- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 09 June 2015 18:10
- Hits: 1582
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“เลือกซื้อ/ถือเมื่อเหนือ 1500”
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : SET Index แกว่งในกรอบแคบ เนื่องจากนักลงทุนรอดูปัจจัยใหม่ เช่น ผลประชุมกนง.ในวันที่ 10 มิ.ย.นี้ การแก้ปัญหาหนี้กรีซ และการปรับประมาณการกำไรบจ.ของนักวิเคราะห์ ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงพบปะผู้บริหารหลังจบรายงานกำไร 1Q58อย่างไรก็ตาม การที่ SET Index ยังยืนเหนือ 1500 จุดได้ก็ถือว่ายังมีลุ้นแนวต้าน 1520-1530 จุดในระยะต่อไปได้อยู่
ตลาดไม่มีปัจจัยใหม่ ความกังวลเรื่องเฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกลับมาอีกรอบ แต่ไม่ได้เป็นนัยสำคัญมากนักเพราะเรื่องนี้เปลี่ยนแปลงไปตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งยังค่อนข้าง Mixed ส่วนภาพรวมระดับมหภาคของประเทศยังทรงๆ โดยกระทรวงแรงงานปฏิเสธการยกเลิกค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท และรมว.คลังไม่เห็นชอบกับข้อเสนอของธ.พ.ที่จะให้เพิ่มสัดส่วนการค้ำประกันของบสย.จาก 18% เป็น 30%สำหรับการปล่อยสินเชื่อ SME ในโครงการฯ ซึ่งทั้งสองเรื่องกระทบภาพรวมในปัจจุบันไม่มาก ส่วนปัจจัยเสี่ยงใหม่ที่ต้องติดตาม คือ ปัญหาภัยแล้ง เพราะปริมาณน้ำในเขื่อนปัจจุบันเหลือน้อยมาก ถ้าฝนไม่ตกอีกจะใช้ได้ 10-20 วัน ซึ่งจะกระทบกำลังซื้อโดยเฉพาะในต่างจังหวัดอีกระลอก แต่ขณะเดียวกันธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ธุรกิจรับจำนำรถยนต์ & จักรยานยนต์ และแฟคตอริ่งจะยังไปได้ดีในยามนี้ ในระยะสั้นเราประเมินว่า SET Index จะผันผวนในกรอบล่าง 1470-1480 และกรอบบน 1520-1530 จุด จนกว่าจะมีปัจจัยใหม่ที่มีนัยสำคัญเข้ามาไม่ว่าจะเป็นลบหรือบวกก็ตาม กลยุทธ์ เลือกซื้อสะสมหุ้นพื้นฐานดีเพื่อลงทุนระยะกลาง-ยาว โดยหุ้น Top Picks เดือนมิ.ย.ของเราเป็น CK, GL,KBANK, PLANB, TTCL และ Dark Horse คือ BJCHI, MCS
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้นมากสัญญาณเป็นบวกเล็กๆ แต่ยังไม่ทิ้งความเสี่ยงที่จะลงต่ำอีกรอบ กรอบแนวต้านระยะสั้นอยู่ที่1520, 1530-1540 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไรตามด้วยค่าบวก ค่าลบดูไม่ดีควร Wait & See, หลุด 1500 จุดแนะนำให้ลดพอร์ตตามสำหรับการ SCAN หาหุ้นมีสัญญาณบวกทางเทคนิคหรือมีโอกาสทำ New high พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่ คือ VNG, WHA, LIT, STAR ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List เป็น STPI, BH, STAR, CPN, S11, SENA สำหรับหุ้นที่อยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take Profit คือ TRUE, BLA
