WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET73โบรกฯ คาดพรุ่งนี้ SET บวกต่อ เชื่อดัชนีฯ จะผ่านจุดต่ำสุดในเดือนนี้ แต่ยังมีแรงขายต่างชาติ หนี้กรีซกดดัน แนะทยอยซื้อสะสม

   โบรกฯ คาดพรุ่งนี้หุ้นไทยบวกต่อ เชื่อได้แรงซื้อจากกองทุนเข้ามาช่วยพยุง ประเมิน SET จะผ่านจุดต่ำสุดในเดือนนี้ แต่อาจจะมีพักฐานลงเป็นระยะ  ขณะที่ตลาดยังมีความกังวลเรื่องแรงขายของต่างชาติ - การลงทุนภาครัฐฯล่าช้า และปัญหาหนี้กรีซ  แนะทยอยซื้อสะสม CK-STEC-ITD-TRUE-BDMS-KBANK-TMB-TCAP-MTLS-AOT-AAV ประเมินแนวรับ 1,480-1,470 จุด แนวต้าน 1,500 จุด

   นายวิวัฒน์  เตชะพูลผล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาดลูกค้าส่วนบุคคล บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัด ส่วนหนึ่งเป็นการรีบาวน์ทางเทคนิค หลังดัชนีฯ ปรับลดลงแรง จนมองว่าราคาหุ้นส่วนใหญ่ถูกมากแล้ว กลุ่มกองทุนจึงเข้าเก็บหุ้น และไม่อยากที่จะให้ดัชนีฯ ปรับลงแรงกว่านี้ จนทำให้หลายกองทุนรวมขาดทุนหนัก ซึ่งที่ผ่านมาหุ้นไทยถือว่าปรับตัวลงแรงสุดในภูมิภาคเอเชีย อีกทั้งยังมองว่าดัชนีฯ ตอบรับปัจจัยลบต่าง ๆ ไปพอสมควร

  ขณะที่ปัจจัยกดดันบรรยากาศการลงทุนอย่างกรณีปัญหาหนี้กรีซที่ยังยืดเยื้อต่อเนื่อง มองว่ายังคงกดดันบรรยากาศการลงทุนทุกสัปดาห์ต่อไปอีก 2 เดือน และถือว่าเป็นเพียงปัจจัยที่มักจะนำมาอ้างในวันที่ดัชนีฯ ปรับลดลงเท่านั้น เพราะตลาดฯ รับรู้ปัญหาดังกล่าวมาโดยตลอด

   สำหรับ พรุ่งนี้ คาดว่าหุ้นไทยแกว่งบวกต่อ ด้วยแรงซื้อจากกองทุนที่ไม่ต้องการให้ดัชนีฯ ปรับลดลงแรงจนทำให้หลายกองทุนรวมขาดทุนหนัก อีกทั้งมองว่าในครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัว ฉะนั้น จึงคาดว่าดัชนีฯ จะผ่านจุดต่ำสุดในเดือนนี้ ซึ่งอาจจะเห็นการแกว่งย่อตัวลงอีกบ้าง แต่ไม่น่าจะหลุดต่ำกว่าแนวรับ 1,440 จุด ซึ่งหากดัชนีฯปรับลดลงทุก ๆ 20 จุด เป็นจังหวะดีที่จะหาจังหวะซื้อสะสม

   ด้านกลยุทธ์ แนะทยอยซื้อสะสม CK-STEC-ITD-TRUE-BDMS-KBANK-TMB-TCAP-MTLS-AOT-AAV พร้อมกับประเมินแนวรับ 1,480-1,470 จุด แนวต้าน 1,500 จุด

  นายยศพล แสงนิล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันนี้ ดัชนีปรับตัวในแดนบวก เป็นการรีบาวน์ตามสัญญาณทางเทคนิค (Technical rebound ) โดยได้แรงหนุนจาก ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงานกลับมาขยับเป็นบวก อีกทั้งยังมีกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ปรับตัวสูงขึ้น จากแรงซื้อเก็งกำไร หลังจากก่อนหน้านี้ปรับตัวลงติดต่อกันหลายวัน

  อย่างไรก็ตามภาพรวมตลาดยังอยู่ในช่วงขาลง เนื่องจากนักลงทุนกังวลต่อเศรษฐกิจในประเทศ -สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)ที่สูงขึ้น รวมถึงการเติบโตของสินเชื่อที่ชะลอตัว ในระบบธนาคารพาณิชย์ อีกทั้งประเด็นการชำระหนี้กรีซ ที่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน

  สำหรับ แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้ คาดว่าดัชนีฯ มีโอกาสปรับตัวลงจาก ปัญหาหนี้กรีซที่ยังไม่ได้ข้อสรุปกดดันตลาดต่อเนื่อง อาจส่งผลให้นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอความชัดเจน ด้านนักลงทุนต่างชาติยังทยอยขายสุทธิ สาเหตุจากเศรษฐกิจในประเทศที่ไม่มีทิศทางที่ชัดเจน และการลงทุนจากภาครัฐที่ล่าช้า รวมถึงภาคการส่งออกที่ยังชะลอตัว ทั้งนี้มองว่าหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์มีโอกาสกลับตัวลงต่อจากความกังวลต่อ NPL ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

  ทั้งนี้ มีปัจจัยที่ต้องติดตามคือการประชุม กลุ่มประเทศผู้ค้าน้ำมัน(โอเปก)และปัญหาหนี้กรีซกับเจ้าหนี้ที่ใกล้ถึงวันกำหนดชำระหนี้ในวันที่ 5 มิ.ย.นี้

   กลยุทธ์การลงทุน แนะถือเงินสด60%ของพอร์ต เน้นหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลหรือกลุ่มที่ได้ผลประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า พร้อมประเมินแนวรับ 1,480 จุดแนวต้าน1,500จุด หุ้นเด่น บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน)หรือ BDMS ราคาเป้าหมาย 25.50 บาท  และ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน)หรือSPCG ราคาเป้าหมาย 33 บาท

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

 

+++++++++++++++++++++++++++++++++

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!