- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 26 May 2015 19:16
- Hits: 1104
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA, NASDAQ และ S&P ปิดทำการเนื่องในวันเมมโมเรียล เดย์ เช่นเดียวกับ FTSE และ DAX ที่ปิดทำการ เนื่องในวัน Spring Bank Holiday และ Whit Monday ตามลำดับยกเว้น CAC -25.72 โดยได้รับปัจจัยกดดันจากสถานการณ์ในกรีซ หลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรีซออกมาส่งสัญญาณว่า กรีซอาจจะไม่มีเงินจ่ายหนี้ให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในเดือนมิย.นี้ และเรียกร้องให้กลุ่มเจ้าหนี้ยอมประนีประนอมเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่กรีซ
…..ตลาดน้ำมันนิวยอร์กปิดทำการเนื่องในวันเมมโมเรียล เดย์ ขณะที่ล่าสุด (22/5/58) ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ก.ค. -US$1.00 อยู่ที่ US$59.72 ต่อบาร์เรล
......ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการเนื่องในวันเมมโมเรียล เดย์ ขณะที่ล่าสุด (22/5/58) ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน มิ.ย. -US$0.1 อยู่ที่ US$1,204.0 ต่อออนซ์
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +966 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -4,519 ล้านบาท (ปี’57 มียอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
(-) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม - เมย. อยู่ที่ 86.2 ลดลงจาก 87.7 เมื่อมีค. ซึ่งลดลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน
ทิศทางตลาด
ทิศทางตลาด : Sideway? หลังดัชนีลดลงวานนี้ คาดมีโอกาสปรับขึ้นแต่เป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ ที่เป็นบวกเข้ามา นอกจาก Sentiment ที่ดีจาก Fund Flow หลังต่างชาติซื้อสุทธิเพิ่มอีกเกือบ 1,000 ล้านบาท ขณะที่ยังมีปัจจัยเดิมที่คาดมีผลกระทบอยู่ เช่น (1) ความกังวลต่อทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ที่คาดผลกระทบต่อหุ้นในกลุ่มสื่อสาร และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งยังไม่เหมาะที่จะเข้าเก็งกำไรในช่วงนี้ รวมถึงกลุ่มธนาคาร จากประเด็นความกังวล NPL หลัง KTB มีการตั้งสำรองเพิ่ม และ (2) ประเด็นที่กระทรวงการคลังจะขายหุ้น ที่คาดเป็น Sentiment ลบ ต่อหุ้นที่กระทรวงการคลังถืออยู่ เช่น PDI, MFC, TMB, NEP, MCOT, THAI, PTT, BCP, AOT และ THL ขณะที่ในวันนี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขส่งออก – เมย. ซึ่งคาดลดลง 3.2 – 3.3%yoy โดยคาดเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 อย่างไรก็ตามคาดอยู่ในความคาดหมายของตลาด และคาดตัวเลขดังกล่าวเริ่มฟื้นตัวขึ้นจากมีค. ที่ติดลบ 4.45%
.....อย่างไรก็ตามแนะติดตามกลุ่มโรงกลั่น เช่น TOP, PTTGC, IRPC และ BCP จากค่าการกลั่นที่อยู่ในระดับสูง รวมถึง (1) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น CK, ITD, SEAFCO, TRC และ UNIQ (2) ค่าเงินบาทที่มีทิศทางอ่อนค่าอีกครั้ง โดยเคลื่อนไหวบริเวณ 33.65 – 33.67 คาดส่งผลดีต่อส่งออก และหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เช่น DELTA, HANA, SMT (3) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น SCC และ TASCO เป็นต้น
....ส่วนทางด้านประเด็นต่างประเทศคาดยังมีน้ำหนักเป็นลบ (1) การส่งสัญญาณของประธานเฟด ล่าสุดที่มีความเป็นไปได้จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หากแนวโน้มเศรษฐกิจเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ และ (2) ความไม่แน่นอนต่อสถานการณ์กรีซ โดยเฉพาะปัญหาสภาพคล่อง ซึ่งหากกรณีเลวร้ายสุดอาจส่งผลกระทบต่อกรีซและอาจลุกลามไปยังประเทศต่างๆ ใน EU หากไม่สามารถเจรจาข้อตกลงกับกลุ่มเจ้าหนี้ได้ โดยกรีซมีหนี้ที่ครบกำหนดชำระต่อ IMF ในเดือนมิ.ย. รวมแล้วอีกประมาณ 1,600 ล้านยูโร ทำให้คาดยังเป็นปัจจัยที่กดดันภาพรวมตลาดต่อเนื่อง
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.03 อยู่ที่ 2.22% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.02 อยู่ที่ 12.13
หุ้นแนะนำ : PTTGC
ประเด็นที่ต้องติดตาม (26 - 29 พค.’58)
26/5/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน - เมย. (2) ราคาบ้าน - มีค. (3) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการ - พค.(4) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค - พค. (5) ยอดขายบ้านใหม่ - เมย.
27/5/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) สต็อกน้ำมัน
28/5/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (2) ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) - เมย.
29/5/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ประมาณการ GDP – 1Q/58 (2) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโก - พค.(3) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้าย - พค.
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788