- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 26 May 2015 19:10
- Hits: 1307
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แม้ SET ยังปรับพักตัว แต่คาดกรอบลบจำกัดและยังลุ้นบวกได้!
กลยุทธ์ : SET ยังมีสิทธิแกว่งตัวผันผวนและลบต่อได้ แต่เราคาดว่ากรอบการปรับตัวลงน่าจะยังจำกัด และมีลุ้นโอกาสขยับบวกขึ้นไปหาระดับดัชนีเป้าหมายของปีนี้ที่ FSS ประเมินไว้ที่ 1560 จุดหรือใกล้เคียงได้ในที่สุด ดังนั้นแนะนำให้ถือหุ้นเพื่อรอทำกำไรและขายลดพอร์ตในช่วง SET ดีดขึ้นหาเป้าหมายต่อไป แต่กรอบขึ้นที่ประเมินไว้มี upside จำกัดเช่นกัน จึงไม่ควรไล่ซื้อช่วงบวก
หุ้นเด่นทางเทคนิค : SOLAR, CHO, THAI(buy back)
แนวโน้ม : เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันเมมโมเรียลเดย์ ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปหลายแห่งก็ปิดทำการ ทำให้เช้านี้ไม่ได้มีปัจจัยชี้นำมากนัก โดยตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ยังเปิดทำการด้วยการบวก/ลบแคบๆ ซึ่ง FSS คาดว่าน่าจะส่งผลให้ SET อยู่ในลักษณะแกว่งตัวผันผวนในกรอบจำกัดได้ด้วยเช่นกัน หลังจากเมื่อวานนี้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงค่อนข้างแรงพอควรไปแล้ว อย่างไรก็ตาม SET ยังมีสิทธิที่จะปรับพักตัวลงต่อในด้านลบอีก เนื่องจากยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลต่อสถานการณ์หนี้ของกรีซ หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรีซได้ออกมาส่งสัญญาณว่ากรีซอาจจะไม่มีเงินจ่ายหนี้ให้กับ IMF ในเดือน มิ.ย.นี้ แต่แรงซื้อที่ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องของนักลงทุนต่างประเทศในบ้านเรา น่าจะพอช่วยจำกัดการปรับตัวลงของ SET ได้บ้าง และถ้ายังไม่ได้มีปัจจัยลบใหม่ๆ เข้ามากดดันเพิ่มเติม โอกาสที่จะมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาช่วยหนุนให้ SET พลิกกลับไปรีบาวด์ขึ้นอีกครั้ง ก็ยังมีความเป็นไปได้ตามที่เราคาดกันไว้ ดังนั้นเรายังแนะนำให้เน้นถือเพื่อรอจังหวะขายทำกำไรในช่วงที่ดัชนีวิ่งขึ้นหาระดับดัชนีเป้าหมาย 1560 จุดหรือใกล้เคียงได้ต่อไป
แนวรับ 1506 , 1500-1494 จุด
แนวต้าน 1513-1515 , 1518-1520 จุด
Fund Flow วานนี้ไหลออตลาดหุ้นภูมิภาคในปริมาณที่เบาบางมาก โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไต้หวัน US$80.7 ล้าน อินโดนีเซีย US$10.7 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$5.6 ล้าน แต่ซื้อไทย US$28.9 ล้าน (ต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน) และเวียดนาม US$2.3 ล้าน ขณะที่เกาหลีใต้ปิดทำการ ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้อ่อนค่าเล็กน้อย Flow น่าจะไหลออกต่อแต่เบาบาง
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) ตัวเลขส่งออกเดือนเม.ย.ที่จะรายงานวันนี้ อาจกดดันตลาด แม้ตลาดจะคาดไว้แล้วว่าการส่งออกเดือน เม.ย. จะลดลง 3.3% Y-Y หดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 แต่อาจกดดันบรรยากาศการลงทุนที่เปราะบางอยู่แล้วให้แย่ลง เราคาดว่าการส่งออกมีโอกาสติดลบตลอดทั้ง 2Q15 เพราะราคาสินค้าส่งออกที่เกี่ยวข้องกับราคาน้ำมันลดลงและเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้ายังชะลอ สำหรับกำไรของกลุ่มอิเล็คทรอนิคส์ในปีนี้ยังโตดี (คาด +17% Y-Y) กว่าสินค้าส่งออกประเภทอื่น แต่ราคาหุ้นปรับขึ้นมาจนมี PE สูงกว่าในอดีต มีเพียง KCE (เป้าหมาย 57 บาท) ที่มี upside มากกว่าหุ้นอื่นในกลุ่ม
(-) โพลล์นักวิเคราะห์ปรับเป้า SET สิ้นปีนี้ลงเหลือ 1,612 จุด จาก 1,670 จุด คาดจุดสูงสุด-ต่ำสุดของปีนี้ที่ 1,662-1,423 จุด มองดัชนี 3 เดือนข้างหน้า (พ.ค.-ก.ค.) เฉลี่ย 1,519 จุด บนสมมติฐาน GDP 3.2% และ EPS growth 22.1% และคาด SET สิ้นปี 2016 ที่ 1,707 จุด (เดิม 1,804 จุด) แนะนำให้ลดการลงทุนในหุ้นลงเหลือ 42.5% เพิ่มตราสารหนี้เป็น 17.6% และลงทุนในหุ้นต่างประเทศ 19.8% ทองคำ 6.7% และเงินสด 11.8% หุ้นที่แนะนำตรงกันหลายสำนักได้แก่ ADVANC, KBANK, KTB, SCC, THCOM
