WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

KGI copyบล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
แกว่งลงตามต่างประเทศ หาจังหวะเข้าเก็งกำไร
       KGI คาด SET วันพุธเปิดลงต่อ ตามปัจจัยลบภายนอก (หลังวานนี้ลงแรงกว่าคาดเล็กน้อย) แนะเข้าเก็งกำไรโดยอิงแนวรับนักวิเคราะห์เทคนิค KGI แถว 1,485 จุด ความกังวลต่อช่วงเวลาที่สหรัฐฯ จะขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรก ยังกดดันหุ้นโลก โดยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่น คำสั่งซื้อสินค้าคงทน เม.ย. และยอดขายบ้านใหม่ เม.ย. ที่ออกมาสูงกว่าคาดเมื่อคืนนี้ ผลักดัน Dollar Index สูงสุดรอบเกือบ 1 เดือนและส่งผลให้หุ้นสหรัฐฯ และตลาดน้ำมันปรับฐานลง ท่ามกลางความไม่ชัดเจนเรื่องปัญหาหนี้สินกรีซที่ดำรงอยู่ กลยุทธ์สั้นจึงแนะเก็งกำไรตามแนวรับข้างต้น ส่วนการประเมินความเสี่ยงทางลงของ SET นั้น คาดกรณีแย่สุดจะไม่หลุด 1,450 จุด อิง PE band 17 เท่าของกำไรกลางปี 2558 (ต่ำกว่าระดับ 1,470 จุดที่มองครั้งก่อน เนื่องจากเราปรับลดประมาณการกำไร บจ. หลังผลประกอบการไตรมาส 1/58 ออกมาแล้ว)

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)


“รอ” เก็งกำไรที่แนวรับ CK* / THANI / BJCHI* / SCN

 

  CK* (เป้าพื้นฐาน 34.7 บาท) 1) วานนี้ที่ประชุม ครม มีมติเห็นชอบ ยุทธ์ศาสตร์ร่วมทุน"รัฐ-เอกชน" ระยะ 5 ปี วงเงิน 1.41 ล้านล้านบาท คาดเป็น Sentiment บวกต่อผู้รับเหมาฯ อย่าง CK* 2) ประเมินแนวรับ 24.5 บาท (Stop loss 23.5 บาท)

 

  THAINI (เป้า Consensus 4.08 บาท) 1) นัก เศรษฐศาสตร์ บล เคจีไอ ประเมิน ที่ประชุม กนง วันที่ 10 มิ.ย. จะทำการลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% เป็นบวกต่อกลุ่มลีสซิ่ง ทั้งในด้านต้นทุนการเงินและการบริโภคในประเทศ 2) THANI เป็นหุ้นที่ Laggard หุ้นกลุ่มลีสซิ่ง และ Consensus ประเมิน PE ปีนี้ต่ำเพียง 8.6 เท่า Dividend yield 6.5% 3) ประเมินแนวรับ 2.98 บาท (Stop loss 2.60 บาท)

 

  BJCHI* (เป้าพื้นฐาน 10.4 บาท) 1) ผลต่อเนื่องจากแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายที่จะลดลง คาดค่าเงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าลงต่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นบวกต่อหุ้นที่มีรายรับเป็นดอลลาร์สหรัฐฯ อย่าง BJHCI 2) คาดในไตรมาส 2/58 และ 2H58 BJCHI จะมีรายรับเป็นค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯมากขึ้น เปลี่ยนจากที่ไตรมาสแรกรับเป็นเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย (ทำให้มีโอกาสที่จะกำไรค่าเงิน) 3) ประเมินแนวรับ 7.3 บาท ... วันที่ 28 พ.ค. นี้ ผู้บริหารโรดโชว์นักลงทุนรายย่อยและเจ้าหน้าที่การตลาดฯ ที่ บล. เคจีไอ สำนักงานใหญ่ (สนใจเข้าร่วมงานติดต่อ โทร 02-658-8842 หรือ อีเมล์ [email protected])


  SCN (เป้าสูงสุดใน Consensus 17 บาท) 1) คาดได้อานิสงค์จากนโยบายของภาครัฐฯ (ภาครัฐฯ หนุนให้เร่งประมูลสัมปทานรอบที่ 21 โดยรอ สนช พิจารณาแก้ไข พ.ร.บ.ปิโตรเลียมและภาษีเงินได้ปิโตรเลียม) และ PTT* ที่ส่งเสริมการใช้แก๊ซ NGV (ล่าสุดวางนโยบายให้เปิดปั๊ม NGV 25 ปั๊มใน 3 ปี มูลค่ารวมราว 1 – 1.5 พันล้านบาท เป็นบวกต่อ SCN ในด้านงานรับเหมาฯ โดยปกติ SCN มีส่วนแบ่งตลาดฯงานรับเหมาฯราว 70 – 80% และปริมาณการใช้แก๊ซ NGV ที่จะเพิ่มขึ้น) 2) ประเมินแนวรับ 13.5 บาท (หากต่ำกว่า แนะนำ “รอ” ที่แนวรับถัดไป 13 บาท) ... เข้า MSCI Global small cap มีผล 29 พ.ค. นี้


