- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 05 June 2015 17:48
- Hits: 1237
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
"ซื้อตามค่าบวก...SET ไม่ยืนเหนือ 1500 ขายก่อน"
Stock Picks-June 2015 : Fundamental : CK, GL, KBANK, PLANB, TTCL
Dark Horse: BJCHI, MCS
Fundamental Pick -Today: AP (ดู Theme การลงทุนในหน้า 2)
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, INTUCH, BTS, DCC, DELTA, DTAC, AP, QH, SPALI, SRICHA, MODERN, TISCO, TMT, BTSGIF, JASIF, CPNRF, TRUEIF
Shot Sell-Prev : TDEX 56%, KTIS 39%, PSL 34%, ROBINS 20%, M 19%
Technical View ภาพระยะสั้นเป็นบวกเล็กๆ
Support Resistance Stop loss
SET 1470-1460 1500-1510 ค่าลบ
SET50 970,950 990-1000 ค่าลบ
Technical Picks- Today : ITD, GL, STPI, TPIPL, BRR, BH, STAR, LIT
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ปรับขึ้นจากการกลับมาซื้อของนักลงทุนสถาบันในประเทศ อย่างไรก็ตาม ดัชนียังไม่แข็งแกร่ง แนวต้านจิตวิทยาระยะสั้นที่ต้องฝ่าขึ้นไปและยืนเหนือคือ 1500 จุด นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเกือบ 1.7 พันล้านบาท
วันนี้ Sentiment เป็นลบเล็กๆ จากความกังวลปัญหาหนี้กรีซ ซึ่งทาง IMF ให้กรีซเลื่อนชำระหนี้งวด 5 มิ.ย.ออกไปก่อน และให้รวบหนี้ 4 ก้อนที่ครบกำหนดชำระเดือนมิ.ย.นี้ไปชำระภายใน 30 มิ.ย.58 เนื่องจากกรีซยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงแผนปฎิรูปกับเจ้าหนี้ ขณะเดียวกัน IMF ก็ปรับลดคาดการณ์ GDP Growth ของสหรัฐปีนี้ลงอย่างมีนัยสำคัญจาก 3.1% เป็น 2.5% ด้วย ด้านในประเทศก็ไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระตุ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ยังสามารถเลือกซื้อเก็งกำไรเป็นรายบริษัทได้อยู่ หุ้นที่คาดว่าจะมี Catalyst ระยะสั้นได้แก่ AP (เปิดขายโครงการใหม่ 6 แห่งในเดือนมิ.ย.), STPI (คาดกำไร 2Q58 แข็งแกร่งจากค่าเร่งงาน+มีโอกาสชนะประมูลงานใหม่ใน 3Q58), GL (กำไรโตก้าวกระโดดจากธุรกิจในกัมพูชา) เป็นต้น ปัจจัยจับตา คือ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.58 ของสหรัฐที่จะออกมาในคืนนี้ (เวลาไทย) กลยุทธ์การลงทุน ยังคงเป็นเลือกซื้อรายบริษัท หุ้นแนะนำซื้อวันนี้เป็น AP
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้นมากสัญญาณเป็นบวกเล็กๆ แต่ยังไม่ทิ้งความเสี่ยงที่จะลงต่ำอีกรอบ กรอบแนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 1500-1510 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไรตามด้วยค่าบวก ค่าลบดูไม่ดี แนะนำให้ Wait & See หรือลดพอร์ตตาม สำหรับแนวเด้งของ SET อยู่ที่ 1470-1460 จุด สำหรับการ SCAN หาหุ้นมีสัญญาณบวกทางเทคนิคหรือมีโอกาสทำ New high พบว่าหุ้นที่น่าสนใจ คือ STPI, UNIQ, BRR, BH, STAR
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
- กรีซ : เลื่อนการชำระหนี้รอบ 5 มิ.ย.ออกไป ล่าสุดทาง IMF กล่าวว่าจะรวมหนี้ที่ครบชำระ 4 ก้อนที่ครบกำหนดชำระในเดือนมิ.ย.58 เป็นก้อนเดียวมูลค่า 1.6 พันล้านยูโรแล้วให้กรีซชำระภายใน 30 มิ.ย.58 ซึ่งเป็นการเลื่อนชำระหนี้ครบกำหนดครั้งแรกของกรีซในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่มีวิกฤตการเงิน ทั้งนี้เพราะแผนปฎิรูปเบ็ดเสร็จของกรีซและข้อเสนอของเจ้าหนี้ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้
