WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.เคที ซีมิโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

เก็งกำไรรายตัว
Highlight
     ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ เปิดคละ ขณะนักลงทุนรอฟังผลการประชุมเฟดคืนนี้โดยจะเป็นบวกต่อตลาด หากส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินต่ออีกระยะหนึ่ง
     ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ USA FOMC Meeting คาดคงดอกเบี้ยและลดขนาด QE ลงอีก $10bn. เหลือ $35bn. Japan:ส่งออก พ.ค. คาด -1.1%y-y (Vs 5.1%) Thai: ผลประชุมกนง. คาดคงดอกเบี้ยที่ 2%
      -วันทำการล่าสุด นักลงทุนต่างชาติขายอีก -753 ลบ. (ขายสะสม 6 วันรวม -4.09 พันลบ.) ส่วนนักลงทุนสถาบันในประเทศกลับมาขาย -591 ลบ. (จากซื้อสะสม 2 วัน รวม +2.39 พันลบ.)
      +/-การเมือง การพิจารณาโครงการภาครัฐ หลังคมนาคมปรับแผนโครงสร้างพื้นฐานเหลือ 2.4 ล้านล้านบาท คาดรู้ผลวันที่ 19 มิ.ย. และการตรวจสอบโครงการมูลค่ากว่า 1 พันลบ. ส่งผล กสทช. ถูกระงับการประมูลใบอนุญาตคลื่นความถื่ 1800/900 และการแจกคูปองทีวีดิจิตอล เพื่อตรวจสอบความโปร่งใส
      คาดดัชนีฯ วันนี้ Sideway Up แนวต้าน 1485/1500 จุด คาดหุ้นเล็กและกลางจะยังคง Outperform เนื่องจากหุ้นบลูชิพขนาดใหญ่ กลุ่มพลังงาน สื่อสาร ต้องรอความชัดเจนของมาตรการของคสช. ขณะที่กลุ่มแบงก์รอลุ้นผลประชุมเฟดคืนนี้
กลยุทธ์: เก็งกำไรหุ้นมีข่าวบวกจากโครงการรัฐฯ SCP SCC และหุ้นเกี่ยวโยงราคาน้ำมัน PTTEP AIE แนะนำสะสมหุ้น ADVANC SVOA DELTA CCET BBL KBANK (Window dressing) ถือหุ้นกระแสบอลโลก (MINT CENTEL CPALL)

หุ้นในกระแส:
     หุ้นโมเมนตัมบวก (ขึ้นเกิน 5.0%) ได้แก่ TRUE TPOLY TGPRO CCP LOXLEY TASCO IRCP หุ้นที่ลงกว่า 3.0% ได้แก่ GRAND PF CGD TCC SUPER APURE SAMART ADVANC
     NVDR (หน่วย: ลบ.) สูงสุดด้านซื้อ ได้แก่ TRUE+471 PTTEP+435 SCC+252 AOT+218 PTTGC+186 สูงสุดด้านขาย ได้แก่ INTUCH -196 ADVANC-163
      หลักทรัพย์ที่มี Short Sell สูงสุด (หน่วย:ล้านบาท) ได้แก่ ADVANC 239 PTTEP 128 KBANK 96

Market Outlook
     คาดดัชนีฯ วันนี้ Sideway Up แนวต้าน 1485/1500 จุด กลุ่มสือสาร-มิเดีย ถ่วงตลาด ขณะที่กลุ่มพลังงาน รอลุ้นปัญหาในอิรัก-การเจรจาสันติภาพของชาติตต. กับอิหร่าน ส่วนผลประชุมกนง.คาดคงดอกเบี้ย และเป็นกลางต่อหุ้นกลุ่มแบงก์ ระยะสั้นลุ้นความคืบหน้าโครงการภาครัฐในสัปดาห์นี้ แนะเก็งกำไรหุ้นรับผลบวกโครงการรัฐ และหุ้นเกี่ยวเนื่องราคาน้ำมันดิบ
     คาดดัชนีฯ วันนี้ Sideway Up แนวต้าน1485/1500 จุด เนื่องจาก ผลบวกต่อราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน (PTTEP และกลุ่มโรงกลั่น ลุ้น Stock Gain) จากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งสูงขึ้นจากปัญหาสงครามในอิรัก อาจชะลอลงหากการเจรจาระหว่างอิหร่านกับชาติตะวันตก สามารถลงเอยกันได้ในเร็วๆนี้ และการรอโครงสร้างราคาพลังงาน ซึ่งอาจเป็นลบต่อผู้ประกอบการรายใหญ่ (PTT) ขณะที่ประเด็นบวกจากการเสนอแผนโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 2.4 ล้านล้านบาทเพื่อรอการพิจารณาของ คสช. (คาดรู้รายละเอียดในสัปดาห์นี้) รวมถึงการทำ Window Dressing ยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ความเสี่ยงขาลงของตลาดหุ้นไทยมีจำกัดใน 1-2 สัปดาห์นี้

