- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 25 May 2015 15:48
- Hits: 1072
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แม้ SET อาจยังผันผวนอยู่ แต่ก็มีลุ้นขยับขึ้นต่อได้อีก...
กลยุทธ์ : ถึงแม้ว่าช่วงนี้ SET ยังมีสิทธิที่จะแกว่งตัวผันผวนและย้อนลงได้ แต่กรอบลบคาดว่ายังจำกัด และมีลุ้นบวกต่อได้ในที่สุด ดังนั้นแนะนำให้ถือหุ้นเพื่อรอทำกำไรและขายลดพอร์ตในช่วง SET ดีดขึ้นหาเป้าหมายได้ แต่กรอบขึ้นที่ FSS ประเมินไว้ก็ไม่สูงนัก จึงไม่ควรไล่ซื้อช่วงบวก
หุ้นเด่นทางเทคนิค : TTCL, PS, TPIPL(buy back)
แนวโน้ม : ปลายสัปดาห์ที่แล้ว SET ยังแกว่งตัวผันผวนและมีจังหวะย้อนลบให้เห็นบ้าง เพราะรอบที่ผ่านมาดัชนีขยับขึ้นมาพอควรแล้ว รวมทั้งตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ก็ยังแกว่งตัวค่อนข้างไร้ทิศทาง เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาหนุนตลาด ขณะที่เช้านี้อาจได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลงของตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดเป็นลบ หลังจากประธานเฟดส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ จึงทำให้ SET ยังมีโอกาสที่จะแกว่งตัวผันผวนและย้อนลบต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ก่อนได้อีก อย่างไรก็ตามกระแสข่าวที่ว่า ECB จะเพิ่มวงเงินซื้อพันธบัตรในเดือน พ.ค.และ มิ.ย. ยังช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นยุโรปบางแห่งสามารถปิดเป็นบวก ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เปิดเป็นบวกได้ และแรงซื้อจากนักลงทุนต่างประเทศในบ้านเราที่ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องในระยะหลัง ก็น่าจะพอสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดหุ้นบ้านเราได้บ้าง ทำให้ FSS ยังคาดว่าโอกาสที่ SET จะลุ้นแกว่งบวกต่อขึ้นไปหาระดับดัชนีเป้าหมายของปีนี้ที่บริเวณ 1560 จุดหรือใกล้เคียงยังมีความเป็นไปได้ ดังนั้นยังแนะนำให้เน้นถือเพื่อรอจังหวะขายทำกำไรลดพอร์ตในช่วงดัชนีวิ่งขึ้นหาเป้าหมายได้
แนวรับ 1522-1518 , 1516-1513 จุด
แนวต้าน 1528-1530 , 1533-1536 จุด
Fund Flow สัปดาห์ที่ผ่านมาไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคเพิ่มขึ้นเป็น US$671 ล้าน จาก US$382 ล้านสัปดาห์ก่อนหน้า ส่วนวันศุกร์ไหลเข้าในปริมาณเบาบาง โดยซื้อเกาหลีใต้ US$261.8 ล้าน ไต้หวัน US$90.2 ล้าน ไทย US$68.8 ล้าน และเวียดนาม US$6.7 ล้าน แต่ขายอินโดนีเซียย US$39.3 ล้าน และฟิลิปปินส์ US$14.3 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง Flow น่าจะไหลเข้าแต่เบาบาง
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) Yellen ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยปีนี้ แต่ปรับขึ้นอย่างช้าๆและใช้เวลาหลายปีกว่าอัตราดอกเบี้ยจะเข้าสู่ระดับปกติ เงินดอลลาร์แข็งค่า ตลาดหุ้นสหรัฐแกว่งแคบ แต่ Yield พันธบัตรขยับสูงขึ้นตามคาดการณ์การปรับขึ้นดอกเบี้ย คาดมีผลต่อตลาดหุ้นไทยจำกัด
(0) สัปดาห์นี้หนักไปด้วยตัวเลขเศรษฐกิจ พรุ่งนี้มีตัวเลขส่งออกเดือน เม.ย. มีโอกาสหดตัวต่อจาก 1Q15 ที่ -4.7% Y-Y (เป็นลบกับกลุ่มส่งออก) วันศุกร์เป็นรายงานเศรษฐกิจเดือน เม.ย. หากเศรษฐกิจโดยรวมไม่แย่ไปกว่าเดิม น่าจะช่วยประคองตลาดหุ้นได้ ส่วนในต่างประเทศ มีรายงาน GDP 1Q15 ของสหรัฐและฟิลิปินส์ และปลายสัปดาห์ ความกังวลเรื่องการชำระหนี้ของกรีซจะกลับมาใหม่เพราะครบกำหนดที่กรีซต้องยื่นแผนปฎิรูปเพื่อขอรับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม
(0) กลุ่มสื่อสารดูน่าสนใจ ส่วนแบงก์น่าจะกดดันตลาดต่อ SET ที่ปรับขึ้นจาก 1,485 จุดเมื่อ 12 พ.ค. ขับเคลื่อนด้วยกลุ่ม Contractor และ Tourism ขณะที่ Bank ฉุดตลาด ซึ่งเชื่อว่าน่าจะกดดันตลาดอีกระยะแม้ Valuations จะถูกแล้วก็ตาม ส่วน Contractor และ Tourism เริ่มมี PE แพงมาก แต่กลุ่มสื่อสารกลับน่าสนใจเพราะ laggard หลายตัวให้ปันผลสูงและ PE ยังไม่แพงไป และไม่มีที่ก.คลังถือหุ้น แนะนำ ADVANC, INTUCH