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
• กรีซ : ล่าสุดรัฐบาลกรีซเปิดช่องประนีประนอมกับฝ่ายเจ้าหนี้เพื่อให้มีการบรรลุข้อตกลงกับ IMF และ EU และโฆษกรัฐบาลกรีซปฏิเสธข่าวว่ารัฐบาลอาจประกาศจัดการเลือกตั้งใหม่ โดยยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในแผนของรัฐบาล
- ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลง เพราะวิตกเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยก่อนสิ้นปี 58 หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาดีเกินคาด (+280,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค.) ดัชนี DJIA -0.46%, ดัชนี Nasdaq -0.92% และดัชนี S&P500 -0.65%
- สัญญาน้ำมันดิบปิดอ่อนตัวลง โดย WTI และ BRENT ส่งมอบก.ค.58 ลดลง 0.99 และ 0.62 ดอลลาร์ ปิดที่ 58.14 และ 62.69ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ปัจจัยที่กดดัน คือ อุปสงค์จากจีนที่อ่อนแอลง
- จีนนำเข้าน้ำมันดิบเดือนพ.ค.58 ลดลง 23.27%MoM สู่ระดับ23.24 ล้านตัน นำเข้าผลิตภัณฑ์น้ำมันลดลง 6.07%MoM เป็น 2.32ล้านตัน และอิหร่านมีแผนเพิ่มปริมาณการผลิตอีก 1 ล้านบาร์เรล/วันภายใน 6-7 เดือนข้างหน้าหากชาติตะวันตกยกเลิกมติการคว่ำบาตรซึ่งจะสรุปเรื่องนี้ได้ภายใน 30 มิ.ย.นี้
+ ราคาทองคำรีบาวด์ โดยสัญญาส่งมอบส.ค.เพิ่ม 5.5 ดอลลาร์ มาปิดที่ 1173.6 ดอลลาร์/บาร์เรล
ปัจจัยในประเทศและหุ้นเด่น
• สภาธุรกิจตลาดทุนไทยเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ลงทุนใน 3เดือนข้างหน้าลดลง 14.17%MoM เป็น 88.16 (สำรวจในเดือนมิ.ย.) อย่างไรก็ดี ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติกระเตื้องขึ้นเป็น100 จาก 76.92 ในเดือนก่อนหน้า
สำหรับ กลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าลงทุนในมุมมองนักลงทุนรายบุคคล คือรับเหมาก่อสร้าง ของมุมมองบล.เห็นว่ากลุ่มปิโตรเคมีน่าสนใจมากที่สุด ส่วนกลุ่มสถาบันต่างประเทศชอบหุ้นกลุ่มพลังงานมากที่สุดด้านนักลงทุนสถาบันในประเทศเห็นว่ากลุ่มปิโตรเคมีน่าลงทุนมากที่สุดส่วนกลุ่มที่ไม่น่าสนใจลงทุนในช่วง 3 เดือนข้างหน้าในมุมมองของนักลงทุนรายบุคคล บล. และสถาบันต่างประเทศ คือ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ส่วนสถาบันในประเทศมองว่ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ไม่น่าสนใจลงทุนมากที่สุด
• กบง.ตรึงราคาขาย LPG เดือนมิ.ย.58 ไว้ที่ 23.96 บาท/กก.แม้ว่าต้นทุนจะลดลง 0.32 บาท/กก. แต่ขอดึงส่วนเกินนี้เข้ากองทุนน้ำมันไว้ดูแลเสถียรภาพราคาเมื่อจำเป็น
