- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 08 June 2015 17:11
- Hits: 1129
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ ฟื้นตัวต่อเนื่องจากวันก่อนหน้า กลับมายืนเหนือ 1,500 จุดได้อย่างแข็งแกร่ง นำโดยกลุ่มธนาคาร / อสังหาฯ / ปิโตรเคมี แม้ว่าบรรยากาศรอบเอเชียและยุโรป ถูกกดดันจากกรณีกรีซขอยืดการชำระหนี้ IMF ชุดแรกของเดือนมิ.ย. ไปรวมยอดในช่วงปลายเดือนแทน ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,507.37 จุด บวกเป็นวันที่ 2 อีก 16.47 จุด มูลค่าการซื้อขาย 40,482 ล้านบาท
กระแสเงินทุนต่างชาติเป็นลบเป็นวันที่ 2 ขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 7 อีก 786 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 อีก 1,615 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อก 4,364 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
• ภาวะการจ้างงานสหรัฐฯ ไม่ชัดเจน อัตราการว่างงานโดยรวมเพิ่มเป็น 5.5% จาก 5.4% แต่การจ้างงานนอกภาคการเกษตรกลับเพิ่มมากกว่าคาด
• ค่าเงินบาท และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย เริ่มทรงตัว เพื่อรอดูผลการประชุม กนง. วันที่ 10 มิ.ย.
• ติดตามตัวเลขการส่งออก – นำเข้าเดือนพ.ค.ของจีน Bloomberg consensus คาดส่งออก -3.7% yoy เทียบกับเดือนก่อนหน้า -6.4% yoy
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองเป็น “กลาง” วันที่ 49 ถึงแม้ว่า SET INDEX กลับมายืนเหนือ 1,500 จุดวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่มูลค่าการซื้อขายยังคงเบาบาง ทำให้เราประเมินว่า SET INDEX ที่ฟื้นตัวเป็นเพียง technical rebound ช่วงสั้นๆ เท่านั้น เพราะปัจจัยพื้นฐานด้านเศรษฐกิจยังมีความเปราะบางอยู่มาก พร้อมแนะนำให้นักลงทุนรอฟังความเห็นทางเศรษฐกิจ จาก ธปท. ในวันที่ 10 มิ.ย. เพื่อประเมินช่วงที่เหลือของปีนี้ เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ถึง 3.0-3.5% ตามที่ประเมินไว้ได้หรือไม่
ขณะที่การว่างงานสหรัฐฯ โดยรวมกลับขยับขึ้นเป็น 5.5% จากเดือนก่อนหน้า 5.4% แม้การจ้างงานนอกภาคการเกษตรจะเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด แต่การจ้างงานโดยรวมยังไม่เสถียรภาพ อาจกลายเป็นโจทย์สำคัญที่เฟดจะใช้เป็นประเด็นในการพิจารณาคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อไปอีกระยะหนึ่ง นักลงทุนควรติดตามการประชุม เฟด วันที่ 16-17 มิ.ย. เพื่อประเมินช่วงเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย พร้อมติดตามการเคลื่อนไหวผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
และสถานการณ์กรีซ ยังไม่ได้ข้อสรุปอีกเช่นกัน ทั้งกรีซ และเจ้าหนี้ อียู / ECB / IMF อยู่ระหว่างการเจรจาต่อเนื่อง
เมื่อกลุ่มธนาคารฟื้นตัว 2.80% ในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมา อาจสะท้อนว่าตลาดคาดกนง.มีโอกาสคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 10 มิ.ย. ดังนั้น หากคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด โอกาสที่จะเกิดแรงขายเพื่อสะท้อนผล (Sell on Fact) ก็มีความเป็นไปได้ แต่หากกนง.สร้างความประหลาดใจกับตลาดด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ย่อมเป็นแรงกดดันต่อกลุ่มธนาคารเช่นกัน ดังนั้น นักลงทุนที่เข้าเก็งกำไรในกลุ่มธนาคารก่อนหน้า อาจเริ่มทยอยขายทำกำไรในช่วง 1-3 วันนี้ เพื่อปิดความเสี่ยงช่วงสั้น
