WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

May copyบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

กลยุทธ์วันนี้ MSCI Reshuffle

ตลาดหุ้นวานนี้:
     ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ไม่สามารถยืนเหนือ 1,500 จุดได้ อีกทั้งตลาดหุ้นรอบเอเชียอย่าง PSE ที่ปรับตัวลงแรงหลัง GDP ใน 1Q58 ออกมาต่ำกว่าคาด ด้านบริษัทหลักทรัพย์ในจีน เข้มงวดบัญชีมาร์จิ้นมากขึ้น ทำให้ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงลดลงแรง กดดันบรรยากาศโดยรวม ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX ลบ 7.23 จุด มาอยู่ที่ 1,493.61 จุด มูลค่าการซื้อขายเพียง 31,508 ล้านบาท
    กระแสเงินทุนต่างชาติเป็นลบชัดเจน แม้ขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีก 726 ล้านบาท แต่การ Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 5 มากถึง 23,373 สัญญา ส่งสัญญาณเชิงลบต่อตลาดหุ้นไทยชัดเจน ขณะที่ซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 3 อีก 1,569 ล้านบาท

ปัจจัยสำคัญวันนี้
การปรับน้ำหนักดัชนี MSCI Thailand / MSCI Global Small Cap มีผล ณ ราคาปิดวันนี้
ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจเดือนเม.ย.ของไทยวันนี้ โดยเฉพาะภาคการบริโภคภายในประเทศ
ช่วงคาบเกี่ยววันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทย

ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
ติดตามพัฒนาการของกรีซ และเจ้าหนี้ อียู - IMF ก่อนหนี้ที่จะครบกำหนดรอบใหญ่วันที่ 5 มิ.ย.
ติดตามรายงาน Beige Book ของสหรัฐฯ เพื่อประเมินภาพการจ้างงานโดยรวม ซึ่งจะมีผลต่อช่วงเวลาที่เฟดจะพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ติดตามการประชุม ECB / BoE วันที่ 3 และ 4 มิ.ย. ตามลำดับ

มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองเป็น "กลาง" วันที่ 44 โดย SET INDEX แกว่งตัวในกรอบแคบ 1,490-1,500 จุด และ ณ ราคาปิดวันนี้ อาจเห็นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ MSCI ปิดผิดปกติ เมื่อมูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง ขณะที่ตลาดหุ้นไทยจะเข้าช่วงวันหยุดยาวในช่วงต้นสัปดาห์หน้า
ขณะที่รายงานเศรษฐกิจเดือนเม.ย.ของไทยในช่วงบ่ายวันนี้ ถือว่ามีความสำคัญ เพราะเป็นข้อมูลพื้นฐานด้านการลงทุนตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ ซึ่งหากการจัดเก็บภาษี VAT / การลงทุนภาคเอกชน ฟื้นตัวต่อเนื่อง mom จะช่วยจำกัด downside risk ของ SET INDEX ได้ในช่วงสั้นๆ เพื่อรอดูการประชุม กนง. วันที่ 10 มิ.ย.
สำหรับปัจจัยต่างประเทศในช่วงนี้คือ พัฒนาการกรณีกรีซ ว่าจะได้ข้อสรุปก่อนที่จะถึงวันครบกำหนดหนี้จาก IMF มูลค่า 1.6 พันล้านยูโรวันที่ 5 มิ.ย.หรือไม่ แน่นอนว่าระหว่างรอความชัดเจนทิศทางค่าเงินยูโรอ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ย่อมกดดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างน้ำมัน และ ทองคำทางอ้อม
ดังนั้นหุ้นปันผลระหว่างกาล หรือ หุ้นที่แนวโน้มจะได้เพิ่มเข้าในการคำนวณ SET50 / SET100 ซึ่งจะประกาศในช่วงกลางเดือนมิ.ย. น่าจะเป็นเป้าหมายของการเลือกเก็งกำไรรอบสั้นนี้
เช้านี้ตลาดหุ้นเอเชีย (7.16 น.) Nikkei - Kospi เปิดบวกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากเป็นวันศุกร์ และขาดปัจจัยใหม่ ขณะที่กรณีกรีซ ยังไม่มีความคืบหน้า

กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนกลับมาซื้อเก็งกำไรหุ้นเป้าหมาย แบบจำกัดวงเงินบริเวณ 1,485-1,490 จุด" เพื่อรอขายทำกำไรรอบสั้นบริเวณ 1,500 จุด+/- เมื่อ SET INDEX ฟื้นตัว