     ด้านกลุ่มสื่อสารได้รับแรงกดดันจากการเลื่อนประมูลในอนุญาต แต่ยังไม่กระทบการดำเนินงานในระยะสั้น ส่วนผลประชุมกนง. คาดคงดอกเบี้ยที่ 2% (เป็นกลางต่อกลุ่มแบงก์ อสังหาฯ) ขณะที่ตลาดต่างประเทศ ทรงตัว เพื่อรอผลการประชุมเฟดคืนนี้ (เป็นบวกต่อตลาด หากส่งสัญญาณผ่อนคลายการเงินต่อไป)
     ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดต่างประเทศปรับขึ้นเล็กน้อยวานนี้ โดยโมเมนตัมบวกของตลาดสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่ง ขณะนักลงทุนรอฟังผลการประชุมเฟดคืนนี้ต่อมุมมองทางเศรษฐกิจของเฟด ทั้งนี้ ตลาดคาดเฟดจะยังคงลดขนาด QE ต่อเนื่องอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน ด้านราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับสูงขึ้น จากความรุนแรงในอิรักเพิ่มขึ้น ส่งผลโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่สุดอิรักต้องปิดตัวลง แต่นักลงทุนคลายความกังวลบางส่วน หลังความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นของอิหร่านกับชาติตะวันตก ที่อาจทำให้อิหร่านส่งออกน้ำมันได้มากขึ้นเรายังแนะเก็งกำไรในหุ้นพลังงาน พลังงานทดแทน (PTTEP AIE)
      ปัจจัยในประเทศ วานนี้คสช. มีคำสั่งให้ กสทช. ระงับการประมูลใบอนุญาตคลื่นความถื่ 1800 และ 900 MHz คาดส่งผลกดดันราคาหุ้นสื่อสารระยะสั้น แต่ยังไม่กระทบการดำเนินงาน เนื่องจากยังสามารถใช้คลื่นความถี่ที่มีอยู่ให้บริการได้ แต่หากเลื่อนออกไปนานมาก (ช้ากว่าต้นปีหน้า) จะกดดัน ADVANC มากที่สุด เนื่องจากสัมปทานคลื่น 900 จะหมดอายุเดือน ก.ย. 58 (โบรกต่างประเทศ ต่างลดเป้าหมายราคา ADVANC และ DTAC ลง 10-20% เป็น 230-253 บาท และ 115-147 บาท จากแนวโน้มสงครามราคาที่เพิ่มขึ้น หลัง TRUE ได้พันธมิตรใหม่ China Mobile) ทั้งนี้ สมมติฐานเบื้องต้นเราคาดว่าไม่น่าจะล่าช้าจนกระทบการให้บริการ และหุ้นสื่อสารยังให้เงินปันผลที่จูงใจ จึงแนะนำ รอซื้อที่แนวรับ 214/210 บาทสำหรับ ADVANC และ 105/100 บาทสำหรับ DTAC) (ดูรายละเอียดในประเด็นจับตา) ส่วนกลุ่มมิเดีย โดยเฉพาะผู้ขาย Set Top Box เพื่อแปลงเป็นระบบดิจิตอล (SAMART AJD) รวมถึงผู้ประกอบการ (MCOT RS BEC WORK)ได้รับผลกระทบจากความล่าช้าของยอดขายและผู้ชม ซึ่งจะกระทบต่ออัตราโฆษณาและผลขาดทุนมากขึ้นในปีนี้
      อีกด้าน การพิจารณาโครงการภาครัฐต่างๆ ที่คาดจะรู้รายละเอียดในสัปดาห์นี้ ทั้งการพิจารณา 8 โครงการที่มีมูลค่าเกิน 1 พันล้านบาทคาดรู้ผลใน 2-3 วัน และประเด็นสำคัญคือการเสนอแผนโครงสร้างพื้นฐาน 2.4 ล้านล้านบาท โดยคาดจะรู้รายละเอียดในวันที่ 19 มิ.ย. แนะนำเก็งกำไรต่อเนื่อง SCP SCC ด้าน TASCO รอหาจังหวะขายทำกำไร