... หุ้นพลังงานทดแทน (IFEC*, EA, GUNKUL*) รองปลัดกระทรวงพลังงาน เผยศักยภาพของสายส่งไฟฟ้าที่จะสามารถรองรับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนใหม่ในช่วงปี 58-60 จะมีเพียง 3,000MW (ไม่รวมโซลาร์ฟาร์มค้างท่อ) ทำให้นักลงทุนฯกังวลต่อประเด็นดังกล่าว อย่างไรก็ดี เราประเมิน การรับซื้อไฟฟ้า 3,000MW เพียงพอต่อ การประมูลใบ PPA ของ IFEC*, EA, และ GUNKUL* ที่ปัจจุบันมีใบ LOI พลังงานลมแล้ว 180MW, 180MW, และ 60MW ตามลำดับ (โครงการพลังงานลมที่มีความเสี่ยงคือ โครงการพลังงานลมของ WEH ที่เน้นภาคอีสาน เนื่องจากปัญหาสายส่งฯ) เรายังคงประเมินว่า IFEC*, EA, และ GUNKUL* มีความพร้อมสำหรับการประมูลรอบนี้ (ไม่เกิน ก.ค.58) แนะนำ “ซื้อสะสม” IFEC*, EA, และ GUNKUL*


… KTB* (เป้าพื้นฐาน 25.75 บาท) กลยุทธ์ Pair trade แนะนำเปิด Long KTB* พร้อมกับ เปิด Short KBANK* เพื่อปิดความเสี่ยงตลาดฯ (อัตราส่วนราคา KTB*/KBANK* หลุดกรอบ -2 Standard Deviation ใช้ระยะเวลาคำนวณ 1 ปี) ผลตอบแทนรวมตั้งแต่เราแนะนำวันที่ 24 เม.ย. ขาดทุน -2.4% (หากผลขาดทุน > -5% แนะนำ Stop loss)


… หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า 1) PLANB (เป้าพื้นฐาน 5.6 บาท ... ประเมินเบื้องต้น) แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” แนวรับ 5 บาท แนวต้าน 5.4 บาท ... คาดงบไตรมาสแรก (กำไรโต 53% YoY) เป็นจุดต่ำสุดของปี 2) TSR (ยังไม่มีเป้า Consensus) ประเมินแนวรับ 7.7 บาท แนวต้าน 8.3 บาท คาดแจก Warrant ฟรี 2:1 (ยังไม่กำหนดวัน XW คาดเป็นช่วงเดือน มิ.ย. – ก.ค.) ... คาดงบไตรมาส 2/58 โต QoQ จากการเพิ่มสินค้าใหม่ (ไตรมาสแรกกำไรโต +45% YoY) 3) JAS (เป้า Consensus 7.2 บาท) แนะนำ “เก็งกำไร” แนวรับ 5.5 บาท แนวต้าน 5.8 บาท

 

หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
  ถือต่อได้แนวโน้มยังดี: BJCHI*, SCC*, KTB*, PLANB
  พอร์ตเก็งกำไร: IFEC, TSR
ขายตัดขาดทุน: SEAOIL (หลุดแนวรับสำคัญ 9.9 บาท)

 

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
  TASCO ยังคงแนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 23.4 บาท (ปรับขึ้นจาก 16.6 บาท) จากการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้มุมมองเป็นบวก จากความต้องการใช้ยางมะตอยที่แข็งแกร่งทั้งในและต่างประเทศ + ราคายางมะตอยฟื้นตัว

 

ข่าวเด่นจากสถาบันวิจัยฯ
  BBL* – มีความเสี่ยงต่อการผิดนัดชำระค่าใบอนุญาตทีวีดิจิตอล Thai TV ได้ยื่นจดหมายถึง NBTC ในการขอคืนใบอนุญาตผู้ประกอบทีวีดิจิตอล 2 ช่อง และปฏิเสธการจ่ายค่าสัปทานงวด 2 เป็นจำนวนเงิน 288 ล้านบาท ทาง NBTC เองบอกว่า Thai TV ไม่สามารถทำได้ และหากบริษัทต้องการคืนใบอนุญาต ทาง Thai TV เองก็ต้องจ่ายค่าสัปทานที่เหลือจนครบ ซึ่งหาก Thai TV ปฏิเสธ ทาง NBTC มีสิทธิที่จะยึดเงินค้ำประกันที่การันตีโดยธนาคารกรุงเทพ ความเห็น ประเด็นดังกล่าวนับเป็นความเสี่ยงกับ BBL ในฐานะเป็นผู้ออกจดหมายค้ำประกัน ซึ่งขั้นตอนจากนี้จะเป็นการเจรจาระหว่าง NBTC กับ Thai TV เพือบริษัทกลับมาเป็นผู้ดำเนินธุรกิจต่อไป อย่างไรก็ตามหากไม่สำเร็จจะทำให้เกิดความเสียหายกับ BBL ซึ่งธนาคารมีสิทธิที่จะฟ้องไล่เบี้ยต่อกับ Thai TV อีกทอดหนึ่ง โดยจำนวนเงิน 1.6 พันบาทคิดเป็น 3.5% ของกำไรสุทธิของธนาคาร

