- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 28 May 2015 17:40
- Hits: 1301
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น
สัปดาห์ที่แล้วเราเชิญบริษัท QH ,RATCH และ THCOM ร่วมงาน Global Emerging Market ประเทศอังกฤษ
ภาพรวม: นักลงทุนในต่างประเทศมีมุมมองเชิงลบต่อตลาดหุ้นไทย
แนวคำถาม: เรื่องกฎหมายและข้อจำกัดต่างๆในแต่ละอุตสาหกรรมและผลกระทบต่อ Balance sheet ในแต่ละบริษัท กรณีเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว นักลงทุนต่างชาติจะเข้าซื้อกลุ่มธนาคารก่อน ขณะที่นักลงทุนในประเทศจะชอบกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
QH (BUY TP/3.2)
แนวคำถาม: ปัญหาเรื่องข้อกฎหมายรวมถึงปัญหา over supply ในตลาดบ้าน
คำตอบ: QH ปีนี้เน้นเรื่องลดภาระหนี้ ที่ดินมีการซื้อสะสมไว้แล้ว ขณะที่มีเงินสดในมือ Cash on hand อยู่พอสมควร เรื่อง Business plan 1. Presale คาดว่าจะโตในระดับ 20% 2. Top line โตเฉลี่ย 10% 3.Gross Margin คาดว่าจะโตขึ้นเนื่องจากมีการรับรู้รายได้จากโครงการใหม่ 4.Core Profit คาดว่าโตได้ 14% .ในปีนี้ 5.มูลค่าหุ้นที่ถืออยู่ใน HMPRO LHBANK และ QHPF ยังมีมูลค่าที่ต่ำอยู่
THCOM (BUY TP/54)
แนวคำถาม: ปัญหาเรื่องข้อกฎหมายในประเทศ การถือหุ้นโดยต่างชาติและรายได้
คำตอบ: ดาวเทียมดวงใหม่ รัฐบาลไทยมีความต้องการให้ขึ้นกับกระทรวง ICT แต่ยังต้องตรวจสอบเรื่องข้อกม.ใหม่ ส่วนค่าเช่าอัตราค่าบริการยังคิดเท่าเดิม รายได้ในส่วนของดาวเทียมยังเติบโตต่อเนื่อง ขระที่เงินปันผลปีนี้ยังคงนโยบายจ่ายที่ 70% ของรายได้ แต่อาจจ่ายเพิ่มขึ้น 100% ในปีหน้า
RATCH (HOLD TP/64)
แนวคำถาม: ปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและเศรษฐกิจ
คำตอบ: ธุรกิจไฟฟ้าในไทยได้พัฒนามาไกล มีสูตรที่เป็นมาตรฐานในการคิด การแข่งขันในปท.เป็นลักษณะ Fair play ความต้องการปรมาณไฟฟ้าในปท.ยังโตต่อเนื่อง
ธนรัตน์ อิศรกุล Tel. (662) 618-1334
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด
ข่าวเด่นเศรษฐกิจ
เจ้าหนี้กรีซปฏิเสธดีลการเจรจาใกล้จบ
จากการประชุมของรัฐมนตรึคลังกลุ่ม G7 ได้พูดคุยหาทางเตรียมตัวหากกรีซจำเป็นต้องออกจากสมาชิกกลุ่มฯ โดยการประชุมได้มีโอกาสพบปะของ 3 กลุ่มเจ้าหนี้ใหญ่ของกรีซคือ ECB, IMF, EU การประชุมไม่ได้พูดถึงผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยน ตลาดเงินและตลาดทุน ก่อนหน้านี้รัฐมนตรีคลังอังกฤษได้โทรพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของกรีซถึงความรีบเร่งในการคุยแผนการปฏิรูปของกรีซซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการเจรจาหนี้ให้เสร็จเร็วก่อนเศรษฐกิจจะหดตัวมากกว่าปัจจุบัน (Bloomberg)
กสิกรตั้งเป้าสินเชื่อนอกโต 5% ระบุการค้าระหว่างประเทศผ่านแบงก์โตสูงกว่าระบบ
ผนึกหอการค้าโอซาก้าจับคู่ ลูกค้าเอสเอ็มอีไทย-ญี่ปุ่น หวัง1ปีมูลค่าการค้ากว่า 4,500 ล้าน "กสิกรไทย" ลุยขยายสินเชื่อต่างประเทศตั้งเป้าโต 3-5% จากพอร์ต 3 หมื่นล้านบาท ฟุ้ง 4 เดือนแรกการค้าระหว่างประเทศผ่านแบงก์ยังโตสูงกว่าระบบ ล่าสุดผนึกหอการค้าและอุตสาหกรรมโอซาก้าดึงการค้าการลงทุน ช่วยจับคู่เอสเอ็มอีไทย-ญี่ปุ่น คาดมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 4,500 ล้านบาทภายใน 1 ปี พร้อมรุกตลาดอาเซียน+3 (หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ)
บิ๊ก ทอท.ยันคลังไม่มีนโยบายขายหุ้น
นายประสงค์ พูนธเนศ ประธานกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) เปิดเผยตนได้สอบถามสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) แล้วได้รับทราบข้อเท็จจริงว่า กระทรวงการคลังไม่มีนโยบายขายหุ้นบริษัทสำหรับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กระทรวงการคลังถือหุ้นอยู่ 70% นั้นเนื่องจากกิจการของบริษัทเป็นกิจการเกี่ยวกับสาธารณูปโภคและความมั่นคงที่รัฐจะต้องให้การดูแล ประกอบกับบริษัทมีผลประกอบการที่ดีและมีการจ่ายเงินปันผลให้กับกระทรวงการคลังมาโดยตลอด (หนังสือพิมพ์บ้านเมือง)
กรุงไทยลุยแบงก์แอสชัวรันส์
นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจรายย่อยและเครือข่าย ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยภาพรวมการดำเนินธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์ของธนาคารในช่วง 4 เดือนแรกที่ผ่านมาว่า ธนาคารมีเบี้ยประกันชีวิตและวินาศภัยใหม่เพิ่มกว่า 4,000 ล้านบาท จากเป้าที่ตั้งเป้าไว้ที่ 15,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25% จากปีที่ผ่านมา โดยการขยายตลาดแบงก์แอสชัวรันส์จากฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่กว่า 12 ล้านราย และจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มทางเลือกในการวางแผนชีวิตให้กับลูกค้า ตามวิสัยทัศน์ KTB Growing Together หรือ กรุงไทย ก้าวไกล ไปกับคุณ (หนังสือพิมพ์บ้านเมือง)
"อาคม" ล็อบบี้มหามิตรก่อนโดนสอย
นายสมชาย พิพุธวัฒน์ อธิบดีกรมการบินพลเรือน เปิดเผยว่า ในกลางเดือน มิ.ย. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม จะนำคณะเดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อเข้าพบผู้อำนวยการขององค์กรบริหารการบินแห่งสหรัฐอเมริกา (เอฟเอเอ) เพื่อทำความเข้าใจและชี้แจงให้เอฟเอเอรับทราบถึงความค้บหน้าในการดำเนินการแก้ไขปัญหากรณีที่องค์การการบินพลเรือนแห่งชาติ หรือ(ไอซีเอโอ) ตรวจพบข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัยด้านการบิน (เอสเอสพี) เพื่อให้เอฟเอเอเห็นว่า รัฐบาลไทยมีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงโดยเร็ว (หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ)
ปลื้ม!ทัวริสต์จีนช็อปกระจาย ขึ้นเบอร์หนึ่งกระเป๋าหนักจ่ายวันละ 6,346 บาท
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-25 พ.ค.2558 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 11.95 ล้านคน นำรายได้เข้าประเทศ 578,945 ล้านบาท คาดว่าตลอดทั้งปีนี้จะทำได้ตามเป้า มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 28.5 ล้านคน นำรายได้เข้าประเทศ 1.4 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ พบว่านักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาประเทศไทยในไตรมาสแรก เริ่มเข้าสู่นักท่องเที่ยวคุณภาพ โดยมีค่าใช้จ่ายต่อคนต่อวันสูงเป็นอันดับหนึ่งคือ 6,346 บาท ขณะที่ค่าเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวทุกชาติอยู่ที่ 4,950 บาทต่อคนต่อวัน (หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ)
ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ Tel. (662) 618-1330-1
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
รายงานวันนี้
หุ้น: QH คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 3.20
จากการเข้าร่วมประชุมกับผู้บริหารและนักลงทุนต่างชาติเมื่อวานนี้ นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับความสี่ยงด้านกฎเกณฑ์จากธปท.และภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจ แต่ยืนยันพร้อมเข้าซื้อสะสมทันทีที่มีสัญญาณการฟื้นตัว
ด้าน QH เน้นเพิ่มความแข็งแกร่งของงบดุลและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานในช่วงที่เศรษฐกิจยังคงมีความเสี่ยงในปี 2558 นี้
โดยบริษัทตั้งใจจะลดสัดส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนลงจาก 1.3 เท่า ณ สิ้นเดือนมี.ค. เหลือ 1.1 เท่า ณ สิ้นปี 2558 และคาดยอดจองซื้อปี 2558 เติบโต 23% ที่ 23.6พันล้านบาทและรายได้เพิ่มขึ้น 10% ที่ 22.1 พันล้านบาท
นักวิเคราะห์: นฤมล เอกสมุทร, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หมายเหตุ: รายงานดังกล่าวเป็นเพียงเนื้อหาโดยสรุป สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในรายงานฉบับเต็ม
โดย บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง ประจำวันที่ 28 พ.ค. 2558
เอกสารฉบับนี้ จัดทำขึ้นโดยอาศัยข้อมูลที่ได้รับพิจารณาแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือ แต่ทั้งนี้บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่าว บทวิเคราะห์ หรือความเห็นที่แสดงไว้ในเอกสารฉบับนี้ จัดทำขึ้นโดยการพิจารณาโดยเหมาะสมและรอบคอบแล้ว เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน และอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการชี้ชวน หรือเสนอแนะในการซื้อขายหลักทรัพย์แต่อย่างใด ดังนั้นการนำไปใช้ให้ถือว่าเป็นผลจากการยอมรับความเสี่ยงและดุลยพินิจของท่านเป็นสำคัญ