ส่วน Events Play ที่จะมีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทย ได้แก่
     1. Window Dressing พบว่า กลุ่มอุตฯ แบงก์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคส์ ICT Health Care เป็นกลุ่มฯ ที่มีโอกาสปรับขึ้นสูงกว่าตลาดในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของเดือน แนะนำ ADVANC SVOA DELTA CCET BBL KBANK
     2. หุ้นเกาะกระแสฟุตบอลโลก ระหว่าง 12 มิ.ย. - 13 ก.ค. (เราพบว่า ผลกระทบต่อราคาหุ้นกลุ่ม ICT(ADVANC TRUE) กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภค (CPALL MINT CENTEL) จะมีเพิ่มขึ้นในช่วงระหว่างการถ่ายทอดฟุตบอลโลก

     กลยุทธ์ เก็งกำไรหุ้นคาดผลบวกโครงการรัฐฯ SCP SCC และหุ้นเกี่ยวโยงราคาน้ำมัน PTTEP AIE แนะนำสะสมหุ้น ADVANC SVOA DELTA CCET BBL KBANK (Window dressing)
    เทคนิค ลุ้นเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง แต่โอกาสปรับฐานยังไม่หมดไปดัชนีฯ ระยะสั้น ยังประครองตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น 5 10 และ 25 วันได้ต่อ แม้โมเมนตัมบวกเริ่มชะลอลง โดยมีแนวต้านที่จุดสูงสุดรอบที่แล้วที่ 1485 และ แนวต้านจิตวิทยาที่ 1500 จุด ขณะที่ Leading Indicator ส่วนใหญ่ เข้าใกล้หรืออยู่ในเขต Overbought แสดงถึงความเสี่ยงที่ยังมีต่อการปรับฐาน โดยมีแนวรับที่ 1450/1440 จุด

ประเด็นจับตา
1. ประเด็นการเมือง: จับตานโยบายเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโครงการรัฐขนาดใหญ่
ประเด็นการเมือง (Update):
      "ประจิน"เผยต้องเลื่อนประกาศโรดแมพศก.ไปอีกระยะหนึ่ง,มีเรื่องเร่งด่วนอื่น พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ(ผบ.ทอ.) ในฐานะ รองหัวหน้า คสช.ฝ่ายเศรษฐกิจ เผยว่า ต้องเลื่อน ประกาศโรดแมพเศรษฐกิจของประเทศ ออกไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากขณะนี้ยังมีเรื่อง เร่งด่วนอื่นๆ ที่ต้องรีบดำเนินการก่อน โดยเรื่องเร่งด่วนที่ คสช.ต้องเร่งดำเนินการ อาทิ การแก้ไขปัญหาโครงการ จำนำข้าว, ปัญหาเรื่องยางพารา, การบริหารจัดการน้ำ และพลังงานเชื้อเพลิง รวมถึง โครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานประธานคตร.คาดตรวจสอบ 8 โครงการรัฐ เสร็จใน 3 วัน, อีก 28 โครงการภายใน มิ.ย. คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) คาดว่าจะตรวจสอบ 8 โครงการขนาดใหญ่ของรัฐที่แต่ละโครงการมีเงินลงทุนเกิน 1 พันล้านบาท ให้แล้วเสร็จ ภายใน 2-3 วัน ขณะที่อีก 28 โครงการ ที่มีการเสนอใช้งบประมาณปี 57 วงเงินรวม 4 หมื่นล้านบาท จะตรวจสอบให้เสร็จภายใน 30 มิ.ย.นี้