 

   (0) THCOM ไอซีทีเซ็นตั้งทีมเจรจาดาวเทียมร่วมระหว่างกระทรวงไอซีทีกับตัวแทนทางไทยคม กรอบการเจรจาจะเกี่ยวข้องกับ 1) การบริหารวงโควจรในอนาคต 2) ดาวเทียมไอพีสตาร์อยู่ภายใต้สัมปทานหรือไม่ 3) การจัดทำดาวเทียมสื่อสารแห่งชาติ (กรุงเทพธุรกิจฯ) ความเห็น: โดยเบื้องต้นเราคาดว่าTHCOM จะไม่ถูกกระทบจากประเด็นทั้ง 3 เรากลับมองว่าการมีความชัดเจนของทั้ง3เรื่อง จะช่วยปลดล็อคความกังวล และทำให้ราคาหุ้นTHCOM กลับไปสู่พื้นฐานที่แท้จริงได้ อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ขึ้นกับข้อตกลงที่ออกมาจากทั้ง 2 ฝ่ายว่าจะเป็นอย่างไร เรายังคงแนะนำซื้อ จากความเสี่ยงที่น้อยกว่าผลตอบแทนคาดหวัง ที่เป้าพื้นฐาน 51.50 บาท


   (+) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง; รัฐบาลไทยอนุมัติการร่วมมือก่อสร้างระบบขนส่งทางรางร่วมกับญี่ปุ่น (บางกอกโพสต์) การเซ็นสัญญา MOC เพื่อเตรียมก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงระยะทาง 635 กม จากกรุงเทพ-เชียงใหม่และอีก 574 กม ในส่วนของรถไฟรางคู่ ช่วงกาญจนบุรี-กรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา-อรัญประเทศ ถือเป็นข่าวบวกต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้างและเป็นเครื่องการันตีว่าการก่อสร้างโครงการดังกล่าวจะเกิดขึ้นในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ดังนั้น ภาพของธุรกิจรับเหมาที่ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น ทำให้เรายังคงน้ำหนัก “มากกว่าตลาด” กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และเลือก CK* เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มราคาเป้าหมาย 34.70 บาท
   ประธานบอร์ด AOT* เผยกระทรวงการคลังไม่มีนโยบายขายหุ้น AOT แต่อย่างใด (ฐานเศรษฐกิจ) นายประสงค์ พูนธเนศ ประธานกรรมการ AOT กล่าวว่า ตามข่าวที่ว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณาออกกฎหมายพิเศษเพื่อล้างหนี้ ซึ่งแนวทางหนึ่งคือ การเตรียมพิจารณาขายหุ้นบางส่วนที่กระทรวงการคลังถือหุ้นอยู่ในบริษัทที่เป็นรัฐวิสาหกิจ ทั้งนี้ กระทรวงการคลังถือหุ้น AOT อยู่ร้อยละ 70 ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) แจ้งว่า กระทรวงการคลังไม่มีนโยบายขายหุ้น AOT เนื่องจากกิจการของ ทอท.เป็นกิจการเกี่ยวกับสาธารณูปโภคและความมั่นคงที่รัฐจะต้องให้การดูแล ประกอบกับหุ้น AOT มีผลประกอบการที่ดีและมีการจ่ายเงินปันผลให้กับกระทรวงการคลังมาโดยตลอด ทั้งนี้ คณะกรรมการและฝ่ายบริหาร AOT กำลังร่วมกันทำงานอย่างหนักเพื่อพัฒนาโครงการขยายและเพิ่มขีดความสามารถของท่าอากาศยานต่างๆที่อยู่ในความรับผิดชอบ เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของธุรกิจการท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้นอยูในขณะนี้ และมีแนวโน้มว่าจะสูงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2559 เรายังคงมุมมองทางบวกต่อแนวโน้มการเติบโตของ AOT ในระยะยาว โดยแนะนำซื้อ และมีราคาเป้าหมายเท่ากับ 345 บาท

 

Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ‘นัยสั้นที่ 1501 จุด
วันนี้ หาก SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1501 จุดได้นั้น อาจสะสมแรงผลักขึ้นทดสอบต้าน 1525 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1501 จุดนั้น อาจกดราคาลงสู่รับ 1485 จุด
แนวรับวันนี้: 1494/1485 แนวต้านวันนี้: 1501/1518

หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล
66.2658.8888 ต่อ 8843
[email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!