- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 02 June 2015 17:06
- Hits: 1179
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Outlook
Sideways ในกรอบ 1,480-1,500/1,512 จุด รอความชัดเจนกรีซ: Rebalance หุ้นของดัชนี MSCI ส่งผล SET เคลื่อนไหวแคบ ปิด +0.16% ที่ 1,496.05 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นสุทธิ 260 ล้านบาท...แนวโน้ม SET สัปดาห์นี้ คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,480-1,500/1,512 จุด รอความชัดเจนกรีซขอรับเงินช่วยเหลือจาก EU เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ต่อ IMF ตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย.นี้เป็นต้นไป ซึ่งเรามองเป็นโอกาส “ซื้อ” ที่บริเวณแนวรับ 1,480-1,500 จุด เนื่องจากมองว่าเป็นจุดที่มี Downside Risk จำกัดในทางพื้นฐานแล้ว อิง PBV 2.1x และ ROE ที่ ~14% โดยเฉพาะ INTUCH AOT SCC TTCL และ CK
“ซื้อ” รับเหมาฯ และกลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากดอกเบี้ยต่ำ: การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่คาดว่าจะมีความชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-พัทยา, กรุงเทพฯ-หัวหินในช่วง 3Q15 คาดว่าจะทำให้กลุ่มรับเหมาฯ กลับมา “แข็งแกร่ง” กว่าตลาดอีกครั้ง แนะนำ “ซื้อ” CK STEC และ SEAFCO ขณะที่กลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากอัตราดอกเบี้ยต่ำ คาดว่าจะมีแรงซื้อเข้ามากมากขึ้นก่อนการประชุม กนง.วันที่ 10 มิ.ย.นี้ แนะนำ “ซื้อ” INTUCH และ SAWAD
Tactical Portfolio (1-3 months)
TNS แนะนำ AOT, BDMS, BLA, INTUCH, EA, ROBINS, SAMART SCC และ TTCL เป็นหุ้นสำหรับลงทุนระยะ 1-3 เดือน ขณะที่เราแนะนำ “ขาย” ICHI ออกจากพอร์ต และ “ซื้อ” CK
เข้ามาแทน
Tactical Portfolio: Tactical Portfolio ให้อัตราผลตอบแทน -2.06% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (25-29 พ.ค.2015) ขณะที่ SET ให้อัตราผลตอบแทน -1.99% หรือมีอัตราผลตอบแทนต่ำกว่า SET อยู่ 0.07% โดย TTCL ที่เป็นหุ้นที่นำเข้าพอร์ตเป็นสัปดาห์แรกให้อัตราผลตอบแทนดีที่สุดในพอร์ต หรือ +1.5% ขณะที่ ICHI, BDMS และ SAMART ให้อัตราผลตอบแทนต่ำที่สุดในพอร์ต หรือ -5.0%, -4.9%, และ -4.6% ตามลำดับ...ทั้งนี้ Tactical Portfolio ให้อัตราผลตอบแทน +2.80% ตั้งแต่ต้นปี 2015 ขณะที่ SET ให้อัตราผลตอบแทน -0.27%
“ซื้อ” CK…คาดลงทุนภาครัฐฯ เร่งตัวขึ้น: ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 35 บาท จาก 1) คาดโครงการ
ลงทุนภาครัฐฯ มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นตั้งแต่ 1H15 เป็นต้นไป 2) Backlog สูงเกือบ 9 หมื่นล้านบาท และมีรอเซ็นสัญญาก่อสร้างอีกหลายโครงการในอนาคต 3) กำไร 2Q15 ออกมาดี จากรายได้เงินปันผล BECL และกำไรพิเศษขายหุ้นไซยบุรีให้กับ CKP
Technical
เลือกซื้อรายตัว: ตลาดประคองตัวฟื้นกลับขึ้นมาเล็กน้อยแต่ยังไม่ผ่าน 1500 จุด อย่างไรก็ดี SET ไม่หลุดแนวรับสำคัญ สามารถประคองตัวยืนเหนือระดับ 1485 จุดได้ น่าจะมีบรรยากาศแรงซื้อกลับมาอีกครั้งในสัปดาห์นี้ คาดว่าดัชนี SET ระยะสัปดาห์จะเคลื่อนไหวฟื้นตัวในกรอบ 1480-1520 จุด ด้วยการฟื้นตัวขึ้นชนแนวเส้นค่าเฉลี่ย 7-14-21 วันซึ่งเกาะกลุ่มบริเวณ 1506-10 จุดความหวังผ่านเหนือแนวเส้นค่าเฉลี่ย 1 เดือนเป็นจังหวะซื้อตามด้วยเป้าหมายสูงสุดระดับ 1530 จุดเป็นจุดขายระยะสั้น โดยยังคงน้ำหนักลงทุนในระดับ 25-50% ของพอร์ตเช่นเดิม
หุ้นซื้อระยะสั้น: ARROW ทะลุกรอบรูปแบบ Bullish Flag พร้อมปริมาณการซื้อขายสนับสนุนในจังหวะ Breakout และเครื่องมือ DI+ เริ่มชี้ขึ้น แนวต้านแรก 13.00 บาท และเป้าหมายถัดไปที่ 14.00 บาทVGI กลับตัวขึ้นด้วยแท่งเทียนรูปแบบ Big White กลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 1 เดือน พร้อมปริมาณการซื้อขายสูงสนับสนุน คาดว่าจะแกว่งขึ้นได้ต่อเนื่องแนวต้านแรก 4.64 บาท และแนวต้านถัดไปที่ 4.90 บาท
TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Short สัญญา S50M15 ด้วยเป้าหมายการปรับลดลงที่ 975 จุด หรือถัดไปที่ 960 จุด ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 990 จุด
Gold Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Short ด้วยเป้าหมายการปรับลดลงที่ 18,800 บาท ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 19,300 บาท ล่าสุดราคาทองคำ COMEX เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา รอความชัดเจนกรณีหนี้กรีซ
Oil Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Short สัญญา BRM15 โดยมีเป้าหมายการปรับลดลงที่ 2,060 ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 2,200 ล่าสุดราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง US$0.68 ปิดที่ US$64.88/bbl โดยคาดการณ์การประชุม OPEC วันที่ 5 มิ.ย.นี้ยังไม่ปรับเพิ่มโควต้าการผลิตน้ำมัน
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล
วิชนันท์ ธรรมบำรุง