• กลุ่มธนาคารพาณิชย์ : คลังไม่ยอมรับข้อเสนอธ.พ.เรื่องการเพิ่มค้ำประกันของบสย. ล่าสุดมีข่าวว่ารมว.คลังไม่ยอมรับข้อเสนอธ.พ.ที่ให้บสย.เพิ่มสัดส่วนการรับประกันกรณีเกิดหนี้เสียในโครงการปล่อยสินเชื่อผ่านการค้ำประกันของบสย.จาก 18% เป็น30% เพื่อช่วยเหลือธุรกิจ SME ในทุกกรณี แต่อาจให้เฉพาะกรณีพิเศษ เช่น ผู้ประกอบการเกิดปัญหาจากภัยพิบัติ เป็นต้น โดยแนะให้ธ.พ.ทำประกันความเสี่ยงเพิ่มเติม เช่น TMB ที่ได้ทำประกันความเสี่ยงเพิ่มกับบรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ เป็นต้น
- ติดตามปัญหาภัยแล้ง โดยขณะนี้กรมชลประทานพบว่าปริมาณน้ำในเขื่อนลดลงมาก หากฝนไม่ตกอีกจะมีน้ำเหลือใช้เพียง 10-20วันเท่านั้น ทำให้เกษตรกรควรลดหรือชะลอการเพาะปลูกไปก่อนเพราะต้องสำรองน้ำไว้สำหรับการอุปโภคบริโภคก่อนความเห็น Retail Research : หากปัญหาภัยแล้งมีความรุนแรงก็จะกระทบกับเศรษฐกิจในต่างจังหวัดมาก โดยทำให้กำลังซื้อชะลอตัวลงและปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนจะกดดันมากขึ้น การฟื้นตัวของการบริโภคจะล่าช้าออกไป แต่ในขณะเดียวกันธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลธุรกิจรับจำนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และธุรกิจแฟคตอริ่งคาดว่าจะคึกคักต่อไป หุ้นเทคนิคเด่นในกลุ่มนี้เป็น GL, LIT เป็นต้น
• จับธุรกิจทีวีดิจิตอล...ในที่สุดจะเหลือผู้รอดกี่ราย เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาทำให้ปริมาณการใช้โฆษณาและการปรับขึ้นอัตราการโฆษณาทำได้อย่างจำกัด ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานหลายอย่างของธุรกิจได้ถูก Fixed ไว้แล้ว เช่น ค่าใบอนุญาต, ค่าเสื่อมเงินลงทุน, ค่าใช้จ่ายพนักงานและเจ้าหน้าที่ที่ได้มีการซื้อตัวมาก่อนหน้านี้ ฯลฯ ซึ่งทำให้ธุรกิจทีวีดิจิตอลประสบปัญหาขาดทุน อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการบางรายที่มีความโดดเด่นเรื่อง Content และมี Rating สูง รวมถึงมีสายป่านยาวก็ยังประกอบการต่อและเชื่อว่าจะรอดพ้นช่วงวิกฤตนี้ไปได้ สิ่งที่อาจจะตามมาคือการควบรวมกิจการ อย่างไรก็ตาม ในประเด็นนี้มีข้อถกเถียงว่าอาจนำไปสู่การผูกขาดด้านสื่อจากกลุ่มทุนขนาดใหญ่ ซึ่งก็ต้องรอดูการตัดสินใจของกสทช.ต่อไป สำหรับบริษัทที่เราคาดว่าจะเดินหน้าต่อไปได้เพราะมีฐานของ Content ที่ดี เช่น BEC, MCOT,WORK, RS, GRAMMY, ช่อง 7, Exact เป็นต้น อย่างไรก็ตามในช่วง 12 เดือนข้างหน้าก็อาจต้องประสบผลขาดทุนจากธุรกิจทีวีดิจิตอลไปก่อน
- AOT : อาจถูกระทบจากมาตรการช่วยเหลือแท็กซี่สนามบินโดยก.คมนาคมมีการศึกษาเรื่องการเก็บเพิ่มค่าธรรมเนียมแท็กซี่สนามบินจาก 50 บาทเป็น 75 บาท และส่วนของรถแวนปรับเพิ่มจาก70 บาทเป็น 95 บาท โดยส่วนต่างที่เพิ่มจะให้ AOT เป็นผู้จ่ายแทนผู้ใช้บริการ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังไม่ได้สรุปว่าจะดำเนินการ แต่หากเกิดขึ้นจริงก็จะมีผลกระทบทางลบกับ AOT เพราะจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น