- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 04 June 2015 17:16
- Hits: 1007
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ โดย ยศพณ แสงนิล, CFA : ระยะสั้นยังเป็นขาลง
แนวโน้มตลาดไทยวันนี้โดยรวมยังคงเป็นขาลง โดยประเด็นกดดันคือเรื่องการเจรจาหนี้ของกรีซซึ่งยังไม่มีทางออกที่ชัดเจน ประกอบกับนักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า OPEC จะยังไม่ตัดสินใจที่จะลดกำลังการผลิตในการประชุมวันพรุ่งนี้ จึงทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานได้ ส่วนหุ้นกลุ่มแบงก์เริ่มทรงตัวได้เมื่อวาน แต่ก็ยังไม่มีปัจจัยเข้ามาสนับสนุนและเสี่ยงต่อการถูกปรับลดประมาณการณ์โดยโบรคต่างชาติได้อีก อย่างไรก็ตาม เราแนะนำบริเวณ 1480 ให้เริ่มเข้าสะสมหุ้นที่แนะนำและเล่นสั้น โดยคาดว่าตลาดมี downside จำกัดและหลังการประชุม กนง.ในสัปดาห์หน้าตลาดไทยจะมีโอกาส rebound ขึ้นได้บ้าง ประกอบกับอาจมี window dressing ช่วงปลายเดือนให้นักลงทุนขายหุ้นทำกำไรได้
แนวรับ/แนวต้าน : 1460/1500
กลยุทธ์ : ช่วงนี้นักลงทุนควรหลีกเลี่ยงหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคภายในประเทศ เนื่องจากการฟื้นตัวของการส่งออกและเศรษฐกิจไทยยังไม่มีความแน่นอน แนะนำรอจังหวะดัชนีเข้าใกล้ 1480 เก็บหุ้นกลุ่มพลังงาน สื่อสารที่ให้ปันผลสูงตลอดจนกลุ่มโรงพยาบาลและท่องเที่ยวที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มค่าเงินบาทอ่อนค่า
สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
นักลงทุนระยะสั้น : TH(2.90), SPCG(33)
นักลงทุนระยะยาว : SEAFCO(13.50), CENTEL(45)
จับข่าวมาเก็งกำไร
EPG : นายภวัฒน์ วิทูรปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เผยว่า บริษัทยังเป้ารายได้ในปี 2559 (เม.ย. 2558-มี.ค. 2559) จะมีรายได้ประมาณ 9,000 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 25-30% จากปี 2558 (เม.ย. 2557-มี.ค. 2558) ที่มีรายได้อยู่ที่ 7,184 ล้านบาท โดยการเติบโตจะมาจาก 3 ธุรกิจ ได้แก่ บริษัท แอร์โรเฟกว์ จำกัด คาดจะเติบโตราว 7-10% บริษัท แอร์โรคลาส จำกัด คาดจะเติบโตราย 20-30% และบริษัท อีสเทิร์น โพลีแพค จำกัด ที่คาดว่าจะเติบโตราว 7-10% ด้านแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1/59 (เม.ย.-มิ.ย. 2558) น่าจะเติบโตกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า เพราะเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว รวมถึงคำสั่งซื้อและผลิตที่เข้ามามาก (ข่าวหุ้น)
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุน
ปัจจัยภายในประเทศ
+ เวิลด์แบงก์คงเป้าจีดีพีไทยในปีนี้ ขยายตัว 3.5% ส่งออกโต 0.5% ฟื้นตัวครึ่งปีหลังจากเศรษฐกิจสหรัฐ-ยุโรป ชี้ปัญหาส่งออกโตต่ำกว่าศักยภาพ จากขีดความสามารถการแข่งขัน แนะเร่งยกระดับการศึกษารับเศรษฐกิจยุคใหม่ สร้างความเข้มแข็งระยะยาว ด้านนายกรัฐมนตรี มอบนโยบายปลัดทุกกระทรวงเร่งแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำยอมรับไม่สามารถทำให้ทุกคนเท่าเทียมแต่ต้องเป็นธรรมในการเข้าถึงทรัพยากร-กฎหมาย ด้านปลัดกระทรวงคลัง เตรียมจัดมหกรรมการเงินทั่วประเทศ นำแบงก์รัฐและผู้ประกอบธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ร่วมปล่อยกู้รากหญ้า ปลายเดือนนี้
ปัจจัยต่างประเทศ
+ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,076.27 จุด เพิ่มขึ้น 64.33 จุด หรือ +0.36%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 มิ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ค. และยอดขาดดุลการค้าที่ลดลงมากที่สุดในรอบ 6 ปี
+ สัญญาน้ำมันดิบ ส่งมอบเดือน ก.ค.ลดลง 1.62 ดอลลาร์ ปิดที่ 59.64 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (3 มิ.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่สมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ยังไม่ออกมาส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับลดโควต้าการผลิตน้ำมันในการประชุมวันศุกร์นี้
นักวิเคราะห์ : ยศพณ แสงนิล, CFA Email : [email protected] Tel: 02 659 8154