- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 28 May 2015 17:37
- Hits: 1065
บล.กรุงศรี : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
บทวิจัยตลาดทุนกรุงศรี (Morning Brief Package)
ภาวะตลาดหุ้นวานนี้:
SET ปรับตัวลงในช่วงเปิดตลาด ก่อนที่จะมีแรงซื้อเข้ามาตลอดทั้งวัน ทำให้ท้ายตลาดรีบาวน์เป็นบวกที่ระดับ 1500.84 จุด (+2.86 จุด หรือ +0.19%) โดยได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นในยุโรป แม้ว่าตลาดหุ้นในเอเชียส่วนใหญ่จะยืนอยู่ในแดนลบ ซึ่งหุ้นกลุ่มปิโตรเคมี ขนส่ง และยานยนต์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นกลุ่มที่ช่วยพยุงตลาดไว้ ในขณะที่มูลค่าการซื้อขายปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากวันก่อนมาอยู่ที่ระดับ 31,751 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิมาเป็นอันดับหนึ่งที่ 2,145 ล้านบาท ในขณะที่กองทุนในประเทศเป็นผู้ขายสุทธิ 1,467 ล้านบาท ร่วมกับนักลงทุนต่างชาติที่กลับมาขายสุทธิเป็นวันแรก 789 ล้านบาท หลังจากที่ซื้อสุทธิติดต่อกันมา 5 วันทำการ
แนวโน้มวันนี้:
เราประเมินการเพิ่มขึ้นของ SET เมื่อวานนี้ว่าตลาดยังคงอยู่ในช่วงแกว่งตัว โดยมีปัจจัยลบที่ต้องจับตาคือ ปัญหาหนี้สินของกรีซ ซึ่งรัฐบาลกรีซอาจต้องผิดนัดชำระหนี้เนื่องมาจากไม่มีเงินเพียงพอที่จะชำระหนี้ IMF ใน 4 งวดของเดือน มิ.ย. รวมเป็นเงิน 1.6 พันล้านยูโร (5.9 หมื่นล้านบาท) ประกอบกับความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นเร็วเกินไป อย่างไรก็ตามเรามีมุมมองเป็นบวกกับการที่ SET สามารถกลับมายืนเหนือ 1500 จุดได้ แนะนำกรอบแนวรับ/ต้าน 1500/1515 จุด (หลีกเลี่ยงหากดัชนีหลุด 1490 จุด) เราแนะนำซื้อเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มปิโตร (IVL) ราคา Spread ของผลิตภัณฑ์ PET ปรับตัวขึ้น, กลุ่มพาณิชย์ (HMPRO) มีการขยายสาขาเพิ่มมากขึ้น, กลุ่มขนส่ง (BECL) น่าจะได้รับประโยชน์จากการควบรวมกับ BMCL, และกลุ่มธนาคาร (SCB) ได้รับรู้ปัจจัยลบจาการปรับลดอัตราดอกเบี้ยแล้ว
ปัจจัยที่มีผลกระทบ
สหรัฐได้มีการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน พ.ค. ออกมาดีกว่าที่คาด โดยอยู่ที่ระดับ 95.4 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ 94.3 ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้
HSBC ได้ปรับลดการคาดการณ์การขยายตัวของ GDP ของจีนปี 2558 ลงเหลือ 7.1% จากระดับ 7.3% พร้อมกับปรับเพิ่มคาดการณ์เรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย จากเดิมที่คาดว่าจีนจะลดดอกเบี้ย 0.25% เป็น 0.50% หลังจากที่การส่งออกของจีนในปีนี้อ่อนตัวลง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงดีมานด์ในต่างประเทศที่อ่อนตัวและเงินหยวนที่แข็งค่า
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเยอรมันในเดือน พ.ค. พุ่งสูงสุดในรอบ 13 ปีครึ่งมาอยู่ที่ 10.1 และคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 10.2 ในเดือน มิ.ย. สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจเชิงบวกกับอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำ ทำให้ผู้คนกล้าจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ซึ่งเป็นผลสำรวจจากบริษัทผู้นำด้านการวิจัยทางการตลาด GFK
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ประเมินว่า มูลค่าการส่งออกของไทยในช่วงไตรมาสที่สองมีสัญญาณที่ดีขึ้น แต่อาจไม่เพียงพอที่จะผลักดันให้การส่งออกของไทยทั้งปีกลับมาขยายตัว เนื่องจากยังมีอีกหลายปัจจัยที่กดดันการส่งออกของไทย โดยมองว่าการส่งออกของไทยปีนี้มีโอกาสหดตัวติดต่อกันเป็นปีที่สาม
รายงานประจำวันนี้
BANPU | NR/ Fair Value NR
Result Note: A value trap, pending power listing catalyst in 1Q16