- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 25 May 2015 15:46
- Hits: 1174
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Defensive Stock
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ที่ผ่านมา ยังไม่สามารถยืนเหนือ 1,530 จุดได้ แรงขายหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และหุ้นหลักที่ขึ้นมาอย่างแข็งแกร่งก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็น PTT / AOT / SCC อีกทั้งเป็นการซื้อขายวันสุดท้ายของสัปดาห์ ทำให้เกิดแรงขายปิดความเสี่ยงช่วงวันหยุด ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,523.86 จุด ลบ 2.39 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเพียง 38,512 ล้านบาท
ขณะที่กระแสเงินทุนต่างชาติเป็นกลางต่อเนื่อง ซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 อีก 2,303 ล้านบาท แต่กลับมา Short สุทธิใน SET50 Index Futures อีกครั้ง 6,145 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้ 792 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ประธานเฟดยืนยันยันที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แม้ว่าขึ้นแล้วจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว
ทุกตลาดในสหรัฐฯ ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวัน Memorial Day
วันนี้ตลาดหุ้น HSKI / เกาหลีใต้/ อังกฤษ / เยอรมัน ปิดทำการ
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองเป็น "กลาง" วันที่ 40 พร้อมประเมินกรอบแกว่ง SET INDEX ระหว่าง 1,515-1,530 จุด และมูลค่าการซื้อขายเบาบางต่อเนื่อง เพราะนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ต่างรอดูตัวเลขการส่งออกเดือนเม.ย.ของไทยในวันพรุ่งนี้ เพื่อประเมินภาพรวมเศรษฐกิจใน 2Q58 อย่างไรก็ตาม นักลงทุนไม่ได้คาดหวังที่จะเห็นตัวเลขการส่งออกพลิกกลับมาเป็นบวกลักษณะ yoy หรือ ฟื้นตัว qoq เพราะเดือนเม.ย.เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งภาคการผลิตปิดทำการเป็นจำนวนมาก
ขณะที่ประธานเฟด ยืนยันที่จะพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายภายในปี 2558 แม้ว่าการตัดสินใจดังกล่าวจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลงก็ตาม ทำให้ความเสี่ยงต่อตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงกดดันจิตวิทยาการลงทุนในช่วง 3-5 เดือนข้างหน้า ณ ปัจจุบัน ตลาดประเมินว่าเฟดจะพิจารณาขึ้นในการประชุมเดือนก.ย.นี้
ดังนั้นตลาดหุ้นไทยจะกลับมามีสัญญาณที่ดีขึ้น พร้อมกับมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นขึ้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานด้านเศรษฐกิจไทยเป็นสำคัญ ทั้งการส่งออก / การบริโภคภายในประเทศ และการใช้จ่ายของภาครัฐ ซึ่งอยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาขั้นตอนต่างๆ เราเชื่อว่าแผนการลงทุนขนาดใหญ่จะเห็นเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นใน 3Q58
เช้านี้ตลาดหุ้นเอเชีย Nikkei เปิดบวกหลังยอดส่งออกเดือน เม.ย.ออกมาดีกว่าคาด ส่วน Kospi ปิดทำการวันนี้
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนทยอยสะสมหุ้นเป้าหมายบริเวณ SET INDEX ที่ 1,510-1,520 จุด ในส่วนแรก"
Top Pick in 2Q15: ITD / TASCO / TPIPL/ WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ MONO / TASCO/ WHA/ THAI/ BCP
Accumulative Buy: INTUCH
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "ทยอยสะสม" ได้แก่
1. INTUCH : ราคาปิด 78.25 บาท ราคาเหมาะสม 114.00 บาท
a) MBKET เชื่อว่าหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง จะ Outperform ตลาดได้ในระยะนี้ เนื่องจากภาวะตลาดที่ผันผวน และอัตราดอกเบี้ยในประเทศอยู่ในระดับต่ำเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มเงินปันผลสูง
b) คงมุมมองเชิงบวกต่อภาพระยะกลางของหุ้นกลุ่มสื่อสาร จากการประมูล 4G ในช่วงปลายปี และเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ปลดล๊อกความกังวลเรื่องคลื่นความถี่ของ ADVANC ที่จะหมดอายุสัมปทานลงในปี 2558
c) ขณะที่ THCOM เข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการลงทุน และมีการเติบโตของกำไรที่สูง โดยคาดกว่ากำไรสุทธิปี 2558 จะเติบโต +25.7% yoy จากการรับรู้รายได้ของดาวเทียมไทยคม 6 และ IPSTAR ที่มีอัตราการใช้งานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
d) คาดการณ์เงินปันผลปี 2558 หุ้นละ 5.29 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 6.8%
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียซื้อสุทธิอีกครั้ง US$374 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$239 ล้าน
เน้นสะสม Kospi อย่างต่อเนื่อง
Foreign Investors Action วานนี้
กระแสเงินทุนต่างชาติชะลอตัว