- สหรัฐ : IMF ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ GDP ปี 58 สหรัฐลงสู่ระดับ 2.5% (เดิม 3.1%) เพราะปัจจัยลบหลายประการ เช่น การแข็งค่าของดอลลาร์ และสภาพอากาศที่เลวร้าย ซึ่งส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการจ้างงาน
/+ สหรัฐ : IMF แนะนำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปเป็นปี 59 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงซบเซา
สหรัฐ : คืนวันนี้ (5 มิ.ย.58) ติดตามดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค. & อัตราการว่างงานเดือนพ.ค. ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะทรงตัวที่ 5.4% และการจ้างงานเพิ่มขึ้นราว 2.13 แสนตำแหน่ง รวมถึงตัวเลขสินเชื่อผู้บริโภคเดือนเม.ย.58 ด้วย
- ราคาน้ำมันดิบร่วงต่อ...คาดปริมาณการผลิตของกลุ่มโอเปกไม่เปลี่ยนแปลง โดยสัญญา WTI & BRENT ส่งมอบก.ค.58 ลดลง 1.64 และ 1.77 ดอลลาร์ ปิดที่ 58.00 และ 62.03 ดอลลาร์/บาร์เรล นักลงทุนคาดว่ากลุ่มโอเปกจะไม่เปลี่ยนแปลงปริมาณการผลิตในการประชุมวันนี้ โดยตรึงไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะต้นทุนเฉลี่ยของบ่อน้ำมันกลุ่มโอเปกอยู่ต่ำกว่ากลุ่มผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก และต่ำกว่าต้นทุนการผลิตน้ำมันจาก Shale oil ของสหรัฐ & บ่อน้ำมันใหม่ในเวเนซูเอล่าและแคนาดาอย่างมาก
-/ ตลาดหุ้นสหรัฐดิ่ง : กังวลหนี้กรีซ & IMF ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐ โดยดัชนี DJIA -0.94% (-170.69 จุด) ดัชนี Nasdaq -0.79% และดัชนี S&P500 -0.86% แต่แรงกดดันเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะผ่อนคลายลง หลัง IMF และนักเศรษฐศาสตร์มากรายขึ้น แสดงความเห็นว่าเฟดยังไม่ควรรีบปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยน่าจะไปเริ่มปรับขึ้นตั้งแต่ต้นปี 59
ปัจจัยในประเทศและหุ้นเด่น
AP : เปิดขายโครงการคอนโด 6 แห่งเดือนมิ.ย.58...หนุนยอดขาย Presales พุ่ง ซึ่งประกอบด้วย โครงการ Rhythm รางน้ำ (385 ยูนิต มูลค่า 2.5 พันล้านบาท) โครงการ Life อโศก (1,642 ยูนิต มูลค่า 6.3 พันล้านบาท) โดย 2 โครงการนี้เป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัทกับมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (AP ถือ 51%) และอีก 4 โครงการเป็นของบริษัทมูลค่ารวม 7.2 พันล้านบาท ในเบื้องต้นโครงการ JV ได้รับการตอบรับดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการ Rhythm รางน้ำ ที่คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้เร็ว เนื่องจากทำเลดีใกล้ BTS สถานีอนุเสาวรีย์ชัยฯ (ประมาณ 100 เมตร) สำหรับยอด Presales 4M58 ของบริษัทอยู่ที่ 5.4 พันล้านบาท คาดว่าเมื่อจบเดือนมิ.ย.58 จะเพิ่มขึ้นอีกมากจากโครงการที่เปิดตัวถึง 6 โครงการในทำเลดี เราเชื่อว่าบริษัทจะสามารถบรรลุเป้าหมายยอดขาย Presales ที่ 2.8 หมื่นล้านบาทในปีนี้ได้
Valuation จูงใจ ณ ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ P/E ปีนี้ที่ 7.5 เท่า คิดเป็น PEG 0.6 เท่า โดยคาดการณ์ EPS Growth ปีนี้อยู่ที่ 12% และปี 59 เท่ากับ 11% ส่วน Dividend Yield ก็อยู่ในเกณฑ์ดีมากที่ 4.7% ปีนี้และ 5.2% ในปี 58 แนะนำซื้อ ให้เป็นหนึ่งใน Top Pick ของกลุ่มที่พักอาศัย ราคาพื้นฐาน 8.80 บาท อิงกับ P/E ปี 58 ที่ 9.5 เท่า
กลุ่มที่พักอาศัย : P/E, PEG และ EPS Growth
P/E EPS Growth PEG
AP 7.5 11.9 0.6
LH 14.4 -21.3 -0.7
LPN 8.5 42.5 0.2
PF 13.7 6.0 2.3
PS 8.1 -1.3 -6.2
QH 7.3 -2.8 -2.6
RML 5.6 -8.8 -0.6
SC 8.0 -4.8 -1.7
SIRI 8.8 -36.4 -0.2
SPALI 6.4 8.0 0.8
Avg 8.8 nm nm
ที่มา : DBS Vickers