2. คสช. เล็งนำงบกองทุนกทปส. มาใช้ประโยชน์รัฐ,สั่งชะลอประมูลคลื่น 4G
ประเด็นข่าว
     คสช. ต้องการตรวจสอบด้านความโปร่งใสของกสทช. จึงสั่งให้ชะลอชั่วคราว 1) การประมูลให้ใช้คลื่นความถี่ 1800 MHz ซึ่งจะนำไปพัฒนาเป็นเทคโนโลยี 4G จากเดิมที่คาดว่าจะมีการประมูลในเดือน ส.ค.นี้ 2) การประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 900 MHz ซึ่งเดิมคาดว่าจะมีการประมูลช่วงพ.ย.นี้ 3) การสนับสนุนช่วยเหลือการเปลี่ยนผ่านทีวีจากระบบแอนาล็อก เป็นดิจิตอล ด้วยการแจกคูปองให้กับประชาชน และ 4)โครงการจัดให้มีบริการ โทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม (USO) นอกจากนี้ จะมีการตรวจสอบงบประมาณกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ราว 5 หมื่นล้านบาทเพื่อนำมาใช้ประโยชน์กับภาครัฐสูงสุด

ประเมินผลกระทบเบื้องต้น
คาดระยะสั้นกดดันบรรยากาศการลงทุนให้หุ้นกลุ่มผู้ให้บริการมือถือ (ADVANC DTAC TRUE) ทั้งนี้ผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจจะขึ้นอยู่กับจะเลื่อนการประมูลออกไปนานเพียงใดด้วย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเลื่อนไปเป็นเดือนใด
DTAC น่าจะได้รับผลกระทบน้อยกว่าเนื่องจากมีคลื่นความถี่ในมือทั้งคลื่น 850 1800 และ 2100 MHz โดยสัมปทานในส่วน 1800 MHz จะหมดอายุ ก.ย. 61
    TRUE มีคลื่นในส่วน 2100 MHz และอาจรับสัมปทานในส่วน 1800 MHz บางส่วนจาก CAT ที่ปัจจุบันให้ DTAC แต่ไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์ (เรื่องนี้ยังไม่ final แต่จากการกล่าวของ CAT เพื่อลดผลกระทบผู้บริโภค 2G ที่ยังไม่ได้ย้ายระบบ ป้องกันปัญหาซิมดับ โดยต้องย้ายให้เสร็จก่อน 15 ก.ย. 57)
    ADVANC มีคลื่น 2100 MHz และคลื่น 900 MHz โดยจะได้รับแรงกดดันมากสุดในกลุ่ม ต่อการเลื่อนประมูลเนื่องจาก
    1) สัมปทานคลื่น 900 MHz กำลังจะหมดอายุสัมประทานในเดือน ก.ย. 58 ซึ่ง ADVANC จำเป็นต้องหาคลื่นมารองรับ ซึ่งคลื่น 900 MHz มีความสำคัญจากการเป็นย่านความถี่เพื่อใช้ในการครอบคลุมพื้นที่บริการ ซึ่ง ADVANC มีฐานลูกค้าในต่างจังหวัดสูง ปัจจุบัน ADVANC เป็นผู้ถือครองสัมปทานเพียงรายเดียวในย่านความถี่นี้ที่ 17.5 MHz ทั้งนี้ การประมูลคลื่น 900 MHz เดิมกำหนดเป็นเดือน พ.ย.
      2) ADVANC เป็นผู้ให้บริการรายเดียวที่ยังไม่ได้ทำการตลาดในส่วนของ 4G ขณะที่ DTAC และ TRUE ได้เริ่มให้บริการ 4G บ้างแล้ว การเปิดประมูลคลื่น 1800 MHz อาจทำให้ ADVANC หันมาสนใจทำการตลาดในส่วนนี้ แต่ล่าสุดทางบริษัทกล่าวว่ายังอยู่ระหว่างการศึกษา และยังเน้นลูกค้า 3G และ 2G เป็นหลักแนะนำ แม้ว่าราคาหุ้นในกลุ่มผู้ให้บริการมือถือถูกกดดันในระยะสั้น แต่หากการประมูลใบอนุญาติไม่ล่าช้าออกไปมากนัก คาดไม่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจ โดยทั้ง DTAC และ ADVANC กล่าวว่าการเลื่อนออกไปเป็นปีหน้ากระทบเพียงเล็กน้อย อีกทั้ง การเลื่อนประมูลเพื่อตรวจสอบความโปร่งใส น่าจะป้องกันปัญหาการฟ้องร้องภายหลังเช่นในกรณีของ 3G ทั้งนี้ เราแนะนำทยอยสะสม ADVANC จากเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลดี และตามสถิติมีการทำ window dressing ในช่วงท้ายไตรมาส 2

