WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FSS copyบล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

แม้ SET ยังบวกต่อได้แต่คาดมีกรอบจำกัด ดังนั้นเน้นขายบวก!!

  กลยุทธ์ : แม้ว่า SET จะอยู่ในช่วงรีบาวด์กลับเป็นบวก แต่ปัจจัยลบทั้งในและต่างประเทศยังคงกดดันอยู่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ FSS คาดว่ากรอบการรีบาวด์ของ SET ช่วงนี้จะมีค่อนข้างจำกัด และยังเสี่ยงต่อการกลับไปปรับตัวลงต่อได้อีก ดังนั้นถ้าเลือกหุ้นเข้าซื้อช่วงลบก็ต้องเน้นเป็นเทรดดิ้งสั้นตามรอบ โดยแนะนำให้ทยอยขายลดพอร์ตลงในช่วงบวกไว้ก่อนดีกว่า


  หุ้นเด่นทางเทคนิค : SINGER, TSE, DELTA(short)
  แนวโน้ม : SET เริ่มมีจังหวะรีบาวด์กลับมาแกว่งด้านบวกอีกครั้ง หลังจากช่วงที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวลงมาค่อนข้างเร็วและลึกพอควรแล้ว ประกอบกับบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศก็เริ่มสดใสมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปเมื่อคืนนี้สามารถขยับกลับมาปิดบวก หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐออกมาแข็งแกร่ง รวมถึงตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือน พ.ค. ที่ประกาศเมื่อคืนนี้ก็เพิ่มขึ้นเกินคาด นอกจากนี้ประธาน ECB ยังยืนยันหลังการประชุมว่า ECB จะเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ต่อไปจนเสร็จสิ้นโครงการในเดือน ก.ย. ปีหน้าด้วย ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ยังสามารถเปิดบวกกันได้อยู่ ทำให้ FSS ยังคาดว่า SET ยังมีลุ้นโอกาสรีบาวด์ขึ้นต่อเนื่องได้อีก อย่างไรก็ตามยังต้องรอดูผลการเจรจาเพื่อผ่อนคลายปัญหาหนี้ของกรีซกับกลุ่มเจ้าหนี้ด้วย เพราะเข้าใกล้กำหนดชำระหนี้กับ IMF ในวันพรุ่งนี้(5 มิ.ย.) แล้วแต่ยังไม่มีข้อสรุปออกมา รวมทั้งคาดว่านักลงทุนยังรอติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในคืนวันพรุ่งนี้ด้วย ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจไทยก็ยังเป็นประเด็นกดดันความมั่นใจในตลาดหุ้นไทยอยู่ ดังนั้นในจังหวะบวกต้องระวังแรงขายทำกำไรลดความเสี่ยงออกมากดดันด้วย
  แนวรับ 1480-1476 , 1470-1460 จุด
  แนวต้าน 1487-1490 , 1494-1496 จุด
  Fund Flow วานนี้ยังไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาคในปริมาณที่เบาบาง โดยขายสุทธิในตลาดหุ้นไต้หวัน US$104.4 ล้าน อินโดนีเซีย US$39.5 ล้าน ไทย US$25.1 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$23.9 ล้าน และเวียดนาม US$4.4 ล้าน แต่ซื้อเกาหลีใต้ US$168.6 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง Flow น่าจะเบาบางต่อเนื่อง

 

