- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 02 June 2015 17:11
- Hits: 1051
บล.กรุงศรี : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
บทวิจัยตลาดทุนกรุงศรี (Morning Brief Package)
ภาวะตลาดหุ้นวานนี้:
SET ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยและปิดตลาดที่ระดับ 1496.05 จุด (+2.44 จุด หรือ +0.16%) ซึ่งเป็นไปตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดหุ้นจีนที่ปรับตัวขึ้นแรง ในขณะที่มูลค่าการซื้อขายปรับเพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้านี้มาอยู่ที่ระดับ 39,746 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันเป็นผู้ซื้อสุทธิ 921 ล้านบาท ร่วมกับนักลงทุนรายย่อยที่ซื้อสุทธิ 293 ล้านบาท ในส่วนของบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 954 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิเป็นวันที่สามติดต่อกันที่ 260 ล้านบาท
แนวโน้มวันนี้:
เราประเมินการเพิ่มของ SET เมื่อวานนี้ว่าตลาดยังคงอยู่ในช่วงแกว่งตัว โดยที่ในประเทศยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาเสริม ภาวะเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวช้า ขณะที่ยังมีปัจจัยลบนอกประเทศที่กดดันตลาดอยู่คือ ความกังวลต่อปัญหาหนี้สินของกรีซ ซึ่งในเดือน มิ.ย. กรีซมีหนี้ต้องชำระกับ IMF อยู่ 4 งวดรวมเป็นเงิน 1.6 พันล้านยูโร (5.9 หมื่นล้านบาท) ทำให้รัฐบาลกรีซอาจผิดนัดชำหนี้ถ้าไม่สามารถเจรจากับเจ้าหนี้ได้ ขณะที่วันนี้เราคาดว่า SET ยังคงอยู่ในช่วงแกว่งตัวอยู่ แนะนำกรอบแนวรับ/ต้าน 1490/1510 จุด (หลีกเลี่ยงหากดัชนีหลุด 1490 จุด) เราแนะนำซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มขนส่ง (BTS) คาดว่าจะมีกำไรพิเศษประมาณ 2 พันล้านบาทเข้ามา, กลุ่มโรงกลั่น (TOP) คาดว่าจะมี Stock gain จากที่ราคาน้ำมันปรับตัวดีขึ้น, และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (SPALI, PS) จากการที่กำลังจะเปิดตัวโครงการคอนโดใหม่
ปัจจัยที่มีผลกระทบ
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน เดือน พ.ค. ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย สู่ระดับ 50.2 (ใกล้เคียงกับคาดการณ์ของนักวิเคราะห์) จากเดือนเม.ย. ที่ระดับ 50.1 ส่วนของสหรัฐอยู่ที่ระดับ 52.8 (สูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์) เพิ่มขึ้นจากเดือน เม.ย. ที่ 51.5 แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมในภาคการผลิตยังคงมีการขยายตัว
ราคาน้ำมันมีแนวโน้มได้รับแรงกดดันจากกำหนดการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ในวันศุกร์ที่ 5 มิ.ย. นี้ โดยตลาดกังวลว่าสมาชิกในกลุ่ม OPEC อาจจะยังตกลงที่จะผลิตน้ำมันดิบในปริมาณมาก ซึ่งจะส่งผลให้ปัญหาอุปทานน้ำมันล้นตลาดไม่คลี่คลาย โดยในเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา OPEC ผลิตน้ำมันสูงถึง 31.2 ล้านบาร์เรล/วัน มากสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ชี้สัญญาณเศรษฐกิจเริ่มดี จีดีพีอุตสาหกรรมไตรมาสแรกเป็นบวก 2.3 % และจะเห็นความชัดเจนมากขึ้นใน 6 เดือนหลัง ได้แรงหนุนจากมาตรการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ งบลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการลงทุนของภาคเอกชนในการตั้งโรงงานใหม่เพิ่มขึ้น แต่มีปัจจัยลบจากราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ การส่งออกที่หดตัว ที่จะฉุดการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมได้
บริษัท ร่วมทุนยางพาราระหว่างประเทศ จำกัด จะจัดประชุมผู้แทน 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 8-9 มิ.ย. นี้ โดยเตรียมดึงเวียดนามเข้าร่วมด้วย ซึ่ง 4 ประเทศนี้ ผลิตยางพาราคิดเป็นสัดส่วนกว่า 92% ของทั่วโลก เพื่อกำหนดกลยุทธ์และแนวทางการส่งเสริมให้มีการใช้ยางพาราเพิ่มขึ้น และผลักดันราคายางพาราให้สูงขึ้นช่วงครึ่งปีนี้
รายงานประจำวันนี้
SPCG | HOLD/ Fair Value Bt28.25
Company Update: เข้าสู่ช่วงอิ่มตัวโดยมีกระแสเงินสดแข็งแกร่งมาก