3. การประชุมกนง. และการประชุมเฟดวันที่ 18 (คาดไม่มีข่าวลบ ยกเว้นการส่งสัญญาณเร่งขึ้นดอกเบี้ย)
     การประชุมกนง. คาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ 2.00% จากสำรวจล่าสุดของ Bloomberg นักเศรษฐศาสตร์ 21 รายส่วนใหญ่ (16 ราย) คาดกนง. คงอัตราดอกเบี้ยที่ 2.00% และอีก 5 รายคาดกนง. ลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 1.75% นอกจากนี้นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดกนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับปัจจุบันปถึงไตรมาสแรกของปี 58 ก่อนปรับขึ้นเป็น 2.25% ในช่วงไตรมาส 2 ของปี 58 การประชุมเฟดคาดลด QE อีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือนและจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในไตรมาส 3 ของปี 58 นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดเฟดลดขนาด QE ลงเหลือ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ในการประชุมครั้งนี้ โดยเป็นการซื้อ พันธบัตร 2.0 หมื่นล้านดอลลาร์ และ MBS อีก 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์
    นอกจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ยังคาดเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 58 เช่นเดียวกับผลสำรวจครั้งก่อน

     4.อิรัก- สรุปประเด็นเรื่องสถานการณ์ในอิรัก(หากยืดเยื้อ และรุนแรงกว่าคาด อาจส่งผลลบต่อกลุ่ม Cyclicaly Play และกลุ่มสายการบิน แต่เป็นบวกต่อผู้ผลิตกลุ่มต้นน้ำ PTTEP)
Update: โรงกลั่นน้ำมันใหญ่สุดของอิรักปิดตัวลงแล้ว ขณะกลุ่มกบฏเข้าล้อมเมือง
     โรงกลั่นไบจิ ซึ่งเป็นโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของอิรัก ได้ถูกปิดตัวลงแล้ว และมีการอพยพ.ค.นงานต่างประเทศออกไป แต่คนงานซึ่งเป็นชาวอิรักยังคงอยู่ในพื้นที่ และกำลังทหารยังคงสามารถควบคุมโรงกลั่นกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มรัฐอิสลามแห่งอิรักและเลแวนท์ (ISIL) ได้เข้ายึดเมืองโมซูล ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของอิรักได้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่กลุ่มติดอาวุธนิกายสุหนี่ได้รุกคืบสู่เมืองไบจิ และเข้าล้อมโรงกลั่นน้ำมั่น ทั้งนี้ โรงกลั่นน้ำมันไบจิเป็นโรงกลั่น 1 ใน 3 ของอิรัก ขณะที่ โรงกลั่นอีกแห่งหนึ่งอยู่ที่กรุงแบกแดด และอีกแห่งหนึ่งอยู่ทางใต้ของประเทศ โดยอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล และยังคงดำเนินการกลั่นน้ำมันในขณะนี้

