- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 26 May 2015 19:09
- Hits: 1132
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Defensive Stock
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ แม้ว่าจะมีความพยายามฟื้นตัวในช่วงเปิดตลาด แต่ด้วยบรรยากาศรอบเอเชียและยุโรปที่ซึมตัวลง เพราะขาดปัจจัยใหม่ และตลาดหุ้นหลักหลายแห่งปิดทำการ อีกทั้งความกังวลต่อแผนการขายหุ้นของกระทรวงการคลัง กดดันหุ้นหลักต่างๆ ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX ลบ 15.70 จุด มาอยู่ที่ 1,508.16 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเพียง 27,733 ล้านบาท
ขณะที่กระแสเงินทุนต่างชาติเป็นกลาง คงการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 4 อีก 966 ล้านบาท แต่ Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 อีก 4,847 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 1,044 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ติดตามตัวเลขการส่งออกเดือนเม.ย.ของไทย Bloomberg consensus คาด -3.3% yoy ส่วนการนำเข้า -6.8% yoy ส่งผลให้ดุลการค้าขาดดุล US$780ล้าน
ติดตามการประชุมครม. อาจพิจารณากรอบการตกลงโครงการรถไฟรางคู่ระหว่างไทย - ญี่ปุ่น
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองเป็น "กลาง" วันที่ 41 แม้ว่า SET INDEX วานนี้จะซึมตัวหลุดแนว 1,515 จุด ด้วยภาวะการลงทุนที่ขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนการลงทุน เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอีก 2 ตลาดในกลุ่ม TIP วานนี้ ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง บวกกับ ขาดปัจจัยใหม่เข้ากำหนดทิศทางการลงทุน ส่งผลให้ SET INDEX ซึมตัวลง เพื่อทดสอบแนว 1,500 จุดในช่วงสั้นๆ นี้
ขณะที่ตัวเลขการส่งออกเดือนเม.ย.ที่จะประกาศในช่วงสายวันนี้ Bloomberg consensus คาด -3.3% yoy เป็นการหดตัวเดือนที่ 4 สะท้อนมุมมองของตลาดต่อภาคการส่งออกของไทยเป็นไปอย่างเชิงลบ อีกทั้งผลของการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายกนง.ครั้งที่ 2 ปลายเดือนเม.ย. ย่อมมีผลต่อภาคการส่งออกอย่างจำกัด ทั้งนี้เราให้น้ำหนักกับการส่งออกภาคอุตฯ โดยเฉพาะชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และรถยนต์ว่าจะเห็นการฟื้นตัวได้มากน้อยเพียงใด เพื่อประเมินแนวโน้มในช่วงที่เหลือของปีนี้
ด้านแผนการลดสัดส่วนการลงทุนในบริษัทลูกของรัฐวิสาหกิจ / บริษัทจดทะเบียนในตลท. ของกระทรวงการคลัง รมว.คลัง ออกมายืนยันว่าจะพิจารณาในส่วนบริษัทลูกของรัฐวิสาหกิจที่ไม่ได้จดทะเบียนใน ตลท. แต่ไม่สามารถสร้างผลกำไรให้แก่รัฐวิสาหกิจได้ เป็นลำดับแรก ทำให้แรงกดดันดังกล่าวต่อหุ้นหลักในตลท. อย่าง PTT/ AOT / THAI / KTB คลายตัวลง
ดังนั้นเราประเมินว่า หุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสูงราว 3.0% หรือสูงกว่า จะเป็นทางเลือกของการพักเงินได้ค่อนข้างดี เพราะผลตอบแทนดังกล่าวจะช่วยจำกัด Downside risk ภายใต้ภาวะการลงทุนที่ซึมตัวไร้ทิศทางที่ชัดเจน
เช้านี้ตลาดหุ้นเอเชีย (7.16 น.) Nikkei - Kospi เปิดลบเล็กน้อย
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนทยอยสะสมหุ้นเป้าหมายบริเวณ SET INDEX ที่ 1,500 จุด หรือต่ำกว่าอีกส่วน" เพื่อรอขายเมื่อเกิด Technical Rebound
Top Pick in 2Q15: ITD / TASCO / TPIPL/ WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ MONO / TASCO/ WHA/ THAI/ BCP
Accumulative Buy: INTUCH
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "ทยอยสะสม" ได้แก่
1. INTUCH : ราคาปิด 77.50 บาท ราคาเหมาะสม 114.00 บาท
a) MBKET เชื่อว่าหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง จะ Outperform ตลาดได้ในระยะนี้ เนื่องจากภาวะตลาดที่ผันผวน และอัตราดอกเบี้ยในประเทศอยู่ในระดับต่ำเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มเงินปันผลสูง
b) คงมุมมองเชิงบวกต่อภาพระยะกลางของหุ้นกลุ่มสื่อสาร จากการประมูล 4G ในช่วงปลายปี และเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ปลดล๊อกความกังวลเรื่องคลื่นความถี่ของ ADVANC ที่จะหมดอายุสัมปทานลงในปี 2558
c) ขณะที่ THCOM เข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการลงทุน และมีการเติบโตของกำไรที่สูง โดยคาดกว่ากำไรสุทธิปี 2558 จะเติบโต +25.7% yoy จากการรับรู้รายได้ของดาวเทียมไทยคม 6 และ IPSTAR ที่มีอัตราการใช้งานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
