- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 25 May 2015 16:36
- Hits: 1020
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ก่อน (18-22 พฤษภาคม 58)
SET ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน แม้ว่าจะได้รับแรงกดดันจากความกังวลต่อปัญหา NPL ของหุ้นกลุ่มธนาคาร แต่ด้วยทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐที่มีสัญญาณบวกมากขึ้น สร้างแรงซื้อในสินทรัพย์เสี่ยง ดันSET Index ปิดที่ 1523.86 จุด เปลี่ยนแปลง +11.67 จุดWoW
ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้
(+) ญี่ปุ่นรายงานตัวเลขการส่งออกดีกว่าคาดในช่วงเช้านี้ สร้างแรงซื้อดันดัชนี Nikkei ให้ New High อีกครั้ง
(+) BOT ให้สัมภาษณ์ว่า ยังมีโอกาสที่ไทยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกเพื่อสร้างความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ พร้อมพอใจกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่า
(-) ประธาน FED กล่าวสุนทรพจน์ว่า FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้หากเศรษฐกิจยังคงมีแนวโน้มตามที่เธอคาดการณ์ โดยจะเป็นการปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป และใช้เวลาหลายปีกว่าอัตราดอกเบี้ยจะกลับเข้าสู่ระดับปกติ
(-) ปัญหาการเงินของกรีซ จากการคาดหมายว่า กรีซไม่มีเงินที่จะชำระหนี้คืน IMF ในงวดเดือนมิ.ย. มูลค่า 1.6 พันล้านดอลลาร์ หากไม่ได้รับการช่วยเหลือจาก IMF และ ECB สร้างความกังวลว่ากรีซอาจไม่สามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกของยูโรโซนต่อไปได้
(-) MOF เผยอยู่ระหว่างการพิจารณาออกกฎหมายพิเศษ เพื่อล้างหนี้ วงเงินกว่า 7.2 แสนล้านบาท โดยมีแผนขายหุ้นที่ถืออยู่ออกไป พร้อมเสนอกฎหมายพิเศษเพื่อกู้เงิน
(+/-) สวนดุสิตโพล เผยผลงานในรอบ 1 ปีของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ประชาชนส่วนใหญ่พอใจมากสุดคือการจัดการปัญหาความขัดแย้งในสังคม ขณะเดียวกันสิ่งที่ประชาชนผิดหวังมากสุดคือ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
(+/-) การประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่ม G7 ที่เมืองเดรสเดน ทางตะวันออกของเยอรมนี เป็นระยะเวลา 3 วัน
(+/-) ความคืบหน้าการเจรจาหนี้ของกรีซ
(+/-) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ยอดขายบ้านใหม่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และ GDP ญี่ปุ่น CPI
(+/-) การคาดหมายทิศทางการประชุม OPEC ก่อนการประชุมในช่วงต้นเดือนมิถุนายน
ความคิดเห็น
ประเมินภาพรวมดัชนีมีโอกาสปรับตัวลดลงในสัปดาห์นี้ จากแรงกดดันของแนวโน้มดอกเบี้ยของสหรัฐหลังประธาน FED กล่าวว่า FED จะมีการดำเนินการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ หากเศรษฐกิจฟื้นตัวตามที่คาด พร้อมปัญหาการเจรจากรีซที่ยืดเยื้อมากขึ้น ก่อนการครบกำหนดหนี้ในช่วงต้นเดือนมิถุนายน ด้านในประเทศความกังวลต่อปัญหา NPL ในระบบธนาคารยังคงกดดัน ขณะที่ปัจจัยบวกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐยังคงเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญ
กลยุทธ์การลงทุน
ประเมินด้วยภาพรวมที่ขาดปัจจัยบวกที่โดดเด่น ทำให้การปรับตัวเพิ่มขึ้นของดัชนีเป็นโอกาสขายทำกำไร เพื่อรอสะสมการลงทุนใหม่อีกครั้ง
วิเคราะห์ SET ประจำสัปดาห์ 25 - 29 พ.ค. 58
SET ระวังสัญญาณขาย
SET Closed 1,523.86 High: 1,536.30 Low : 1,505.67
Resistant : 1,530 , 1,544 Support : 1,514 , 1,410
กราฟ SET ปรับตัวขึ้นตามสัญญาณซื้อในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ปิดตลาดวันสุดท้ายการทิ้งตัวของหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มหลักทำให้กราฟแท่งเทียนส่งสัญญาณเตือนให้ระวังสัญญาณขายออกมาตั้งแต่ต้นสัปดาห์ โดย RSI โค้งตัวลง และจะเกิดสัญญาณขายจริงจังเมื่อตัดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย ขณะที่กราฟแท่งเทียนเกิดรูปแบบ Negative Engulfing ซึ่งจะทำให้ต้นสัปดาห์อ่อนตัวลง หากไม่ดึงกลับให้ปิดสูงขึ้น หรือไม่สามารถประคองตัวแบบ Sideway หรือหลุด 1,514 จุดในสัปดาห์นี้ จะเกิด Selling signal สัปดาห์นี้จึงต้องเฝ้ามองระดับ SET อย่างใกล้ชิด
กลยุทธ์
1. หาก SET อ่อนตัวลงตลอดวันไม่ฟื้น ลดน้ำหนักหุ้นกึ่งหนึ่ง และหากหลุด 1,514 จุดเมือปิด ถือหุ้นเพียง 25%
2. หากเปิดอ่อนตัว แล้ว rebound ขึ้นเรื่อยๆ ให้เข้าซื้อหุ้นเก็งกำไร หากปิดสูง ถือหุ้นข้ามวัน
3 หากก่อนปิดเข้าใกล้ 1,530 จุด ให้เพิ่มปริมาณหุ้นถือข้ามวัน และหากปิดต่ำกว่าเปิดถือหุ้นปริมาณน้อยลง
หุ้นเด่นประจำสัปดาห์
INTUCH ราคาปิด 78.25 บาท แนวต้าน 79.50, 82 แนวรับ 78
ราคาเป้าหมายปี 58 ที่ 100 บาท
* INTUCH เป็นหุ้น High Dividend Yield ที่ให้อัตราปันผลปี 58 สูง 7% ต่อปี ซึ่งน่าสนใจในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดต่ำ
* บ.ลูกทั้ง ADVANC และ THCOM มีปัจจัยหนุนการเติบโตผ่านการประมูล 4G (ราวปลายปี 58) และการลงทุนดาวเทียม TC8 (กลางปี 59) ประเมินกำไรปี 58 ของ INTUCH อยู่ที่ 1.7 หมื่นลบ. เติบโตขึ้น 18%YoY
* ราคาหุ้นปัจจุบันที่ 78.25 บาท ยังคงต่ำกว่ามูลค่า NAV ซึ่งอยู่ที่ 95 บาท อยู่อีกราว 17%
กราฟ INTUCH แกว่งตัวระยะสั้นระหว่าง 77-78 บาทมาตลอดเดือนทีผ่านมา แต่ล่าสุดสามารถตัดผ่านแนว 78 บาทขึ้นมาได้สร้างสัญญาณซื้อให้วิ่งต่อไปยังกรอบบนที่ 79.50 บาท และหากผ่านไปได้จะไปทดสอบ 81.50 บาท ขึ้นกับปริมาณโวลุ่มที่จะเข้ามา
คำแนะนำ
1. เข้าซื้อได้ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ไปขายที่ 79.50 บาทกึ่งหนึ่ง
2. ให้ถือหุ้นกึ่งหนึ่งที่เหลือต่อไป หากราคาไม่ขยับไปกว่านี้ให้ขาย
3. หากราคาหุ้นอ่อนตัวต่ำกว่า 78 บาท ขาย cut รอรอรับที่ 77 บาท
ฝ่ายวิเคราะห์ฯ