ความเดิม
ความรุนแรงในอิรัก เกิดจากกลุ่มติดอาวุธ ISIS บุกยึดเมืองในแถบทางเหนือของประเทศ
    สาเหตุที่กลุ่ม ISIS สามารถยึดหัวเมืองทางตอนเหนือได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากทหารส่วนมากของรัฐบาลอิรักนั้นเป็นทหารรับจ้าง เมื่อพบกับสถานการณ์ตึงเครียดและการข่มขู่กลุ่มกบฏที่สังหารเชลยทหารที่จับได้ จึงทำให้ทหารเหล่านี้ละทิ้งที่ตั้ง ประกอบกับประชากรในแถบนั้นป็นมุสลิมซุนนี่ย์2 เช่นเดียวกัน ทำให้ ISIS ยึดเมืองต่างๆมาได้โดยง่าย
    อย่างไรก็ดี คาดว่าการรุกคืบของกลุ่ม ISIS น่าจะหยุดอยู่แค่หัวเมืองแถบเหนือ เนื่องจากเมืองทางภาคกลางและภาคใต้ส่วนใหญ่เป็นมุสลิมชีอะฮ์


สิ่งที่ต้องจับตามองในระยะต่อไป ได้แก่
     ท่าทีของสหรัฐฯ ในการจัดการกับปัญหาดังกล่าว ซึ่งอาจใช้ทั้งวิธีทางทหาร (ส่งทหารหรืออย่างน้อยเครื่องบินรบเข้าโจมตีที่มั่นของกลุ่ม ISIS) และการทูต (มีความพยายามที่จะเจรจากับอิหร่านซึ่งเป็นชีอะฮ์เหมือนกัน และเป็นพันธมิตรกับรัฐบาลอิรักในปัจจุบัน ให้เข้ามาช่วยเหลือทางการทหาร) โดยหากใช้กำลังทหารเป็นสำคัญ ก็อาจส่งผลเสียต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนและอาจกดดันราคาน้ำมันได้
ความรุนแรงของสถานการในอิรักว่าจะพัฒนาไปสู่สงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อจนกระทบกับการผลิตน้ำมันดิบหรือไม่ ดังที่เกิดกับประเทศซีเรียที่เคยผลิตน้ำมันดิบได้กว่า 400KBD (สี่แสนบาร์เรลต่อวัน) ก่อนที่จะเกิดความขัดแย้งในประเทศ และทำให้การผลิตน้ำมันในประเทศหยุดชะงัก โดยปัจจุบัน การผลิตลดลงเหลือเพียงไม่ถึง 50KBD เท่านั้น
     อย่างไรก็ดี ในระยะปานกลาง หากสถานการณ์รุนแรงและยืดเยื้อจนกระทบการผลิตของอิรักที่ปัจจุบันผลิตอยู่ได้ประมาณ 3MMBD (สามล้านบาร์เรลต่อวัน) นั้น ก็อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่ออุปทานน้ำมันของโลก และกดดันราคาน้ำมันดิบได้ เนื่องจากปัจจุบันกำลังการผลิตสำรองของกลุ่ม OPEC (OPEC spare capacity) ก็อยู่ในระดับต่ำอยู่แล้ว (ตามรูป) หลังจากที่ซาอุดิอาระเบียเร่งกำลังผลิตขึ้นเพื่อทดแทนลิเบีย ล่าสุด OPEC spare capacity อยู่ที่ประมาณ 2MMBD เทียบกับตอนราคาน้ำมัน $140/bbl เมื่อตอนปี 2008 ที่เหลืออยู่ต่ำกว่า 1MMB

5. รายงานเศรษฐกิจสำคัญสัปดาห์นี้ : จับตาผลประชุมเฟด และผลประชุมกนง.วันพุธ
พุธ: USA FOMC Meeting คาดคงดอกเบี้ยและลดขนาด QE ลงอีก $10bn. เหลือ $35bn. Japan:ส่งออก พ.ค. คาด -1.1%y-y (Vs 5.1%) Thai: ผลประชุมกนง คาดคงดอกเบี้ยที่ 2%
พฤหัสบดี: USA: Phil Fed Survey มิ.ย. คาด 14 (Vs 15.4) Leading Indicators พ.ค. คาด 0.6%m-m (Vs 0.4%) EU: EU group meeting
ศุกร์ : EU Ecofin meeting , Consumer Confidence มิ.ย. คาด -6.8 (Vs -7.1) Spain: Moody ทบทวนเรตติ้ง ไต้หวัน:ส่งออก พ.ค. คาด 7.6%y-y (Vs 8.9%)