แม้ภาพรวม เรายังคงให้น้ำหนักกับการประชุมกนง.วันที่ 10 มิ.ย. เป็นตัวกำหนดทิศทางกระแสเงินทุนต่างชาติ และภาพรวมของกลุ่มธนาคาร ณ ปัจจุบัน Bloomberg consensus คาด กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ย RP1 วัน ที่ 1.50% ปัจจัยดังกล่าว มีส่วนทำให้ SET INDEX กลับมายืนเหนือ 1,500 จุดตามคาด แต่ Upside gain เริ่มจำกัด เรามองแนวต้าน 1,510-1,515 จุด จะยังไม่ผ่านในช่วงนี้ เพราะขาดแรงส่ง และมูลค่าการซื้อขายที่ยังไม่หนาแน่น
เช้านี้ตลาดหุ้นเอเชีย (7.32 น.) Nikkei เปิดบวก เมื่อ GDP ใน 1Q58 ออกมาดีกว่าคาด ส่วน Kospi ปรับตัวลงเล็กน้อย
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ “นักลงทุนเลือกเก็งกำไรหุ้นเป้าหมาย แบบจำกัดวงเงิน และพร้อมขายทำกำไร เมื่อผลตอบแทน 5% +/- ในแต่ละรอบ” ภายใต้ภาพ SET INDEX ที่ยังมีความเปราะบาง
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ได้แก่
1. TMB : ราคาปิด 2.58 บาท ราคาเหมาะสม 3.00 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มธนาคารจะฟื้นตัวต่อเนื่องในวันนี้ หลัง KBANK, SCB ปรับขึ้นนำกลุ่มตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จากแรงเก็งกำไรผลการประชุม กนง.ในวันพุธหน้า
b) คาดว่าหากกนง.คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5% จะช่วยผ่อนคลายความกังวลต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร เนื่องจากจะส่งผลให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยไม่ลดลงมากอย่างที่ตลาดกังวล
c) คงมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของผลประกอบการใน 2H58 และเชื่อว่ากำไรสุทธิที่ชะลอตัวลง qoq ใน 2Q58 ได้สะท้อนในราคาหุ้นแล้ว โดย YTD หุ้นกลุ่มธนาคาร -13.3% เทียบกับ SET INDEX -0.5%
d) จุดเด่นของ TMB อยู่ที่การขยายตัวของรายได้ค่าธรรมเนียมที่เติบโตต่อเนื่องในระดับ 10-15% yoy และมี Coverage Ratio สูงถึง 150% รวมทั้งคาดว่า 2Q58 จะเด่นสุด qoq เมื่อเทียบกับหุ้นที่เหลือในกลุ่มธนาคาร
e) และเชื่อว่าแผนการลดสัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลังในบริษัทจดทะเบียนและรัฐวิสาหกิจ อาจเป็นประเด็นเก็งกำไรต่อหุ้น TMB ได้ในอนาคต เนื่องจากราคาปัจจุบันต่ำกว่าต้นทุนของกระทรวงการคลังที่ราว 3.50 บาทต่อหุ้น
2. IFEC : ราคาปิด 12.50 บาท ราคาเหมาะสม 18.00 บาท
a) MBKET คงมุมมองเชิงบวกหลังเข้าพบผู้บริหาร IFEC ในวันศุกร์ที่ผ่านมา และโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมแห่งแรก จำนวน 10MW ที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช มีความคืบหน้าในการก่อสร้างไปมากแล้ว โดยฐานรากทั้ง 4 จุดพร้อมที่จะประกอบกังหันลมของ GoldWind แล้ว โดยคาดว่าจะติดตั้งเสร็จสิ้นภายในเดือนนี้ และเริ่มจ่ายไฟได้ในเดือน ก.ย.2558
b) คาดหุ้นกลุ่มพลังงานทดแทนจะ Outperform ตลาดในเดือน ก.ค. จากการเปิดประมูลโครงการโซลาร์ฟาร์มของภาครัฐฯ จำนวน 800 MW
c) ฐานกำไรใน 2H58 จะยกตัวขึ้นจากการรับรู้รายได้โครงการโซลาร์ฟาร์มในกัมพูชาแห่งแรกจำนวน 20 MW พร้อมทั้งโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมแห่งแรกที่ปากพนัง
d) คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +238% yoy เป็น 459 ล้านบาท และ +282% yoy เป็น 1,753 ล้านบาท ในปี 2559 และจะขึ้น XW สัดส่วน 4 หุ้นเดิมต่อ 1 Warrant ในวันที่ 25 มิ.ย