(-) ยอดผลิตรถเดือนเม.ย. ชะลอตามฤดูกาล การฟื้นตัวจะมาจากการส่งออกและอยู่ใน 2H15 สำหรับยอดผลิตรถเดือน เม.ย. -30% M-M, -2% Y-Y เพราะมีวันหยุดหลายวัน โดยยอดขายในประเทศยังหดตัวแรง -27% M-M, -26% Y-Y ส่วนส่งออกดูจะเป็นพระเอกที่เข้ามาช่วยพยุงอุตสาหกรรม แต่เพราะส่วนใหญ่เป็นรถ Eco Car ทำให้เมื่อคิดเป็นมูลค่าแล้วเติบโตไม่มาก เราให้น้ำหนักเพียง Neutral แนะนำเก็งกำไรในหุ้นที่ราคา Underperform ได้แก่ AH (เป้าหมาย 18 บาท) และ STANLY (เป้าหมาย 225 บาท)
(0) สินเชื่อเดือน เม.ย. เพิ่มเล็กน้อย +0.62% M-M จาก 2 เดือนก่อนหน้าที่เพิ่มเดือนละ 0.5% M-M ทำให้สินเชื่อ 4 เดือนแรกโต 1.16% YTD (ถ้ารวม BTMU +3.37%YTD) BAY และ KBANK เป็นแบงก์ที่สินเชื่อโตแรง ขณะที่แบงก์เช่าซื้อทั้ง 3 แห่งยังมีสินเชื่อที่ลดลง 2.2% M-M แม้ราคาหุ้นกลุ่มแบงก์จะปรับลงรับข่าวร้าย (กำไร 2Q15 ชะลอ, NPL เพิ่ม, ตั้งสำรองฯเพิ่ม) ไปแล้วแต่ขาด catalyst ใหม่กระตุ้นราคาหุ้น เราแนะนำ KBANK (ราคาเป้าหมาย 245 บาท) สำหรับการลงทุนระยะยาว ส่วนระยะสั้น เก็งกำไร SCB (ราคาเป้าหมาย 218 บาท) เพราะคาดกำไร 2Q15 โตดีสวนกลุ่ม
(+) INTUCH เป็นหุ้นที่จ่ายปันผลสม่ำเสมอปีละ 2 ครั้ง ให้ Yield 7-8% ต่อปี (ปีนี้จ่ายแล้ว 2.23 บาท/หุ้น คาดว่าเหลือจ่ายอีก 2.94 บาท/หุ้น ประมาณเดือน ก.ย.) ขณะที่ผลประกอบการของบริษัทลูกหลักๆคือ ADVANC, THCOM อ่อนไหวน้อยต่อเศรษฐกิจ ราคาหุ้นปัจจุบันของ INTUCH ซื้อขายต่ำกว่า NAV (93 บาท) ที่ประเมินตามราคาตลาดของบริษัทลูก 17% และต่ำกว่าราคาเป้าหมายของเราที่ 108 บาทถึงกว่า 20% แนะนำซื้อ
(-) ทีวีพูลคืนไลเซ่นส์ทีวีดิจิตอล 2 ช่อง ยอมทิ้งเงินค่าประมูล 1,968 ล้านบาท ขณะที่ BBL เป็นผู้ค้ำประกันให้กับทีวีพูลโดยมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ข่าวนี้อาจสร้างความกังวลให้นักลงทุนแต่เชื่อว่าผู้ประกอบการในตลาดฯมีสภาพคล่องเพียงพอในการประกอบธุรกิจทีวีดิจิตอล แม้รายได้ค่าโฆษณาจะพลาดเป้าแต่ RS ยังอยู่ในฐานะดีที่สุดในการฟื้นตัว
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดทำการเนื่องในวัน Memorial Day
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนลบนำโดยตลาดหุ้นกรีซและสเปนหลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรีซส่งสัญญาณว่าอาจไม่สามารถจ่ายหนี้ให้กับ IMF ได้ในเดือนมิ.ย.นี้
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่แกว่งตัวออกข้างหลังขาดปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้นตลาด
ค่าเงินบาทแกว่งตัวออกข้างค่อนมาทางอ่อนค่า ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 33.53-33.64 บาท/ดอลลาร์
น้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ค. ปิดทำการเนื่องในวัน Memorial Day
ทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดทำการเนื่องในวัน Memorial Day
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
26 พ.ค. - ไทย: ดุลการค้า (เม.ย.) (ตลาดคาดส่งออก -3.3% Y-Y นำเข้า -6.8% Y-Y)
- สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (เม.ย.), ยอดขายบ้านใหม่ (เม.ย.), S&P/CaseShiller Index (มี.ค.)
28 พ.ค. - ฟิลิปปินส์: 1Q15 GDP
- สหรัฐ: Pending Home Sales (เม.ย.)
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (พ.ค.)
29 พ.ค. - MSCI Index Semi-annual Review การปรับเปลี่ยนหุ้นอิงราคาปิดวันนี้
- ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน เม.ย., ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เม.ย.)
- สหรัฐ: 1Q15 GDP
- กรีซ: เจ้าหนี้กำหนดให้กรีซยื่นแผนปฎิรูปเพื่อขอรับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม
1 มิ.ย. - ไทย: อัตราเงินเฟ้อ (พ.ค.)
- จีน: Manufacturing PMI (พ.ค.)
- สหรัฐ: Personal income, Personal spending (เม.ย.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Manufacturing PMI (พ.ค.)
2 มิ.ย. - อินเดีย: ธนาคารกลาง (RBI) ประชุม
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research