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจวันทำการผ่านมา:
      สถาบัน ZEW เผยความเชื่อมั่นศก.เยอรมนีร่วงต่ำสุดรอบ 1 ปีครึ่งในมิ.ย. สถาบัน ZEW ของเยอรมนีเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของนักวิเคราะห์ และนักลงทุนร่วงลงเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันในเดือน มิ.ย.สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจเยอรมนีอาจชะลอตัว ในไตรมาส 2 ทั้งนี้สถาบัน ZEW ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจดิ่งลงสู่ระดับ 29.8 ในเดือน มิ.ย. จาก 33.1 ในเดือน พ.ค. และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ในการสำรวจของรอยเตอร์คาดไว้ที่ 35.0
       อียู เผยอัตราค่าจ้างในยูโรโซนชะลอตัวมากสุดรอบ 5 ปี ใน Q1 อัตราการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างต่อปีลดลงเกือบครึ่งหนึ่งสู่ระดับ 0.9% ในช่วงต้นปีนี้ จาก 1.6% ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว และเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นที่ชะลอตัวมากที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2009 เมื่อ Eurostat เริ่มจัดทำข้อมูลดังกล่าว
      อังกฤษ เผยอัตราเงินเฟ้อร่วงเกินคาดแตะจุดต่ำสุดรอบ 4 ปีครึ่งใน พ.ค. สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ รายงานว่าอัตราเงินเฟ้อ ของอังกฤษลดลงมากเกินคาดสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีครึ่งในเดือน พ.ค. ขณะที่ราคาอาหารร่วงลง และผลกระทบต่อค่าใช้ จ่ายในการเดินทางจากเทศกาลอีสเตอร์ที่มาล่าช้ากว่าปกติในปีนี้ได้เบาบางลง ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ร่วงลงสู่ระดับ 1.5% ในเดือน พ.ค. จาก 1.8% ในเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2009
       สหรัฐ เผยตัวเลขเริ่มสร้างบ้านร่วงลงเกินคาดในเดือน พ.ค. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านร่วงลง 6.5% สู่ 1 ล้านยูนิต ในเดือน พ.ค. และการอนุญาตก่อสร้างร่วงลง 6.4% สู่ 991,000 ยูนิตในเดือนพ.ค. นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า ตัวเลขการ เริ่มสร้างบ้านจะอยู่ที่ 1.03 ล้านยูนิตในเดือนพ.ค. ลดลงจาก1.072 ล้านยูนิต ในเดือน เม.ย. ส่วนการอนุญาตก่อสร้างจะอยู่ที่ 1.05 ล้านยูนิตในเดือนพ.ค. ลดลงจาก 1.059 ล้านยูนิต ในเดือน เม.ย.
       สหรัฐ เผย CPI เพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค.มากที่สุดในรอบกว่า 1 ปี กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไป เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือน พ.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ มากกว่า 1 ปี และดัชนี CPI พื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือน พ.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้น
มากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ส.ค. 2011

 

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
Global Momentum
+ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกจากแรงซื้อหุ้นแบงก์
       วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยดัชนี DJIA ปิดเพิ่มขึ้น 27.48 จุดหรือ 0.16% สู่ระดับ 16,808.49 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 4.21 จุด หรือ 0.22% สู่ระดับ 1,941.99 จุด และ Nasdaq ปิดเพิ่ม 16.13 จุด หรือ 0.37% สู่ระดับ 4,337.23 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวขึ้นในวันอังคาร ขณะที่ข้อมูลซึ่งบ่งชี้ถึงเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นนั้นได้หนุนหุ้นกลุ่มการเงิน และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้ดึงดูดความสนใจครั้งใหม่ จำ นวนหุ้นราว 60% ปิดบวกในตลาดนิวยอร์ค ขณะที่ราว 65% ปิดบวกในตลาด Nasdaq ดัชนี S&P หุ้นกลุ่มการเงินบวก 0.9%ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ค.ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 1 ปี ส่วนข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างร่วงลงมากเกินคาดในเดือนพ.ค.