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
  (0) ECB คงนโยบายการเงินตามเดิม ประธาน ECB ตอกย้ำการคงวงเงิน QE (ในการซื้อพันธบัตร) เท่าเดิมคือ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน (US$6.7 หมื่นล้าน/เดือน) แม้จะปรับอัตราเงินเฟ้อขึ้น (เป็น 0.3% ในปีนี้) เพราะเศรษฐกิจเริ่มมีสัญญาณดีขึ้น แต่ยังไกลเกินกว่าจะยกเลิก QE ในส่วนของดอกเบี้ย ECB คงอัตราดอกเบี้ย 0.05% ตามเดิม และกล่าวว่าต้องการให้กรีซอยู่ในยูโรโซนต่อไปแต่ต้องปฎิบัติตามเงื่อนไขอย่างเคร่งครัด เราเชื่อว่าเจ้าหนี้-ลูกหนี้จะตกลงกันได้ในที่สุด และกรีซจะไม่ออกจากยูโรโซนเพราะคนที่เจ็บตัวคือเจ้าหนี้เอง แม้จะผ่านเรื่องกรีซไป แต่ตลาดหุ้นไทยยังไม่พ้นความเสี่ยงจากเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอ
  (0) ราคาน้ำมันมีแนวโน้มแกว่งในกรอบ US$50-70 การประชุมศุกร์นี้ คาดว่ากลุ่ม OPEC จะตรึงการผลิตน้ำมันที่ 30 ล้านบาร์เรล/วัน เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด ขณะที่การผลิตน้ำมันจาก Shale ของสหรัฐคงข้างคงที่ที่ 9.5 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งทำให้ตลาดอยู่ในภาวะ Oversupply อยู่แล้ว ราคาน้ำมันในระยะสั้นขยับลงแต่เชื่อว่าในระยะกลางราคาน้ำมันทั้ง WTI และ Brent จะแกว่งในกรอบ US$50-70
  (-) MONO แนวโน้ม 2Q15 จะขาดทุนมากต่อจากไตรมาสก่อน เพราะมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับปรับโครงสร้างธุรกิจ ในส่วนของธุรกิจทีวีดิจิตอลคาดว่าจะขาดทุนลดลงจากการเพิ่มขึ้นของอัตราการใช้เวลาโฆษณาและค่าโฆษณา และคาดว่าจะเริ่มมีกำไรใน 4Q15 เราปรับประมาณการปี 2015 ลงเป็นขาดทุน 54 ล้านบาท จากเดิมกำไร 280 ล้านบาท และปรับกำไรปี 2016 ลง 60% เป็น 190 ล้านบาท ปรับราคาเป้าหมายปีนี้ลงเหลือ 3.60 บาท จากเดิม 5.25 บาท คงแนะนำถือเพราะราคาหุ้นสะท้อนข่าวลบไปมากแล้ว
  (-) STA ราคาหุ้นปรับขึ้นแรงมากตามราคายางพาราในตลาด SICOM ที่ปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 9 เดือน แต่เชื่อว่าเป็นเหตุการณ์ชั่วคราว เพราะ Supply ที่ทำจุดสูงสุดใหม่ ทำให้ตลาดยังอยู่ในภาวะ Oversupply ขณะที่อุปสงค์จากจีน (ใช้ยางมากที่สุด 40% ของปริมาณการใช้ยางทั้งโลก) ยังฟื้นตัวไม่ชัดเจน การนำเข้ายางพาราของจีนในช่วงนี้เป็นเพราะสต็อกที่อยู่ในระดับต่ำมานาน เป็นเวลาเดียวกับมีการเลื่อนเปิดหน้ายางของชาวสวนไทย (supply ออกสู่ตลาดน้อย) ทำให้มีการเก็งกำไรราคายางพารา ราคายางพาราในตลาด SICOM ปัจจุบันอยู่ในระดับสูงกว่าต้นทุนวัตถุดิบของ STA เพียงเล็กน้อย แต่ไม่สูงพอที่จะทำให้มีกำไรได้ เราแนะนำขาย STA ราคาเป้าหมาย 11 บาท

  ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนบวกโดยได้รับแรงจากตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง แต่อย่างไรก็ตามยังต้องจับตาการเจรจาเรื่องปัญหาหนี้ของกรีซ
  ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนบวกได้เช่นกันหลัง ECB ยังดำเนินมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องทั้งการซื้อพันธบัตรรวมถึงคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง
  ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวผสมในกรอบแคบโดยตลาดยังให้น้ำหนักต่อการเจรจาปัญหาหนี้ของกรีซว่าจะชำระหนี้แก่ IMF ทันเส้นตายหรือไม่
  ค่าเงินบาทแกว่งตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 33.58-33.70 บาท/ดอลลาร์
  ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ค. ปิดที่ 59.64 เหรียญ/บาร์เรล ลดลง 1.62 ดอลลาร์/บาร์เรล แม้ตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 5 แต่ตลาดยังกังวลต่อการประชุม OPEC ศุกร์นี้ที่ยังไม่มีทีท่าปรับลดโควต้าการผลิตน้ำมัน
  ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดที่ 1,184.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 9.50 เหรียญ/ออนซ์ หลังตัวเลขเศรษฐกิจด้านการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯออกมาแข็งแกร่งรวมถึงคาดการณ์ที่ว่ากรีซจะสามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องหนี้ได้

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

4 มิ.ย. - ไทย:ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (พ.ค.)
- เกาหลีใต้: 1Q15 GDP
- สหรัฐ: รายงาน Beige Book
- อังกฤษ: BOEประชุม
5 มิ.ย. - สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตร (พ.ค.) (ตลาดคาดเพิ่ม 2.23 แสนราย เท่ากับเดือนก่อน),อัตราการว่างงาน (ตลาดคาดคงที่ที 5.4%)
- ยูโรโซน: 1Q15 GDP
- กรีซ: ครบกำหนดการชำระหนี้ให้ IMF 309 ล้านยูโร
- การประชุม OPEC
8 มิ.ย. - ญี่ปุ่น: 1Q15 GDP
- จีน:ดุลการค้า (พ.ค.)
9 มิ.ย. - จีน:อัตราเงินเฟ้อ (พ.ค.)
10 มิ.ย. - ไทย: กนง.ประชุม
- จีน: ยอดสินเชื่อเดือน พ.ค.
11 มิ.ย. - จีน: ยอดค้าปลีก, Industrial production (พ.ค.)
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BOK) ประชุม
Contact person : Somchai Anektaweepon 
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!