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 เร่งขึ้นเป็น 2,303 ล้านบาท รวม 3 วันทำการซื้อสุทธิ 5,230 ล้านบาท เทียบกับ 4 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิขายสุทธิ 2,483 ล้านบาท ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิลดลงเหลือ 5,484 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures วานนี้ นักลงทุนต่างชาติกลับมา Short สุทธิมากถึง 6,145 สัญญา คาดเป็นการกลับมาเปิดสถานะ Short อีกครั้ง เมื่อ S50M15 กลับมาปิดสูงกว่า SET50 Index เป็นวันแรกในรอบ 10 วันทำการ 0.02bps จากวันก่อนหน้าปิด Discount เท่ากับ 1.71 จุด ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้มีสถานะเป็น Short สุทธิขยับมากขึ้นเป็น 12,932 สัญญา
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาขายสุทธิ 792 ล้านบาท เมื่อราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยขยับขึ้นเป็นวันที่ 2 ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงเป็นวันที่ 2 มากถึง 2.01bps จากวันก่อนหน้าลดลง 2.27bps ปิดล่าสุดที่ 2.819%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงเหลือ 979 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 1,053 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 6 เน้นสะสม ADVANC / SCC / AOT
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิเร่งขึ้นเป็น 1,800 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 584 ล้านบาท รวม 6 วันทำการซื้อสุทธิ 6,253 ล้านบาท สรุปภาพรวม NVDR ได้ดังนี้
1. กลุ่ม ICT ถูกซื้อสุทธิสูงสุด 790 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 349 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ซื้อสุทธิ 420 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 254 ล้านบาท กลุ่มขนส่ง ซื้อสุทธิ 282 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 641 ล้านบาท กลุ่มโรงพยาบาล ซื้อสุทธิ 134 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มค้าปลีก โดนขายสุทธิสูงสุด 75 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ประธานเฟดยืนยันขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้: แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ใน 1Q58 จะเติบโตชะลอตัว แต่ไม่ได้ทำให้เฟดล้มเลิกความตั้งใจในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ ด้านตลาดแรงงานแม้ว่าจะยังไม่กลับไปอยู่ในระดับที่ควรเป็นก็ตาม แต่หากเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตามที่ประธานเฟดคาดหวังไว้ เฟดก็พร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ทั้งนี้เฟดจะใช้เงื่อนไข 2 ส่วนในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย คือ ตลาดแรงงาน และอัตราเงินเฟ้อที่จะกลับสู่เป้าหมาย 2.0% ในระยะกลาง
ยุโรป
ตัวเลขเศรษฐกิจอียู ชะลอตัว
เงินลงทุนเยอรมันใน 1Q58 เพิ่มขึ้น 1.5% qoq ส่วนการบริโภคภาคเอกชน เพิ่มขึ้น 0.6% qoq ส่งผลให้ GDP ใน 1Q58 ของเยอรมันเติบโต 0.3% qoq ชะลอตัวจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัว 0.7% qoq
ECB เตรียมแผนฉุกเฉินให้กับธนาคารพาณิชย์ของกรีซ: หลังนายกฯ กรีซ ยังไม่สามารถหาข้อสรุปกับผู้นำอียู ในแผนการช่วยเหลือ โดย EC เตรียมหาแนวทางในการบริหารจัดการ หากสถาบันการเงินในกรีซ เกิดความล้มเหลว และอาจส่งผลกระทบต่อนักลงทุนในวงกว้าง
จีน
ไม่มี
เอเชียแปซิฟิก
BoJ คงนโยบายการเงินตามคาด: คงเป้าหมายการเพิ่มปริมาณเงิน Yen80ล้านล้าน/ปี พร้อมส่งสัญญาณไม่จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพราะสัญญาณทางเศรษฐกิจทำงานได้ดี แม้ว่าราคาน้ำมันที่มีผลต่ออัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับต่ำ ก็ตาม
อัตราเงินเฟ้อมาเลเซียเร่งตัวขึ้น: เดือน เม.ย.เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 1.8% yoy จากเดือน มี.ค. +0.9% yoy แต่ยังต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดเพิ่มขึ้น 2.2% yoy ทั้งนี้ราคาอาหารเพิ่มขึ้น ขณะที่การขนส่งปรับตัวลง โดยธนาคารกลางคาดอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในกรอบ 2-3% ในปีนี้
เศรษฐกิจไต้หวันชะลอตัวลง: GDP ใน 1Q58 ขยายตัว 3.37% yoy ชะลอตัวลงจากในช่วง 4Q57 ที่เติบโต 3.46% yoy และเป็นการเติบโตต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดเติบโต 3.50% yoy ทั้งนี้ภาคการเกษตรหดตัว 6.37% yoy ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมและบริการขยายตัวได้ 5.91% yoyและ 1.24% yoy ตามลำดับ
ยอดส่งออกญี่ปุ่นขยายตัวดีกว่าคาด: เพิ่มขึ้น 8.0% yoy ในเดือน เม.ย. ชะลอตัวลงเล็กน้อยจากเดือน มี.ค.ที่ขยายตัว 8.5% yoy และมากกว่าที่ Bloomberg Consensus คาด 6.0% yoy เป็นผลจากการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ทำให้เงินเยนอ่อนค่าลงช่วยเร่งภาคการส่งออกให้ฟื้นตัวขึ้น อีกทั้งเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ฟื้นตัวช่วยเร่งการส่งออกของญี่ปุ่นด้วย สร้างความคาดหวังเชิงบวกต่อเศรษฐกิจใน 2Q58 จะขยายตัวได้ดีต่อเนื่องจากใน 1Q58 ที่ผ่านมา
ไทย
ไม่มี
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530