตลาดหุ้นวานนี้: SET ร่วงตามตลาดหุ้นภูมิภาค จากความกังวลภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคที่ชะลอตัว และเฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด โดยเฉพาะกลุ่ม TIP ที่ปรับลงแรง (ไทย (-1% อินโด 2.3% และฟิลิปปินส์ -2.1%) หลังให้ผลตอบแทนที่สูงเมื่อปีที่ผ่านมา จึงทำให้เกิดแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง โดย Foreign Fund Flow วานนี้ไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาคทุกตลาด แรงขายส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในขนาดใหญ่ (หุ้นกลุ่มพลังาน ธนาคาร และ SCC-2%) นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิ 499.33 ล้านบาท นอกจากนี้ตลาดหุ้นภูมิภาคยังกังวลว่า MSCI อาจจะนำหุ้น A-share ของจีนเข้ามาคำนวนรวมอยู่ใน MSCI EM Index เพราะหากนำมาคำนวนแล้วจะทำให้น้ำหนักการลงทุนของประเทศที่มีอยู่เดิมลดลงอีกด้วย

 

แนวโน้มวันนี้: SET มีโอกาสรีบาวด์ และลุ้นผลประชุม กนง. บ่ายวันนี้ แม้วานนี้ SET ลงแรงและหลุด 1,500 จุด แต่ตลาดหุ้นไทยก็ถือว่าแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับภูมิภาค เรายังเชื่อว่าผลประชุมกนง. วันนี้น่าจะคงดอกเบี้ยตามคาด ซึ่งจะเป็นบวกต่อตลาด และเป็น Sentiment ในเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ แต่หาก กนง. ปรับลดดอกเบี้ยลงมาอยู่ที่ 1.25% ซึ่งจะส่งผลกระทบในเชิงลบระยะสั้นเท่านั้น แต่ระยะกลางและยาวจะเป็นผลบวกเพราะเชื่อว่าระดับ 1.25% น่าจะเป็นจุดต่ำสุดของดอกเบี้ยขาลงรอบนี้

 

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : “Selective BUY” เก็งกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับขึ้นอย่าง PTT และ TOP

หุ้นพื้นฐานเด่นวันนี้ : TPIPL ที่กำลังจะกลายเป็นเบอร์ 2 ในธุรกิจปูน และเป็นผู้นำโรงไฟฟ้าขยะและจะมีกำไรโดดเด่นในปีหน้า TPCH (เป้า 31 บาท) เจ้าแห่งโรงฟ้าชีวมวล (โรงไฟฟ้าแห่งที่ 2 จะเปิดดำเนินงานปลายเดือนนี้) และ GUNKUL (เป้า 28.25 บาท) ทำพลังงานทดแทนครบวงจร

KSS report : AP (เป้า 9 บาท) เป็นหนึ่งในหุ้นที่มี PE ที่ต่ำสุด และกำไรเติบโตดีสุดในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์

 

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด
(0) ลุ้น กนง. คงดอกเบี้ย การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้งที่ผ่านมา สร้างความประหลาดใจทั้งสองครั้ง มาครั้งนี้สิ่งที่คาดอาจไม่เป็นไปตามคาดก็เป็นได้ ผลของการลดดอกเบี้ยได้ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่ากว่า 4% ตามที่ต้องการ ธนาคารพาณิชย์ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้เล็กน้อยเพื่อลดภาระดอกเบี้ยจ่ายลูกหนี้และไม่ให้เกิด NPL เพิ่ม KSS และ ตลาดโดยรวมมองว่า กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% อย่างไรก็ตามครั้งล่าสุดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงแตะระดับต่ำสุดที่ระดับ 1.25% เมื่อเดือน พ.ค 2009 จากวิกฤตการเงินสหรัฐ ฉะนั้นหาก กนง. ปรับลดดอกเบี้ยครั้งนี้เชื่อว่าระดับ 1.25% น่าจะสิ้นสุดขาลงของดอกเบี้ยรอบนี้ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะถัดไปต้องอาศัยนโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

(-) Fund Flow ไหลออกจากภูมิภาคต่อเนื่อง จากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และกังวลเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย โดย MTD นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นภูมิภาคกว่า US$1,539 ล้าน ส่วนใหญ่ไหลออกจากตลาดหุ้นไต้หวัน US$1,552 ล้าน ไทย US$148.2 อินโดนีเชีย US$197 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$161 ล้าน และเวียดนาม US$1.3 ล้าน สาเหตุหลักเกิดจากการเติบโตของเศรษฐกิจของภูมิภาคชะลอตัวต่อเนื่อง ประกอบกับการเข้าใกล้ระยะเวลาที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยตามแผนที่คาดไว้แล้ว ดังนั้นหุ้นขนาดใหญ่จะยังเป้าในการขายของนักลงทุนต่างชาติ

(0) MSCI ยังไม่ประกาศนำหุ้น China A-share มาคำนวนรวมอยู่ใน MSCI EM index จนกว่าจะได้ข้อสุรปชัดเจน นับตั้งแต่ปี 2013 MSCI มีแผนที่จะนำ China A-share เข้ามาคำนวนรวมอยู่ใน MSCI EM Index ซึ่งจะมีผลกระทบต่อน้ำหนักการลงทุนของประเทศอื่นๆ ลดลง จากการประเมินเบื้องต้นจาก MSCI พบว่าหากนำหุ้น China A-share 100% เข้ามาคำนวนใน MSCI EM Index จะทำให้ China A-share มีสัดส่วน 10% แต่หากนำมารวมบางส่วนหรือ 5% ในระยะเริ่มต้นนั้นจีนจะมีสัดส่วน 0.6% เท่านั้น ดังนั้นผลกระทบที่จะมีต่อตลาดหุ้นไทยน้อยมาก ยกเว้นหากนำมาคำนวณทั้งหมด 100% เราคาดว่าน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยใน MSCI EM Index จะลดลงจาก 2.6% มาอยู่ที่ 2% ฉะนั้นหุ้น Market cap ใหญ่ในตลาดหุ้นไทยจะถูกลดน้ำหนักตามไปด้วย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!