d) ราคาปิดวานนี้ที่ 77.50 บาท มีส่วนลด 17.1% จาก NAV ของมูลค่าเงินลงทุนใน ADVANC และ THCOM ที่หุ้นละ 93.42 บาท
e) และคาดการณ์เงินปันผลปี 2558 หุ้นละ 5.29 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 6.83%
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียขายสุทธิ US$66 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$374 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
กระแสเงินทุนต่างชาติชะลอตัว
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 4 อีก 966 ล้านบาท รวม 4 วันทำการ ซื้อสุทธิ 6,196 ล้านบาท เทียบกับ 4 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิขายสุทธิ 2,483 ล้านบาท ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิเหลือ 4,518 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures วานนี้ นักลงทุนต่างชาติคงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 4,847 สัญญา รวม 2 วันทำการ Short สุทธิ 10,992 สัญญา กดดันให้ S50M15 กลับมาปิดต่ำกว่า SET50 Index กว้างถึง 5.75 จุด จากวันก่อนหน้า Premium เท่ากับ 0.02 จุด คาดว่าจะเป็นการเปิดสถานะ Short เพิ่มเติม และผลักดันให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้มีสถานะเป็น Short สุทธิเพิ่มเป็น 17,779 สัญญา
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิ 1,044 ล้านบาท รวม 2 วันทำการ ขายสุทธิ 1,836 ล้านบาท ส่งผลให้ราคาพันธบัตรไทยกลับมาลดลงเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 1.21bps จากวันก่อนหน้าลดลง 2.01bps ปิดล่าสุดที่ 2.831%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling เพิ่มขึ้นเป็น 1,299 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 979 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 7 กลับมาสะสมกลุ่มพลังงานหนาแน่น
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิอีก 581 ล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,800 ล้านบาท รวม 7 วันทำการซื้อสุทธิ 6,834 ล้านบาท สรุปภาพรวม NVDR ได้ดังนี้
1. กลุ่มพลังงานถูกซื้อสุทธิสูงสุดอีกครั้ง 368 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มขนส่ง ซื้อสุทธิ 200 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 282 ล้านบาท กลุ่มอสังหาฯ ซื้อสุทธิ 106 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มธนาคารถูกขายสุทธิสูงสุด แต่ก็เพียง 84 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ไม่มี
ยุโรป
ECB ชะลอการเข้าซื้อพันธบัตร: สัปดาห์ที่ 22 พ.ค. ECB เข้าซื้อตราสารหนี้ทั้งสิ้น 1.18 หมื่นล้านยูโร รวมทั้งสิ้นเป็น 1.342 แสนล้านยูโร เป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดใน 3 สัปดาห์
สถานการณ์ในกรีซ ยังไม่คืบหน้า
ผู้นำกรีซเรียกร้องให้เจ้าหนี้ประนีประนอม หลังนายกฯ กรีซ ไม่สามารถตกลงกับเจ้าหนี้อียูได้ โดยยืนยันกรีซ ไม่สามารถรับมาตรการรัดเข็มขัดได้มากไปกว่านี้ พร้อมยืนยัน กรีซ ได้ปฎิบัติตามเงื่อนไขที่ตกลงกับเจ้าหนี้ อียู และ IMF ตลอด 3 ไตรมาสที่ผ่านมาแล้ว
สภากรีซเตรียมเปิดวันนี้ เพื่อหารือกับ รมว.คลัง ในการรับความช่วยเหลือจากเจ้าหนี้ troika ขระที่ โฆษกรัฐบาล คาดว่าการเจรจาต่อรองจะสามารถสรุปได้ภายในสิ้นเดือนพ.ค.นี้ ทั้งนี้ประเด็นที่ยังตกลงกันไม่ได้คือ เป้าหมายงบประมาณ, อัตราภาษีขาย, กองทุนบำเหน็จบำนาญ และกฎในตลาดแรงงาน
จีน
จีนลดภาษีนำเข้าหลายรายการ: ไม่ว่าจะเป็นรองเท้ากีฬา, เครื่องสำอางค์ หรือเสื้อผ้า โดยลดภาษีนำเข้ามากกว่า 50% เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวการบริโภคภายในประเทศ ลดการพึ่งพิงการส่งออก และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
เอเชียแปซิฟิก
เศรษฐกิจสิงคโปร์ขยายตัวดีกว่าคาด: เติบโต 3.2% qoq ใน 1Q58 เทียบกับตัวเลขเบื้องต้นเดือนเม.ย.ที่ 1.1% qoq และดีกว่า Bloomberg consensus คาด 2.0% qoq ทั้งนี้รัฐบาลยืนเป้าหมายเศรษฐกิจเติบโต 2-4%
อัตราเงินเฟ้อสิงคโปร์หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6: เดือน เม.ย.หดตัว 0.5% yoy ต่อเนื่องจากเดือน มี.ค.ที่หดตัว 0.3% yoy ขณะที่ Bloomberg Consensus คาดคงคัวจากปีก่อน นอกจากนี้เป็นการหดตั 0.6% mom นำโดยราคาที่อยู่อาศัยและขนส่งที่ปรับตัวลง
ไทย
ไม่มี
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530