WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BAYบล.กรุงศรี : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

บทวิจัยตลาดทุนกรุงศรี (Morning Brief Package)

ภาวะตลาดหุ้นวานนี้:
     SET ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วงเปิดตลาด หลังจากนั้นไม่กี่นาทีมีแรงเทขายออกมา ทำให้ตลาดหุ้นยืนอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน ปิดตลาดที่ระดับ 1493.61 จุด (-7.23 จุด หรือ -0.48%) ซึ่งเป็นไปตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดหุ้นจีนที่ปรับตัวลดลงแรง ขณะที่ในประเทศไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาเสริม ซึ่ง SET ถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคารที่ปรับตัวลง ในขณะที่มูลค่าการซื้อขายยังใกล้เคียงกับวันก่อนหน้าที่ระดับ 31,509 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันเป็นผู้ซื้อสุทธิ 1,157 ล้านบาท ร่วมกับนักลงทุนรายย่อยที่ซื้อสุทธิ 756 ล้านบาท ในส่วนของบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 1,187 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิเป็นวันที่สองติดต่อกันที่ 726 ล้านบาท

แนวโน้มวันนี้:
      เราประเมินการลดลงของ SET เมื่อวานนี้ว่าตลาดยังคงอยู่ในช่วงแกว่งตัว โดยยังขาดปัจจัยบวกหนุนภายในประเทศ ขณะที่ยังมีปัจจัยลบนอกประเทศที่กดดันลาดอยู่คือ ความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นเร็วเกินไปและปัญหาหนี้สินของกรีซ วันนี้เราคาดว่า SET อาจมีโอกาสที่นักลงทุนเทขายทำกำไรในช่วงก่อนวันหยุดยาว แนะนำกรอบแนวรับ/ต้าน 1490/1515 จุด (หลีกเลี่ยงหากดัชนีหลุด 1490 จุด) เราแนะนำซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มธนาคาร (KBANK) ได้รับรู้ปัจจัยลบจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยแล้ว, กลุ่มขนส่ง (BECL) น่าจะได้รับประโยชน์จากการควบรวมกับ BMCL, กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL) จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 58, และกลุ่มปิโตร (IVL) ราคา Spread ของผลิตภัณฑ์ PET ปรับตัวขึ้น

 

ปัจจัยที่มีผลกระทบ
        นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโก ออกมาเปิดเผยว่าเฟดมีแนวโน้มที่จะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับปกติในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยปรับอย่างค่อยเป็นค่อยไป และสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่ขยายตัวอย่างอ่อนแอ

 

      นายศิริรุจ จุลกะรัตน์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่าดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน เม.ย. ที่ 147.89 ต่ำสุดในรอบ 40 เดือนนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 54 และหดตัวลง -5.3% เนื่องจากการส่งออกสินค้าในตลาดหลักเช่น จีน สหรัฐ และยุโรปยังไม่ขยายตัวมากนัก และเดือน เม.ย. มีวันหยุดยาวมากกว่าปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามได้ สศอ.ประเมินว่าหลังเดือน มิ.ย. นี้จะเห็นภาพการผลิตภาคอุตสาหกรรมฟื้นตัวชัดเจนขึ้น ซึ่งในวันที่ 4 มิ.ย. นี้จะมีการทบทวนประมาณการอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ภาคอุตสาหกรรมอีกครั้งจากปัจจุบันคาดเติบโตไว้ที่ 2-3% และดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ทั้งปีคาดไว้ที่ 3-4%

 

       น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่ากระทรวงการคลังมองเศรษฐกิจไทยปี 58 จะขยายตัวได้ 3.7% โดยมีปัจจัยจากการท่องเที่ยวเป็นหลักที่เข้ามาช่วยสนับสนุน ซึ่งปีนี้คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้ามาในไทย 29.4 ล้านคน ส่งผลให้มีรายได้เข้ามาค่อนข้างสูง อีกทั้งยังมีปัจจัยบวกจากการลงทุนของภาครัฐที่จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อน ดังนั้นหลังจากนี้ต้องติดตามการเบิกจ่ายภาครัฐว่าจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้หรือไม่

 

รายงานประจำวันนี้
BBL | HOLD/ Fair Value Bt170.00

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!