Top Pick in 2Q15: ITD / TASCO / TPIPL/ WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ TASCO/ WHA/ THAI/ BCP


Accumulative Buy: INTUCH

 

Stock Pick of the Day

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "ทยอยสะสม" ได้แก่
1. INTUCH : ราคาปิด 77.25 บาท ราคาเหมาะสม 114.00 บาท
a) MBKET เชื่อว่าหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง จะ Outperform ตลาดได้ในระยะนี้ เนื่องจากภาวะตลาดที่ผันผวน และอัตราดอกเบี้ยในประเทศอยู่ในระดับต่ำเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มเงินปันผลสูง
b) คงมุมมองเชิงบวกต่อภาพระยะกลางของหุ้นกลุ่มสื่อสาร จากการประมูล 4G ในช่วงปลายปี และเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ปลดล๊อกความกังวลเรื่องคลื่นความถี่ของ ADVANC ที่จะหมดอายุสัมปทานลงในปี 2558
c) ขณะที่ THCOM เข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการลงทุน และมีการเติบโตของกำไรที่สูง โดยคาดกว่ากำไรสุทธิปี 2558 จะเติบโต +25.7% yoy จากการรับรู้รายได้ของดาวเทียมไทยคม 6 และ IPSTAR ที่มีอัตราการใช้งานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
d) ราคาปิดวานนี้ที่ 77.50 บาท มีส่วนลด 17.3% จาก NAV ของมูลค่าเงินลงทุนใน ADVANC และ THCOM ที่หุ้นละ 93.73 บาท
e) และคาดการณ์เงินปันผลปี 2558 หุ้นละ 5.29 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 6.83%

 

Fund Flow Analysis

Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียซื้อสุทธิ US$189 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$126 ล้าน

 

Foreign Investors Action วานนี้
กระแสเงินทุนต่างชาติเป็นลบในตลาดหุ้นไทย
นักลงทุนต่างชาติคงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีก 726 ล้านบาท รวม 2 วันทำการ ขายสุทธิ 1,515 ล้านบาท เทียบกับ 5 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 7,310 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิเท่ากับ 4,910 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures วานนี้ นักลงทุนต่างชาติคงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 5 มากถึง 23,373 สัญญา รวม 5 วันทำการ Short สุทธิสูงถึง 41,284 สัญญา และกดให้ S50M15 คงปิดต่ำกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 4 สูงถึง 8.55 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 4.09 จุด ส่งผลให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้มีสถานะเป็น Short สุทธิเพิ่มเป็น 48,071 สัญญา
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้คงการซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 อีก 1,569 ล้านบาท รวม 3 วันทำการ ซื้อสุทธิ 2,291 ล้านบาท เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิ 1,836 ล้านบาท ขณะที่ราคาพันธบัตรไทยเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 3 ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงเป็นวันที่ 3 มากถึง 2.46bps จากวันก่อนหน้าลดลงเพียง ย 0.15bps ปิดล่าสุดที่ 2.785%

 

Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling เพิ่มเป็น 1,890 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 390 ล้านบาท

 

NVDR Movement
NVDR กลับมาขายเป็นวันแรกในรอบ 10 วันทำการ ลดน้ำหนักกลุ่มพลังงานและอสังหาฯ เป็นหลัก
การซื้อขายผ่าน NVDR ขายสุทธิ 257 ล้านบาท เทียบกับ 9 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 8,623 ล้านบาท สรุปภาพรวม NVDR ได้ดังนี้
1. กลุ่ม ICT ซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 3 อีก 183 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 357 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มสื่อสารและสิ่งพิมพ์ ซื้อสุทธิ 166 ล้านบาท กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ซื้อสุทธิ 124 ล้านบาท กลุ่มขนส่ง ซื้อสุทธิ 107 ล้านบาท
2. กลุ่มพลังงานถูกกลับมาขายสุทธิสูงสุด 378 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มอสังหาฯ ขายสุทธิ 137 ล้านบาท และกลุ่มค้าปลีก ขายสุทธิ 109 ล้านบาท

 

ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค

สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาเป็นกลางถึงบวก
ยอดขอสวัสดิการว่างงาน เพิ่มขึ้น 2.82 แสนตำแหน่ง สูงกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 2.70 ตำแหน่ง และสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.75 แสนตำแหน่ง
ยอดขายบ้านรอปิดการขาย เดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 3.4% mom สูงกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 0.8% mom และเดือนก่อนหน้าที่ 1.2% mom โดยยอดขายที่ตะวันออกเฉียงเหนือและตอนกลางของภาคตะวันตก เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

ยุโรป
ไม่มี

จีน
ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลงแรงวานนี้ จากการเข้มงวดบัญชีมาร์จิ้นซื้อขายหุ้น: เช่น Changjian Securities Co., GF Securities Co, Guosen Securities Co. และ Haitong Securities Co ได้เพิ่มการวางวงเงินมาร์จิ้นซื้อขายหุ้น เป็น 80% จากเดิม 60%
ธนาคารกลางจีนเตรียมดูดสภาพคล่องทางการเงิน: ด้วยการขาย Repos วงเงินกว่าแสนล้านหยวน โดยวันที่ 28 พ.ค. ธนาคารกลางจีน ขาย RP 7 วัน / 14 วัน / 28 วัน มูลค่ากว่าแสนล้านหยวน

 

เอเชียแปซิฟิก
เศรษฐกิจฟิลิปปินส์เติบโตต่ำกว่าคาด: 1Q58 เศรษฐกิจขยายตัว 5.2% yoy ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 6.6% yoy เป็นการเติบโตต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2554 โดยการใช้จ่ายของภาครัฐเพิ่มขึ้น 4.8% yoy ต่ำกว่าไตรมาสก่อนหน้าถึงกึ่งหนึ่ง ส่วนการส่งออกเพิ่มขึ้นเพียง 1.0% yoy ต่ำสุดในรอบ 7 ไตรมาส
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้หดตัวแรง: หดตัว 2.7% yoy ในเดือน เม.ย. จากเดือนก่อนที่ทรงตัว 0.0% yoy และเป็นการหดตัวแรงกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดหดตัว 0.5% yoy นำโดยชิ้นส่วนอิลเกทรอนิกส์และรถยนต์ที่หดตัว 12.2% yoy และ17% yoy ตามลำดับ นอกจากนี้ยังเป็นการหดตัว 1.2% mom ทำให้ตลาดประเมินว่าธนาคารกลางเกาหลีใต้มีโอกาสจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือน มิ.ย.หรือ ก.ค.
อัตราเงินเฟ้อเดือน เม.ย.ของญี่ปุ่นชะลอตัวลง: เพิ่มขึ้น 0.6% yoy เท่ากับที่ Bloomberg Consensus คาด จากเดือน มี.ค.ที่เพิ่มขึ้น 2.3% yoy ขณะที่อัตราเงินเฟ้อที่ไม่รวมอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น 0.4% yoy เทียบกับที่ Bloomberg Consensus คาด 0.3% yoy

 

ไทย
คลังมั่นใจเศรษฐกิจไทยปีนี้โต 3.7% ท่องเที่ยว - เบิกจ่ายภาครัฐหนุน: กระทรวงการคลังมองว่าปี 58 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 3.7% โดยมีปัจจัยจากการท่องเที่ยวเป็นหลักที่เข้ามาช่วยสนับสนุน ซึ่งปีนี้คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้ามาในไทย 29.4 ล้านคน ส่งผลให้มีรายได้เข้ามาค่อนข้างสูง นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกจากการลงทุนของภาครัฐที่จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อน ดังนั้นหลังจากนี้ต้องติดตามการเบิกจ่ายของภาครัฐว่าจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้หรือไม่ ขณะที่ภาคส่งออกของไทยในปีนี้ คาดว่าจะขยายตัวได้ 0.2% แม้ช่วง 4 เดือนแรก(ม.ค.-เม.ย.58) การส่งออกจะยังติดลบ แต่คาดว่าช่วงที่เหลือของปีนี้มีสัญญาณสนับสนุนที่จะช่วยให้การส่งออกฟื้นตัวได้ดีขึ้น โดยเฉพาะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการค้าในแถบชายแดน โดยเฉพาะกับเวียดนาม ซึ่งในเดือนเม.ย.พบว่าขยายตัวถึง 12% และยังมีเครื่องชี้ว่าเศรษฐกิจในอาเซียนมีแนวโน้มขยายตัวได้อย่างดี

Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!