 

+ ตลาดหุ้นยุโรป กลับมาปิดบวก
      วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นยุโรป กลับมาปิดบวก FTSE ปิดเพิ่มขึ้น 12.13 จุด หรือ 0.18% สู่ 6,766.77 จุด ดัชนี CAC40 ปิดบวก 26.02จุด หรือ 0.58% สู่ 4,536.07 จุด และ DAX ปิดสูงขึ้น 36.34 จุด หรือ 0.37% สู่ 9,920.32 จุด โดยทุกตลาดฟื้นตัวปานกลาง หลังมีข่าวว่าสหรัฐฯเตรียมช่วยอิรักผ่านการโจมตีทางอากาศและการเจรจาระหว่างชาติตต กับอิหร่าน อาจบรรลุข้อตกลงที่ดี

 

+/-ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดขึ้น แต่ไนเม๊กซ ร่วงลง คาดสัมพันธ์อิหร่านดีขึ้น
     วันทำการที่ผ่านมา Brent ส่งมอบ สค. ปิดสูงขึ้น 0.51ดอลลาร์ สู่ 113.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วน Nymex ส่งมอบ ก.ค.. ลดลง 0.54 ดอลลาร์ มาปิด ตลาดที่ 106.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยได้รับแรงกดดันจากความเป็นไปได้ที่อุปทานน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านกับชาติตะวันตกปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากความกังวลที่ว่าอิรักอาจประสบปัญหาในการส่งออกน้ำมัน
      อังกฤษประกาศในวันอังคารว่า อังกฤษจะเปิดสถานทูตในอิหร่านหลังจากปิดสถานทูตมานาน 2 ปีครึ่ง โดยเหตุการณ์นี้เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ชาติตะวันตกต้องการความช่วยเหลือของอิหร่านในการจัดการกับปัญหาในอิรัก ทูตสหรัฐและอิหร่านหารือกันเรื่องวิกฤติอิรักในวันอังคารนอกรอบการประชุมที่กรุงเวียนนา ในขณะที่อิหร่านประชุมกับชาติมหาอำนาจ 6 ชาติ ที่กรุงเวียนนาเพื่อหาทางยุติความขัดแย้งด้านนิวเคลียร์ที่ดำเนินมานาน 10 ปี ถ้าหากการประชุมครั้งนี้ประสบความสำเร็จ อิหร่านก็อาจส่งออกน้ำมันดิบสู่ตลาดโลกได้มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี เป็นที่คาดกันว่าจะยังไม่มีการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านในเร็วๆ นี้

 

-ราคาทองคำ ลดลงจากวิตกเฟดคุมเข้มการเงินเร็วกว่าคาด
     วันทำการที่ผานมา ราคาสัญญาทองเดือน สิงหาคม ปิดตลาด ลดลง 3.3 ดอลล์ สู่ 1,272 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นผลจาก การแข็งค่าของดอลลาร์ และความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นระหว่างอิหร่านกับชาติตะวันตกส่งผลให้นักลงทุนลดความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเช่นทอง ได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ในขณะที่ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากการปรับขึ้นของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 0.4 % ในเดือน พ.ค. ซึ่งถือ เป็นการพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 1 ปี นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะคุมเข้มนโยบายการเงินในอนาคตด้วย

- ดัชนีค่าระวางเรือ Baltic Dry Index ร่วงลงเป็นวันที่ 5 และเป็นระดับต่ำสุดปีนี้
      วันทำการที่ผานมา ดัชนี Baltic Dry Index ปิดลดลงอีก 22 จุด หรือ -2.5% เป็น 858 จุด หลังจาก ปี 56 เพิ่มขึ้น +28.14%y-y เป็น 2227 จุด (จาก 1738 จุด ณ สิ้นปี 55) โดยระดับสูงสุดอยู่ที่ 2337 จุด เมื่อ 12/12/56 และระดับต่ำสุดอยู่ที่ 698 จุดเมื่อ 2/1/56 ขณะที่ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อยู่ที่ 554 กลุ่มเรือ (Shipping) คาดผ่านจุดต่ำสุด Bottom Out และฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก (แนะนำ เก็งกำไร PSL TP Consensus 22.84-27.25 บาท TTA TP Consensus 22.83-27.25 บาท)
ถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย, no. 14501 [email protected] 02-624-6244
ธิดารัตน์ ผโลดม, no. 16564 [email protected] 02-624-6270

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!