WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

AIRA copyบล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
   (+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +0.34, NASDAQ +19.05, S&P +4.97, FTSE +6.21, CAC +13.40 และ DAX +16.12 โดย DJIA เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่สามารถปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากสหรัฐฯ ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว ดังนี้ 1) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นมากเกินคาด 2) ยอดขายบ้านมือสองลดลงเกินคาด และ 3) ดัชนีการกิจกรรมผลิตในเขตมิดแอตแลนติกของสหรัฐฯลดลงเกินคาด ส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือน มิ.ย. นี้ โดยเฟดอาจจะเลื่อนเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปจนกว่าจะถึงช่วงต้นปี ’59
  .....ทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังคงไร้ทิศทาง โดยภาคเอกชนของเยอรมันชะลอการเติบโตลงในเดือน พ.ค. ในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของฝรั่งเศสปรับตัวดีขึ้น
  …..ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ก.ค. +US$1.74 อยู่ที่ US$60.72 ต่อบาร์เรล จากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิง ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมันลดลง แสดงถึงภาวะอุปทานส่วนเกินที่อ่อนตัวลง
  ......ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน มิ.ย. -US$4.6 อยู่ที่ US$1,204.1 ต่อออนซ์ จากการขายทำกำไร อย่างไรก็ตามราคาทองยังได้รับปัจจัยบวกการการที่เฟดยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. นี้
   (+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +943 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -7,788 ล้านบาท (ปี’57 มียอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)

 

ทิศทางตลาด
  ทิศทางตลาด : แกว่งตัวออกด้านข้าง? คาดดัชนีจะเคลื่อนไหวแกว่งตัว (sideway) ต่อไปอีกระยะ เนื่องจากดัชนีหุ้นแต่ละกลุ่มปรับขึ้น-ลงสวนทางกัน แต่คาดว่ายังได้รับปัจจัยบวกจากประเด็นความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ส่งผลให้เกิดการคาดการณ์ว่าเฟดอาจยังไม่พิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรอบการประชุมเดือน มิ.ย. นี้ และล่าสุดคาดการณ์ว่าจะอยู่ในช่วงต้นปี ’59 และยังคงจับตาความไม่แน่นอนต่อสถานการณ์กรีซ โดยเฉพาะปัญหาสภาพคล่อง ซึ่งหากกรณีเลวร้ายสุดอาจส่งผลกระทบต่อกรีซและอาจลุกลามไปยังประเทศต่างๆ ใน EU หากไม่สามารถเจรจาข้อตกลงกับกลุ่มเจ้าหนี้ได้ โดยกรีซมีหนี้ที่ครบกำหนดชำระต่อ IMF ในเดือนมิ.ย. รวมแล้วอีกประมาณ 929 ล้านยูโร ทำให้คาดยังเป็นปัจจัยที่กดดันภาพรวมตลาดต่อเนื่อง
  .....ทางด้านปัจจัยในประเทศ คาดยังได้รับปัจจัยลบจากตัวเลข GDP – 1Q/58 ที่ออกมาต่ำกว่าคาด และคาดตลาดยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ได้ส่งผลกระทบต่อหุ้นในกลุ่มธนาคาร, สื่อสาร และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งยังไม่เหมาะที่จะเข้าเก็งกำไรในช่วงนี้ ในขณะที่ Fund Flow ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิประมาณ 943 ล้านบาท และยังแนะจับตาแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มพลังงาน เช่น PTT ตามการปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบ และกลุ่มโรงกลั่น เช่น TOP, PTTGC, IRPC และ BCP จากค่าการกลั่นที่อยู่ในระดับสูง
  .....รวมถึงติดตามต่อเนื่อง (1) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น CK, ITD, SEAFCO, TRC และ UNIQ (2) ค่าเงินบาทที่มีทิศทางอ่อนค่าอีกครั้ง โดยเคลื่อนไหวบริเวณ 33.51 ส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เช่น DELTA, HANA, SMT (3) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่แนวโน้มผลการดำเนินงานจะออกมาดีต่อเนื่อง เช่น SCC, TASCO
  ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.07 อยู่ที่ 2.19% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -0.77 อยู่ที่ 12.11
  หุ้นแนะนำ : ITD

ประเด็นที่ต้องติดตาม (22 พค.’58)
   22/5/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) - เมย. (2) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้น – พ.ค.

นักวิเคราะห์ : ศักดิ์นรินทร์ ศศานนท์ 02-684-8789

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!