(+) TPIPL หากตัดอัตราแลกเปลี่ยนออก ผลประกอบการ 1Q15 ขาดทุนปกติ 228 ล้านบาท จากผลขาดทุนจากสินค้าคงเหลือในธุรกิจปิโตรเคมี ขณะที่ธุรกิจซีเมนต์กำไรชะลอเล็กน้อย ส่วนโรงไฟฟ้ามีรายได้และกำไรเพิ่มถึง 81% Y-Y และ 93% Y-Y ตามลำดับจากโรงไฟฟ้าขยะ 18MW ที่เริ่มดำเนินการ ก.พ. 2015 แนวโน้มผลประกอบการ 2Q15 น่าจะชะลอ Q-Q ถูกฉุดด้วยธุรกิจซีเมนต์ซึ่งเป็น low season แต่จะโตก้าวกระโดดใน 2H15 เพราะตั้งแต่ มิ.ย. จะเริ่มรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าขยะอีก 55MW และโรงปูนสายการผลิตที่ 4 กำลังผลิต 4.5 ล้านตัน เรายังคงคาดผลประกอบการปีนี้จะ turnaround กำไรปกติโต 285% Y-Y ยังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 3.50 บาท
(0) BDMS การบริโภคในประเทศที่ยังไม่ฟื้นกระทบโรงพยาบาลระดับกลาง-ล่างของ BDMS ทำให้รายได้ เม.ย.-พ.ค. โตราว 7% Y-Y ต่ำกว่า 1Q15 ที่โต 10% Y-Y แต่ในส่วนของผู้ป่วยต่างชาติยังเติบโตได้ดีชดเชยผลกระทบดังกล่าวได้บ้าง เรายังคาดกำไรทั้งปีโต 26.7% Y-Y แต่ราคาหุ้นมี upside จำกัดจากราคาเป้าหมาย 20.50 จึงแนะนำถือ สำหรับประเด็นการควบคุมค่ารักษาพยาบาล ผู้บริหารมีมุมมองเช่นเดียวกับเราคือทำได้ยาก ทั้งนี้ แนวโน้มกำไร 2Q15 ของ BDMS ต่างจาก BH ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ดีเพราะอิงลูกค้าต่างชาติเป็นหลัก แต่เราแนะนำขาย BH เพราะราคาหุ้นเกินเป้า 165 บาทไปมาก
MSCI Index Semi-annual Review การปรับเปลี่ยนหุ้นอิงราคาปิด 29 พ.ค. นี้ มีหุ้น small cap ของไทย 14 ตัวเข้าคำนวณในดัชนีคือ BA, BEAUTY, CBG, EPG, IMPACT, IFEC, MTLS, PLANB, PTG, SIM, SCN, TSE, UNIQ, WORK ส่วนหุ้นที่เอาออกมี 2 ตัวคือ JMART, TPIPL
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวลงเล็กน้อยหลังจาก FED เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่จะเปิดเผยในเดือน มิ.ย. อาจไม่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะทำให้รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนบวกเนื่องจากได้แรงหนุนจากกลุ่มสื่อสารและกลุ่มธนาคาร รวมถึงการคาดการณ์ ECB จะเพิ่มวงเงินการซื้อพันธบัตรในช่วงเดือน พ.ค.และมิ.ย.
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ปิดทำการ อย่างไรก็ตามตลาด ส่วนใหญ่จับตาดูแนวโน้มนโยบายการเงินของ BoJ
ค่าเงินบาทยังแกว่งตัวออกด้านข้างในกรอบจำกัด ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 33.44-33.53 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ค. ปิดที่ 58.98 เหรียญ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.99 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจาก EIA เปิดเผย สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดที่ 1,208.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 2.00 เหรียญ/ออนซ์ นักลงทุนจับตาดูรายงานการประชุมเดือนเม.ย.ของ FED ซึ่งจะมีการเปิดเผยหลังจากตลาดทองคำปิดทำการแล้ว
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
25 พ.ค. - ไทย:ครม.ประชุมวาระพิเศษแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ, ยอดขายรถ (เม.ย.)
- ตลาดหุ้นสหรัฐ ฮ่องกง เกาหลีใต้ ปิดทำการ
26 พ.ค. - ไทย:ดุลการค้า (เม.ย.)
- สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (เม.ย.), ยอดขายบ้านใหม่ (เม.ย.), S&P/CaseShiller Index (มี.ค.)
28 พ.ค. - ฟิลิปปินส์: 1Q15 GDP
- สหรัฐ: Pending Home Sales (เม.ย.)
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (พ.ค.)
29 พ.ค. - MSCI Index Semi-annual Review การปรับเปลี่ยนหุ้นอิงราคาปิดวันนี้
- ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน เม.ย.,ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เม.ย.)
- สหรัฐ: 1Q15 GDP
- กรีซ:เจ้าหนี้กำหนดให้กรีซยื่นแผนปฎิรูปเพื่อขอรับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม
1 มิ.ย. - ไทย:อัตราเงินเฟ้อ (พ.ค.)
- จีน:Manufacturing PMI (พ.ค.)
- สหรัฐ:Personal income, Personal spending (เม.ย.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research